X

เปิดประตูท่องเที่ยวเชียงใหม่-เวียดนาม ตอนที่ 1

เมื่อการเชื่อมโยงโลกของอาเซียนเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ ความร่วมมือที่จะมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) หรือที่เราเรียกกันย่อๆว่า AEC โดยการรวมตัวของชาติใน Asean 10 ประเทศ โดยมี ไทย, พม่า, ลาว, เวียดนาม, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, บรูไน เพื่อที่จะให้มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน เป็นการเปิดประตูการเชื่อมโยงทั้งเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ทุกประเทศในกลุ่มอาเซียนต่างให้ความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง

สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Socialist Republic of Vietnam) นับเป็นดินแดนที่คนไทยให้ความสนใจในเรื่องเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย ว่ากันว่า ชาวเวียดนาม ชื่นชอบคนไทย เพราะด้วยประวัติศาสตร์ชาติไทยกับเวียดนามเป็นเหมือนพี่น้องที่เอื้อเฟื้อต่อกันมาแต่ยุคสงคราม การท่องเที่ยวของเวียดนามจึงเชื่อมโยงกับไทยได้ในขั้นดี ขณะที่เวียดนามก็เปิดประเทศเป็นดินแดนแห่งการท่องเที่ยวได้หลากหลายแนว อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนามที่มีศักยภาพมากมายกำลังมีโอกาสเพื่อพัฒนาอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นหน่วยงานเศรษฐกิจหลักในขณะนี้

โปรแกรมการท่องเที่ยวเวียดนาม ทั้งเส้นทางภาคเหนือ เมืองแห่งขุนเขาและความหนาวเย็น ที่ฮานอย ฮาลองเบย์ ฮาลองบก ,เวียดนามกลาง เว้ ดานัง ฮอยอัน และเวียดนามใต้ คือ นครโฮจิมินทร์ และดินแดนแห่งทะเลทรายแดงที่มุยเน่ เป็นที่นิยมมาก

เรื่องราวที่จะกล่าวถึงเวียดนามในครั้งนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนเวียดนามกลางซึ่งก่อนไหน้านี้รู้จักและเคยไปแต่ เว้ และดานังเมืองทะเล คราวนี้มีโอกาสได้รู้จักเมือง หรือจังหวัดชื่อแปลกออกเสียงยากขึ้นมาอีกนิด คือเมือง กวางบิ่งห์ เขียนภาษาอังกฤษว่า Quang Binh คนไทยบางคนออกเสียง กวางบิ่นห์ จะเรียกอะไรก็ตาม แต่ว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ยังมีความสดใหม่ มีชายหาดที่สงบเงียบ ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบนของเวียดนาม มีเมืองหลวงชื่อ ด่งฮอย (Dong Hoi) เมืองท่องเที่ยวชื่อดังที่เป็นที่ตั้งของป้อมปราการสมัยศตวรรษที่ 19 บนอาณาเขตพื้นที่รูปดาว รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และเส้นทาง หาดทรายสีขาวที่ทอดยาวที่สุดในประเทศเวียดนามถึง 125 กม.อยู่ห่างจากสนามบินไม่ไกลมากนักนักท่องเที่ยวสามารถพักที่โรงแรมตลอดแนวริมทะเล แล้วเดินลงมาชมวิว หรือจะชมจากดากฟ้าของโรงแรม ก็ได้ความรู้สึกแตกต่างกัน มองเห็นแม่น้ำสายหลัก ไหลลงสู่ทะเล คล้ายปากน้ำสมุทรปราการประเทศไทย ที่นี่มีร้านขายอาหารทะเลแบบตั้งโต๊ะริมถนน ได้บรรยากาศแบบเวียดนาม

ไฮไลท์ของกวางบิ่งห์ ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกที่นักท่องเที่ยวเชิงนิเวศทั่วโลกรู้จักกันดี คือ อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง (Phong Nha) ที่เต็มไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์และถ้ำหินปูนน้อยใหญ่กว่า 300 ถ้า รวมถึงถ้ำขนาดใหญ่เรียกว่าถ้ำ เซินด่อง ซึ่งรายการทีวีชื่อดังทั่วโลกเข้ามาถ่ายทำ รวมถึงรายการดัง ของเมืองไทย โดย “วูดดี้” ก็ไปเยี่ยมชมมาแล้ว

