X

ทหารพรานจับสาวโคโยตี้ ลักลอบนำยาเคเข้าประเทศ

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 จับกุมสาวโคโยตี้บ่อนปอยเปต ลักลอบนำยาเคตามีนจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย บริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยรับสารภาพว่า นำมาเสพเพื่อลดความอ้วน

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.สหัสดนย์ ธเนศชัยพิทักษ์ ได้สั่งการให้ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.1201 ประสานงานร่วมกับ พ.ต.อ.เบญพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ นายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมตั้งด่านตรวจค้น ที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขาเข้าประเทศไทย เพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบนำเอายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ จากฝั่งประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดตรวจร่วมดังกล่าว ได้พบหญิงสาวไทยทราบชื่อต่อมาว่า น.ส.สุจิตรา คำบับภา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.12 ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ถือหนังสือเดินทางแบบพาสปอร์ต เลขที่ AA8127878 เดินข้ามมาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ทหารพรานหญิง จึงขอตรวจค้นอย่างละเอียด จนสามารถพบยาเคตามีนจำนวน 0.559 กรัม บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสชนิดมีหูรูด เปิดปิดได้ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายที่ น.ส.สุจิตรา สะพายออกมาจึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวน

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.สุจิตรา ให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ตนมีอาชีพเป็นสาวโคโยตี้อยู่ในบ่อนกาสิโนแห่งหนึ่งในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา สำหรับยาเคตามีนนั้น ตนซื้อมาจากพ่อค้าชาวกัมพูชาเพื่อนำมาเสพเอง โดยมีเพื่อน ๆ อาชีพเดียวกัน แนะนำให้เสพเพื่อลดความอ้วน ซึ่งตนก็ได้ลองเสพดูแล้วก็ได้ผลจริง ๆ จึงได้ซื้อมาเสพเป็นประจำ แต่ไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย หลังสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.สุจิตรา พร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

——————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"