สระแก้ว – หน่วยงานและญาติจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต เหยื่อกรณีรถตู้โดยสารไม่ประจำทางแบบเช่าเหมา รับแรงงานชาวลาวไปประทับตราหนังสือเดินทาง และเกิดอุบัติเหตุชนประสานงากับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 12 ราย ที่บริเวณจุดเกิดอุบัติเหตุ โดยมีผู้ประกอบการ หน่วยงานและญาติคนตายเข้าร่วมพิธีเกือบ 300 คน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 16 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนสาย 317 เยื้องที่ว่าการ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว นายกิตติพงษ์ กิตติคุณ นายอำเภอวังสมบูรณ์ เป็นประธาน ร่วมกับผู้ประกอบการรถตู้โดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง บ.ซีพีเอสฯ หน่วยกู้ภัยสว่างสระแก้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกับญาติของผู้เสียชีวิต กรณีอุบัติเหตุรถตู้โดยสารสาธารณะแบบไม่ประจำทางชนประสานงากับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บริเวณถนนสายสระแก้ว-จันทบุรี พื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านวังใหม่ ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ใกล้กับที่ว่าการอำเภอวังสมบูรณ์ โดยมีผู้ประสบอุบัติเหตุทั้งสิ้น 15 ราย นั่งมากับรถตู้โดยสารซึ่งเป็นแรงงานชาวลาวและคนขับ จำนวน 14 ราย รถบรรทุก 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 12 ราย บาดเจ็บอีก 3 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.08 น.วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวครบ 1 เดือน หน่วยงานและญาติได้ร่วมกันจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตเหยื่อรถตู้โดยสารดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลาว โดยนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 69 รูป มีพระครูศรีอุดมธารคณารักษ์ เจ้าคณะอำเภอวังสมบูรณ์และเจ้าอาวาสวัดวังสมบูรณ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทำพิธีสวดบังสกุล ทำบุญตักบาตร เลี้่ยงเพลพระ อุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตและสร้างความสบายใจให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยมีการตั้งเต็นท์ที่บริเวณจุดที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 300 คน โดยญาติของผู้เสียชีวิตที่เดินทางเข้าร่วมงานปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ เนื่องจากยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจกับอุบัติเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บอุบัติเหตุครั้งนี้ ประกอบด้วย คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนชาวลาว 2 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ตั้งแต่วันเกิดเหตุมี 1 ราย อาการดีขึ้นพูดคุยได้ตอนนี้กลับบ้านได้แล้ว ส่วนอีก 1 ราย ซึ่งมีอาการหนักและดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ญาติได้ไปรักษาต่อในพื้นที่อื่นในปัจจุบันแล้ว
—————————
ภาพโดย/มูลนิธิกู้ภัยสว่างสระแก้ว จุดวังใหม่