การเดินทางไปท่องเที่ยวเมือง กวางบิ่งห์ของผู้เขียนคราวนี้ (วันที่ 17-21พ.ย.2560)นับเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของตัวผู้เขียนเอง และชาวกวางบิ่นห์ด้วยเช่นกัน เพราะเกิดจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยว เมืองกวางบิ่งห์ ด่งฮอย กับ สายการบิน เจทสตาร์ ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดชั้นนำของประเทศเวียดนาม จับมือกับ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเส้นทางบินตรง จาก กวางบิ่นห์ ถึง จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทยเป็นครั้งแรก และถือโอกาสยกระดับ สนามบินด่งฮอย จากที่เคยเป็นสนามบินภายในประเทศ ให้เป็นสนามบินนานาชาติ เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 พร้อมกับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ โดยหลังจากนี้จะมี 3 สายการบินมาเปิดเส้นทางจากเวียดนามกลาง เวียดนามเหนือ เวียดนามใต้เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ มากกว่า 30,000 คนใน ปี 2561

ดร.บุญทา ชัยเลิศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว เมื่อเปิดเที่ยวบินเชื่อมระหว่างเชียงใหม่กับกวางบิงห์ แล้ว จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมาระหว่างสองเมือง ใน 1 ปีจะมีรายได้จากการท่องเที่ยหมุนเวียนในหลายหมื่นล้านบาท และเชื่อว่าจะเกิดความร่วมมืออย่างต่อเนื่องเพราะ ทางกวางบิงห์ มีความยินดีจะเชิญชวนนักลงทุนไทย ให้เข้ามาลงทุนด้านการท่องเที่ยวซึ่งกำลังจะเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ

คณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้องใน สำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดกวางบิงห์ ประกอบด้วย Mr.HO AN PHONG ผู้อำนวยการท่องเที่ยว, Mr.NGUYEN VAN KY ,Mr. LE THE LUC รองผู้อำนวยการท่องเที่ยว และ Mr.VO HONG QUAN รองผู้อำนวยการวางแผนและการลงทุนจังหวัด กวางบิงห์ กล่าวในที่ประชุมการหารือการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ร่วมกับคณะที่เดินทางไปจากเชียงใหม่ครั้งนี้ว่า ทุกฝ่ายพร้อมให้การสนับสนุนและเชิญชวนให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุน อีกมากมาย โดยธุรกิจที่มีความพร้อมมากขณะนี้ คือโรงแรมระดับ  3-6 ดาวมากกว่า 100 แห่ง รวมห้องพักมากกว่า 3,000 ห้อง รายล้อมอยู่ในตัวเมือง “ด่งฮอย” และในกวางบิงนห์

มีรายงานตัวเลขของนักท่องเที่ยวกว่าปีละไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวราว 5,000ล้านบาท โดยคาดว่าในอีก3ปีข้างหน้าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 5 ล้านคน  แต่ภาพรวมยังขาดธุรกิจเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ธุรกิจให้บริการทัวร์ ผู้ให้บริการอื่นๆยังมีน้อยมาก ปัจจุบันบริษัทที่ให้บริการท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ ในรายเดียวกัน มีเพียง 3 บริษัทเท่านั้น ที่เหลือเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นรายย่อยๆ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของนักลงทุนที่จะได้รับการสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวและรัฐบาลของกวางบิ่งห์ให้เติบโตไปพร้อมกัน

ความตื่นเต้นของการท่องเที่ยว ดินแดนแห่งชายหาด คณะที่เราเดินทางไปด้วยการนำของ ดร.บุญทา ชัยเลิศ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ มีคณะผู้บริหารการท่องเที่ยว รวมถึงสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว กวางบิงห์ ด่งฮอย ให้การต้อนรับด้วยการนำพาไปชมเส้นทางท่องเที่ยวครบทุกรสชาติ ซึ่งเราทั้งคณะต่างก็ยอมรับว่า เมืองนี้มีศักยภาพและมีความพร้อมจะเติบโต อีกมากโข

โปรดติดตาม อ่านเรื่องราวของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ในหัวข้อเรื่อง เปิดประตูท่องเที่ยวเชียงใหม่-กวางบิงห์ ตอนที่ 2

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ทศพร โชคชัยผล

ทศพร โชคชัยผล

ทำงานข่าวกว่า 20 ปี มีความสนใจความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในหลายมิติ ผ่านประสบการณ์ทำข่าวสายเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล