สระแก้ว – เปิดนวัตกรรมการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน “ฝายมีชีวิตบ้านแก่งสีเสียด” คนแห่เที่ยวพักผ่อนเล่นน้ำ กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจคลายร้อนแห่งใหม่ของคนสระแก้ว
สระแก้ว – เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนเต็มตัวแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว การได้พักผ่อนเล่นน้ำคลายร้อน จึงกลายเป็นกิจกรรมหนึ่งที่คนมักนิยมใฝ่หากัน โดยที่ ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ร่วมกันจัดทำฝายมีชีวิตขึ้น ที่บ้านแก่งสีเสียด ซึ่งนอกจากสามารถสกัดกั้นการไหลของน้ำในคลองพระสะทึง ลำน้ำสายหลักของจังหวัดสระแก้วที่ไหลไปรวมกับแม่น้ำปราจีนบุรีเป็นแม่น้ำบางปะกง เพื่อใช้ในการเกษตรแล้ว ยังสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนเล่นน้ำของคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงแห่งใหม่ของคนสระแก้ว
เมื่อวันที่ 18 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ดร.ปิยพจน์ ตุลาชม ผู้ริเริ่มโครงการ “ฝายมีชีวิตบ้านแก่งสีเสียด” บอกว่า ฝายมีชีวิตของบ้านแก่งสีเสียด เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชมจนก่อเกิดเป็นชุมชนเข้มแข็ง เส้นทางไปสู่ฝาย บ้านแก่งสีเสียด อ.เมืองสระแก้ว สามารถเดินทางออกจากเมืองสระแก้วไปทางกบินทร์บุรี ประมาณ 3 กม. จะมองเห็นศูนย์บริการรถยนต์นิสสัน ให้เลี้ยวซ้ายมือก่อนถึงศูนย์บริการรถยนต์นิสสัน เข้าไปประมาณ 2 กม. โดยฝายมีชีวิตบ้านแก่งสีเสียด จะอยู่ตรงบริเวณสะพานบ้านแก่งสีเสียด ซึ่งคนในชุมชนบ้านแก่งสีเสียดช่วยกันทำ ซึ่งสามารถเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่พักผ่อน ประชาชนสามารถค้าขายได้ด้วย
ดร.ปิยพจน์ บอกอีกว่า ปัจจุบันนี้ที่ฝายมีชีวิตบ้านแก่งสีเสียด โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเข้าเยี่ยมชมนวัตกรรมการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ประมาณ 400-500 คน ซึ่งตนและชุมชนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “ฝายมีชีวิตบ้านแก่งสีเสียด” จะเป็นต้นแบบของการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนของจังหวัดสระแก้ว จึงอยากแนะนำว่า ชุมชนใกล้เคียงกันและส่วนใหญ่ก็เป็นพี่น้องกัน ควรจะมีการปรึกษาหารือเพื่อร่วมกันทำงานเป็นเครือข่ายฝายมีชีวิต เพื่อให้เกิดฝายน้อง ๆ ในจังหวัดของเรา
ดังนั้น เราต้องเผยแพร่นวัตกรรมนี้ไปในวงกว้างต่อไป ต้องร่วมใจกันสร้าง เพราะฝายมีชีวิตจะเกิดขึ้นได้ต้องเกิดจากชุมชนเป็นอันดับแรก นั่นคือ ต้องทำเวทีประชาคมกันให้เข้าใจก่อน เพื่อให้ทราบว่า ฝายมีชีวิตไม่ได้นำงบประมาณมาเป็นตัวตั้ง และให้ใช้วัสดุธรรมชาติ เพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นั่นเอง
