ผู้กำกับหนังฯเดินเท้าเพื่อผู้พิทักษ์ป่า ต่อยอด “ตูน บอดี้สแลม”

ปราจีนบุรี – เดินเพื่อผู้พิทักษ์ป่า !! ผู้กำกับหนังแนวอินดี้เดินเท้านำเงินบริจาคมอบให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ต่อยอด “ตูน บอดี้สแลม” เดินเท้าจาก กทม.นำเงินบริจาคมอบให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำหรับใช้จ่ายในการพิทักษ์ป่าและดูแลสัตว์ป่า

เมื่อวันที่ 12 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีชายเดินเท้าจากกรุงเทพมหานคร เพื่อนำเงินจำนวนหนึ่งมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ บนอุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดปราจีนบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งชายคนดังกล่าวเดินทางตามถนนสายสุวรรณศร ทางหลวงหมายเลข 33 ผ่านบริเวณสี่แยกหนองชะอม ซึ่งจากการเข้าไปสอบถาม ทราบว่าคือ นายสมชาย วชิระจงกล อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 243/143 ลาดพร้าว ซ.1 จตุจักร กรุงเทพฯ และเป็นผู้กำกับภาพยนตร์แนวอินดี้ นอกจากนั้น ยังเป็นผู้ดูแลเพจบนเฟสบุ๊คในชื่อ “จุดกางเต็นท์”ด้วย

ทั้งนี้ นายสมชาย บอกว่า วัตถุประสงค์ในการเดินครั้งนี้ เนื่องมาจากเพื่อนแอดมินเพจจุดกางเต็นท์ ได้มีความคิดที่จะนำสิ่งของเครื่องใช้ในการเดินป่า ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า บนอุทยานแห่งชาติทับลาน หน่วยที่ 3 เนื่องจากบริเวณนั้น ยังมีการปลูกป่าเพิ่มเติมยังไม่แล้วเสร็จ แต่ตนเองคิดว่า น่าจะหาทุนเป็นเงินสด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้นำไปซื้อสิ่งของ หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ตรงตามวัตถุประสงค์ของเจ้าหน้าที่

ดังนั้น จึงได้คิดโครงการดังกล่าวขึ้นมา แล้วโพสในเพจ จุดกางเต็นท์ ทำให้มีสมาชิกในกลุ่มร่วมทำบุญ ตนเองจึงมองดูตัวอย่างดีๆ ที่ “พี่ตูน บอดี้แสลม” ทำไว้คือ การวิ่งเพื่อโรงพยาบาล ตนเองจึงได้คิดว่า คนธรรมดาคนหนึ่งที่นำตัวอย่างที่ดี แล้วนำมาสร้างสิ่งดีๆ ให้กับประเทศเราได้ทุกรูปแบบ จึงได้เริ่มออกเดินเท้าจาก ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ในวันที่ 9 พ.ค.61 ผ่านมาตามเส้นทางจังหวัดนครนายก จนกระทั่งมาถึงจังหวัดปราจีนบุรี โดยตลอดเส้นทางมีเพื่อสมาชิกในเพจที่ทราบข่าว ต่างนำเงิน และน้ำดื่มมามอบให้ เพื่อเป็นการระดมทุนช่วยเหลือด้วย

อย่างไรก็ตาม นายสมชายยังบอกอีกว่า ตามกำหนดการเบื้องต้น คาดว่าจะเดินทางไปถึงจุดหมายในวันอาทิตย์ แต่ด้วยอากาศที่ร้อนทำให้เกิดอุปสรรค เป็นแผลพุพองที่เท้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน ต้องให้การช่วยเหลือทำแผลให้ในเบื้องต้นก่อน ทั้งนี้ การทำงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เจ้าหน้าที่ต้องมีความเสียสละในการทำงานที่ลำบาก และต้องใช้ความอดทนสูง ขณะที่ในพื้นที่เองก็มีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย เราในฐานะคนไทย และเพื่อนร่วมโลกใบนี้ ต้องมีความตระหนักถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายว่า ไม่เพียงแต่มนุษย์ที่เป็นเจ้าของโลกใบนี้ สัตว์ป่าเองก็ร่วมอาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกัน และยังมีคุณค่ามากมาย เราควรอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่เบียดเบียนกันและกัน นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปในอุทยานต้องไม่ทำลายสัตว์ป่า และทรัพยากรต่างๆ เพื่อจะได้เก็บไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ต่อไป

————————
ข่าว-ภาพโดย/สายชล หนูแดง