X

คดีฆ่าเจ้าแม่ตลาดโรงเกลือวุ่น ตั้ง กก.สอบตำรวจ-นักข่าว หลังคลิปและภาพหลุดสื่อ ญาติร้องกองทุนยุติธรรม

สระแก้ว – คดีฆ่าโหดเจ๊สายันต์และสามี เจ้าแม่ตลาดโรงเกลือสระแก้ว ส่อเค้าวุ่นหลังคลิปหลุดไปออกสื่อ สั่งตั้งกรรมการสอบตำรวจและนักข่าว ตามหาที่มาคลิป ภาพและหมายจับ ลือตั้งรางวัลให้เพื่อนบ้านจับผู้ต้องหาที่หลบหนีไปกัมพูชา 3 รายหัวละ 2 แสนบาท ส่วนญาติผู้ต้องหาร้องกระทรวงยุติธรรมขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยกองทุนยุติธรรม คาดรู้ผลสัปดาห์นี้

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเกิดปัญหาคลิปเหตุการณ์ฆ่าโฆดสองสามีภรรยาเจ้าแม่ตลาดโรงเกลือ ภายในบ้านพักของผู้ตายในคืนวันเกิดเหตุได้หลุดออกไปจากทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจและออกอากาศทางช่อง 9 อสมท.เป็นสื่อแรก ภายหลัง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เพื่อแถลงข่าวการจับกุม 1 ใน 4 ผู้ต้องหาด้วยตนเองที่ สภ.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 2 ก.พ.61 และสื่ออื่น ๆ ในวันต่อมานั้น ล่าสุด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้มีคำสั่งที่ 43/2561 ลงวันที่ 5 ก.พ.61 ให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสอบสวนตำรวจ นักข่าวและบุคคลอื่น ๆ เพื่อหาตัวคนปล่อยคลิปและภาพผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สระแก้ว ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมเกียรติ ผันประเสริฐ กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้ข้อมูลบันทึกถ้อยคำพยาน ตามแบบ สส.4 ระบุว่า กรณีที่ปรากฎว่า สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเป็นคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด กรณีเมื่อวันที่ 30 ม.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหาด จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งว่า พบศพนางสายันต์ จันทา และนายพิพัฒน์ ตั้งพงศ์ทอง ที่บริเวณบ้านเลขที่ 16 ม.10 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ต่อมาได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 19/2561 จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่า ได้มีคนร้ายจำนวน 4 คน ซึ่งปรากฏตามภาพจากกล้องเป็นผู้กระทำผิด โดยคลิปดังกล่าวเป็นหลักฐานสำคัญทางคดีที่จะนำสืบสวนสอบสวนไปถึงตัวบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดได้

บันทึกถ้อยคำฯ ระบุอีกว่า หากแต่คลิปจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวได้ถูกสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่เสนอข่าวต่อสาธารณชน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ได้ เพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า คลิปจากกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญทางคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถูกสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่เสนอข่าวต่อสาธารณชนได้อย่างไร และมีหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับลงวันที่ 5 ก.พ.61 ลงข่าวกรณีเปลี่ยนตัวชุดพนักงานสอบสวนนั้น โดยนายยุทธนา ให้ถ้อยคำว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ส่วนตำรวจนายหนึ่งที่กรรมการสอบข้อเท็จจริงอ้างถึงนั้น มีความสนิทสนมกันพอสมควร ได้ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์และทางไลน์ว่า อยากได้ภาพผู้ต้องหาชื่อ นายวิชิต หรือ โล๊ะ อินทร์แก้ว ในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ของ สภ.คลองหาด แต่ตำรวจนายนั้นบอกว่า ไม่มี หลายครั้ง จนได้ภาพมาเองและส่งให้ดู พร้อมพูดเชิงต่อว่าด้วย

นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สระแก้ว ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมเกียรติ ผันประเสริฐ กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

นักข่าวรายเดิม ยังแจ้งกับคณะกรรมการสืบสวนว่า ขอปกปิดแหล่งข่าวที่ให้คลิปภาพและรูปภาพเกี่ยวกับคดี ภาพผู้ต้องหาและหมายจับ พร้อมกับระบุว่า ปกติจะมีกลุ่มไลน์ข่าวสารจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีนักข่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครองชั้นผู้ใหญ่ และประชาชนหลากหลายอาชีพ ซึ่งเป็นกลุ่มสาธารณะไว้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันโดยทั่วไป มีสมาชิก 340 คน พร้อมทั้งมีกลุ่มไลน์อื่น ๆ ,เพจ ซึ่งนายตำรวจที่ถูกสอบสวนได้อยู่ในกลุ่มดังกล่าวด้วย และยังมีนายตำรวจ ,ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว อัยการ นายทหาร ผู้กำกับ ฝ่ายความมั่นคงและหลายคนที่เป็นข้าราชการผู้ใหญ่

