ปราจีนบุรี – คุณตาวัย 62 ปี เดินเท้าจากจังหวัดสุรินทร์เป็นเวลา 5 วัน 5 คืน เพื่อมาเยี่ยมภรรยาที่ รพ.ฉะเชิงเทรา ขอข้าววัดกินตลอดทางเพราะมีเงินติดตัวมาไม่กี่บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังได้รับแจ้งว่า มีคนพบกับชายสูงวัยเดินถือไม้เท้า และสะพายกระเป๋า ใส่เสื้อแขนสั้น นุ่งกางเกงขาก๋วย ตั้งหน้าตั้งตาเดินเดินมาตามถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ขาล่องจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่บริเวณบ้านหนองบุญเกิด ม.2 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ด้วยท่าที่เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า ผู้สื่อข่าวจึงจอดรถเพื่อสอบถามที่มาที่ไปชายสูงวัยรายนี้ ทราบเบื้องต้นว่า เดินทางมาจาก จ.สุรินทร์เป็นเวลา 5 วัน 5 คืนแล้ว ด้วยการเดินเท้าและขออาศัยนอนตามวัด ขอข้าววัดกินตลอดทาง ทราบว่าชื่อภายหลังว่า นายจันทร์ เชิงรัมย์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9849 ม.5 ต.คลองตระเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา
นายจันทร์ เล่าว่า เดินทางไปอยู่กับลูกชายที่ จ.สุรินทร์ ส่วนภรรยาคือนาง สาว เชิงรัมย์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเดิมที่ จ.ฉะเชิงเทรา และป่วยต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ลูกสาวได้โทรศัพท์ไปบอกลูกชาย ลูกชายเดินทางไปเยี่ยมแม่ก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งลูกสาวโทรมาบอกว่า แม่อาการไม่ดีขึ้น ตนจึงตัดสินใจเดินทางจากบ้านท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของลูกชาย มีเงินติดตัวมา 100 บาท เมื่อมาถึงตัวจังหวัดไม่มีเงินค่ารถจึงเดินเท้าออกจากสุรินทร์ เป้าหมายมาที่ จ.ฉะเชิงเทรา ค่ำไหนนอนนั่นอาศัยนอนตามวัด เพราะกลัวถูกทำร้าย ขอข้าวกินกับพระที่วัดกิน พระบางองค์ก็ให้เงินติดตัวไว้ซื้อข้าวซื้อน้ำกินตามทาง และปัจจุบันมีเงินเหลือติดตัว 10 กว่าบาทเท่านั้น การเดินทางครั้งนี้ แม้จะเหนื่อยแต่ก็ต้องทนเพราะห่วงภรรยา ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.รออยู่
ทั้งนี้ ภายหลังผู้สื่อข่าวประสานขอความช่วยเหลือจาก นายวัลลภ ประวัติวงศ์ นายอำเภอกบินทร์บุรี โดยนายอำเภอได้เดินทางมาสอบถามที่มาที่ไปกับนายจันทร์ด้วยตนเองจนทราบเรื่องราวดังกล่าว จากนั้นท่านได้ส่งขึ้นรถโดยสารประจำทางสายฉะเชิงเทรา-อรัญประเทศ พร้อมมอบเงินค่าเดินทางจำนวนหนึ่งแก่นายจันทร์ เชิงรัมย์ เพื่อให้สามารถเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยด้วย
————————-
ข่าว-ภาพ/ทองสุข สิงห์พิมพ์
