คนร้ายงัดร้านทองเข้าไปลักทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 17 บาท

ที่จังหวัดยโสธรเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาได้มีคนร้ายงัดประตูหลังร้านทองเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินภายในร้านและลักเอาทองคำรูปพรรณชนิดต่างๆน้ำหนักรวม 17 บาท ก่อนหลบหนีลอยนวล

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร้อยตำรวจเอกบรรจง หาญพังงู ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์เป็นทองคำรูปพรรณน้ำหนักจำนวนหลายบาทโดยเหตุเกิดที่ร้านทองเยาวราช ตั้งอยู่ตรงข้ามกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขามหาชนะชัย จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดยโสธรเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับได้เก็บรอยนิ้วมือแฝงเพื่อตรวจหาร่องรอยของคนร้าย โดยพบว่าที่ประตูด้านหลังร้านมีร่องรอยถูกงัดจนเปิดออกก่อนที่คนร้ายจะเข้าไปภายในร้านทองและรื้อค้นหาทรัพย์สินภายในร้านก่อนที่จะได้ลักเอาทองคำรูปพรรณชนิดต่างๆทั้งสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ แหวนและต่างหู มีน้ำหนักรวม 17 บาท ซึ่งเจ้าของร้านได้เก็บเอาไว้ภายในลิ้นชักเคาเตอร์จำหน่ายทองคำหน้าร้านหลบหนีไป ส่วนตู้เซฟที่ใช้เก็บทองคำรูปพรรณทั้งหมดที่อยู่ทางด้านหลังร้านยังอยู่ในสภาพปกติไม่พบว่ามีร่องรอยถูกงัด แต่ในระหว่างที่คนร้ายกำลังหลบหนีออกทางด้านหลังร้านมีเพื่อนบ้านข้างเคียงพบเห็นผู้ก่อเหตุเป็นชายกระโดดข้ามกำแพงรั้วบ้านหลบหนีไปอย่างรวดเร็วจึงตะโกนเรียกให้เจ้าของร้านทราบแต่ไม่สามารถติดตามได้ทัน
จากการสอบถาม นางสาวอารีสุข โสหา อยู่บ้านเลขที่ 279 หมู่ 2 ตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เจ้าของร้านทอง บอกว่า หลังจากปิดร้านเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตนก็ได้เก็บทองคำรูปพรรณทั้งหมดใส่เซฟเก็บเอาไว้แต่ลืมไปว่ามีทองคำรูปพรรณอีกบางส่วนซึ่งเป็นทองที่รับแลกเปลี่ยนมาจากลูกค้าที่เก็บเอาไว้ในลิ้นชักเคาเตอร์หน้าร้านก่อนที่ตนจะขึ้นไปนอนบนบ้านชั้นสองตามปกติ จนกระทั่งเช้าเวลาประมาณ 6 โมงเศษ ตนตื่นขึ้นมาและเดินทางมาชั้นล่างจึงพบว่ามีสิ่งของถูกรื้อค้นกระจัดกระจายและประตูหลังบ้านถูกงัดจนเปิดออกก่อนตนไปสำรวจทรัพย์สินภายในร้านจึงพบว่ามีทองคำรูปพรรณชนิดต่างๆที่เก็บเอาไว้ในลิ้นชักเคาเตอร์น้ำหนักรวม 17 บาท มูลค่าประมาณ 340,000 บาท หายไปจึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและในขณะนั้นได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่าพบเห็นคนร้ายเป็นชายวิ่งออกจากทางด้นหลังร้านก่อนที่จะกระโดดข้ามกำแพงรั้วบ้านหลบหนีไป ส่วนกล้องวงจรปิดภายในร้านเสียไปนานแล้วแต่ตนยังไม่ได้ซ่อมเพราะไม่คิดว่าจะมีคนร้ายบุกเข้าไปลักทรัพย์ภายในร้านดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งลงพื้นที่เพื่อสืบสวนติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป