X

ทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลคงคลังของประเทศไทย 3,133 ทุ่น จ.สระแก้ว

สระแก้ว – ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลคงคลังของประเทศไทย ครั้งที่ 2 ที่มีอยู่ทั้งหมด จำนวน 3,133 ทุ่น หลังลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการใช้ สะสม ผลิตและโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา ที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว

เมื่อวันที่ 6 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงกลาโหม โดยกองบัญชาการกองทัพไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร ได้จัดการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลคงคลังของประเทศไทย พ.ศ.2562 โดยมี พล.อ.ชัยชนะ นาคเกิด เสนาธิการทหาร เป็นประธาน ที่เนินตรวจการณ์ 152 บ้านภักดีแผ่นดิน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว โดยมี พล.ต.ปิยะพงษ์ กลิ่นพันธ์ ผบ.กองกำลังบูรพา , พล.ต.หทัยเทพ กีรติอังกูร ผบ.มณฑลทหารบกที่ 19 ,นายณัฎฐชัย นำพูนสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งได้เชิญคณะทูตของประเทศที่ให้การสนับสนุนการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมของประเทศไทย ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย ภาคประชาสังคมด้านการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม ร่วมเป็นสักขีพยานด้วย

 

โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการใช้ สะสม ผลิตและโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2540 ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา โดยรัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม โดยมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และได้ตั้งคณะอนุกรรมการด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านการกวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิด ด้านการอำนวยการ ติดตามและประเมินผล ด้านการแจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ประชาชน ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและด้านการประสานงานกับต่างประเทศ และมีผู้แทนจาก ส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมดำเนินงานในคณะอนุกรรมการด้านต่าง ๆ

พล.อ.ชัยชนะ นาคเกิด เสนาธิการทหาร กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นหน่วยปฏิบัติหลักในการดำเนินการทำลายทุ่นระเบิดของประเทศไทย ซึ่งได้ดำเนินการทำลายทุ่นระเบิดตามพันธสัญญามาตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการทำลายทุ่นระเบิดฯ ครั้งนี้ จะดำเนินการระหว่างวันที่ 1-10 สิงหาคม 2562 โดยเป็นความร่วมมือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่มีจำนวนมากถึง 3,133 ทุ่น ซึ่งเป็นการทำลายทุ่นระเบิดครั้งใหญ่ที่สุด หลังจากมีการทำลายระเบิดครั้งแรกที่เขาอีด่าง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา จำนวน 2,651 ลูก หลังเก็บกู้ได้ในรอบ 5 เดือนในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลหมดไปจากประเทศไทย และจะมีผลทำให้ประเทศไทยมีสถานะเป็นรัฐภาคีฯ ที่ไม่มีทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในการครอบครองอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นการแสดงออกถึงเจตนารมณ์และความจริงใจของประเทศไทยในการร่วมมือปฏิบัติตามพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาฯ และยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนถึงอันตรายจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ยังหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 10 จังหวัด เนื้อที่กว่า 360 ตารางกิโลเมตร ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติฯ จะใช้ความพยายามอย่างเต็มความสามารถในการขจัดอันตรายดังกล่าวให้หมดไป เพื่อนำพื้นที่ปลอดภัยไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ เสนาธิการทหาร ได้ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทั้งหน่วยทหาร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิด และได้ขอบคุณมิตรประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น นอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา และหน่วยงานระหว่างประเทศ ที่ให้การสนับสนุนการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมของประเทศไทยด้วย

———————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"