ทั้งนี้ คณะกรรมการสืบสวนยังสอบถามแหล่งที่มาของคลิปวีดีโอ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญทางคดี แต่นายยุทธนา บอกเพียงว่า ข้าฯได้มาจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผย ส่วนข่าวจากคลิปคนร้าย 4 คนนั้น ดูมาจากสำนักข่าวไทยเป็นคนเผยแพร่ เป็นรายการข่าวช่อง 9 อสมท.ของสำนักข่าวไทย แล้วก๊อปลิ้งค์คลิปและภาพนิ่งไว้ ก่อนจะส่งให้ตำรวจดู รุ่งขึ้นจึงโทรไปต่อว่า ตำรวจว่า ไหนบอกว่า ไม่มีคลิป แต่ทำไมคนอื่นยังหาได้ จึงไปขอภาพต่าง ๆ จากแหล่งข่าวอื่น โดยไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ใดมาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้(7 มี.ค.) ที่เรือนจำจังหวัดสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ญาติของนายวิชัย หรือ”ต่อ” พุ่มเรือง ผู้ต้องหารายแรกได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ต้องหา โดยผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางน้ำผึ้ง พุ่มเรือง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.7 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ภรรยาของผู้ต้องหาว่า ภายหลังยื่นขอประกันตัวนายวิชัย พุ่มเรือง สามี หลายครั้งแต่ก็ไม่ได้รับการประกันตัว พร้อมทั้งยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว ,มทบ.19 และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ส่วนหน้า ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.จันทบุรีนั้น ขณะนี้ได้ยื่นร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอรับความช่วยเหลือแล้ว เนื่องจากมีหลักฐานที่เชื่อว่า สามีไม่ได้กระทำผิด โดยกระทรวงยุติธรรมได้รับเรื่องแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการของกองทุนยุติธรรมภายในสัปดาห์นี้ โดยได้ปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินการยื่นเรื่องเพิ่มเติมด้วย

ทั้งนี้ การขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมดังกล่าว เป็นไปตามโครงการการให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายด้วยบริการกองทุนยุติธรรม : การขอปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาหรือจำเลย ตามพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ.2558 เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับใช้จ่ายเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินคดี การขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน และการใช้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน ซึ่งประชาชนกลุ่มที่เป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในชั้นสอบสวนและในชั้นพิจารณาคดีของศาล ซึ่งไม่มีโอกาสในการยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเพราะไม่มีทุนทรัพย์ ไม่มีความรู้ รวมถึงไม่ทราบข้อมูลข่าวสารว่า มีกองทุนยุติธรรมที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำหรือสองมาตรฐาน ในกระบวนการยุติธรรมไทย โดยการขอรับความช่วยเหลือ การขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย ที่ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี จะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน หรือจะไปก่อเหตุภยันตรายประการอื่น เพื่อให้ได้รับอิสรภาพ กลับมาประกอบอาชีพเลี้ยงดูบุคคลในครอบครัวในระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด ตามหลักเกณฑ์วิธีและเงื่อนไขของกองทุนยุติธรรม

นายธีระ รักษาประเสริฐกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสระแก้ว

นายธีระ รักษาประเสริฐกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า การปล่อยตัวชั่วคราวหรือได้รับการประกันตัว ขณะนี้ทางกระทรวงยุติธรรมมีโครงการในการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายโดยกองทุนยุติธรรมในการขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อให้โอกาสกับผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ได้มีโอกาสในการได้รับการประกันตัว แต่กรณีของ นายวิชัย พุ่มเรือง ยังไม่เคยได้รับการแจ้งความประสงค์มาในส่วนของกระทรวงยุติธรรม เรือนจำยังไม่ทราบเรื่องในส่วนที่เขาดำเนินการผ่านกระทรวงยุติธรรม แต่หากยื่นเข้ามาทางเรือนจำก็เปิดหลักเกณฑ์ให้ผู้ต้องขังที่มีความประสงค์เพื่อรวบรวมส่งไปที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ซึ่งมีคณะกรรมการในการพิจารณาอีกขั้นตอนหนึ่ง ขณะนี้ยื่นไปแล้ว 50 ราย เพื่อสรุปรายชื่อเสนอต่อกระทรวงยุติธรรมต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายวิชัย หรือ “ต่อ” พุ่มเรือง ผู้ต้องหารายแรก จากภาพกล้องวงจรปิด 1 ใน 4 ทีมฆ่าฯ และออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 3 ราย คือ นายวิชิต หรือ”โล๊ะ” อินทร์แก้ว และนายเกียหรือเจีย ,นายลุน ไม่ทราบนามสกุล ชาวกัมพูชา ซึ่งคาดว่า หลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน และสามารถจับกุม นายต้อม ผู้ต้องหาอีกรายพร้อมของกลางรถยนต์กระบะที่ระบุว่า เป็นรถยนต์ที่ใช้นำพาทีมฆ่าหลบหนีหลังก่อเหตุฆาตกรรมโหดดังกล่าว โดยมีรายงานพื้นที่ อ.คลองหาด แจ้งด้วยว่า สำหรับการติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีในประเทศเพื่อนบ้าน 3 รายนั้น มีข่าวลือบริเวณชายแดนว่า จะมีการตั้งค่าหัวให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาในการติดตามจับกุมหัวละ 200,000 บาทด้วย ส่วนญาติของผู้เสียชีวิตและเจ้าแม่ตลาดโรงเกลือนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อจัดงานทำบุญครบรอบ 50 วัน ในวันที่ 19 มี.ค.61 นี้ด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"