สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้ว่าฯ ฝั่งกัมพูชา ประชุมคณะกรรมการชายแดนไทย-กัมพูชา และลงพื้นที่ข้อพิพาทหลักเขตแดนที่ 43 อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เตรียมยกระดับเป็นจุดผ่อนปรนการค้าแห่งใหม่ แก้ปัญหาการลักลอบและอำนวยความสะดวกในการค้าขายระหว่างไทย-กัมพูชา
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 1 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนไทย-กัมพูชา ที่โรงแรมอินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีระดับท้องถิ่นฯ ฝ่ายกัมพูชา นำโดย นายซวน บอวอ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมด้วยคณะ และฝ่ายไทย อาทิ นายภูสิต สมจิตต์ นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นายณัฎฐชัย นำพูลสุขสันต์ ปลัดจังหวัด พ.อ.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ รอง ผบ.กกล.บูรพา พ.ต.อ.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผกก.ตชด.12/ผบ.ชค.ตชด.12, พ.ต.ท.เอกภณ ดาวไธสง รอง ผบ.ชค.ตชด.12 นางสาวจันทร์เพ็ญ สอนสมสุข พาณิชย์จังหวัด นายอำเภออรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ ผู้กำกับการสถานีตำรวจคลองลึก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมประมาณ 100 คน
ซึ่งภายหลังคณะกรรมการชายแดนไทย-กัมพูชา ระดับท้องถิ่นฯ ทั้งสองฝ่ายลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม ได้มีพิธีผูกผ้าขาวม้าต้อนรับคณะฝ่ายกัมพูชา แนะนำคณะกรรมการฯ และเริ่มเข้าสู่ระเบียบวาระเรื่องการหารือกรณีพิพาทหลักเขตแดนที่ 43 ซึ่งมีการลงนามข้อตกลงการส่งผู้ป่วยข้ามแดน และการดูแลแรงงานกัมพูชา โดยคณะกรรมการทั้งสองฝ่าย ได้เดินทางลงพื้นที่ไปดูบริเวณจุดผ่อนปรน ที่บริเวณหลักเขตแดนที่ 43 บ้านโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ภายหลังการประชุม โดยมี พ.ต.ท.พรชัย แช่มช้อย ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.4 บรรยายสรุปสถานการณ์ และสภาพปัญหาในพื้นที่
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกรัฐมนตรีพอใจภาพรวมการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนตลอด 3 วันที่ผ่านมา ได้ประชุมและหารือกว่า 20 วาระ
- ชาวบ้านร้องขอทีมกู้ภัยฯ ช่วยจับงูหลามตัวขนาดใหญ่เข้าไปกินไก่ จ.สระแก้ว
- มูลนิธิกาญจนบารมีออกบริการเอกซเรย์เต้านมในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส ในพื้นที่ จ.สระแก้ว
- ช่วยหญิงไทยสติไม่ดี เร่ร่อนในปอยเปต ตรงข้าม จ.สระแก้ว
นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ประชุมหาข้อสรุปร่วมกันในการพัฒนาบริเวณหลักเขตที่ 43 ให้เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ โดยไม่มีการพูดถึงข้อพิพาทระหว่างประเทศกรณีหลักเขตแดน เนื่องจากเป็นเรื่องของการพิจารณาของคณะกรรมการระดับประเทศ แต่การพูดคุยระดับพื้นที่เป็นการพิจารณาร่วมกันเพื่อให้การค้าขายระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ เป็นไปด้วยความสะดวก โดยมีความเห็นตรงกันที่จะเปิดเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านโนนหมากมุ่น–บึงสะนอร์ ณ บริเวณช่องทางตอนโน บ.โนนหมากมุ่น ม.1 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพราะจะได้เข้าออกกันในช่องทางที่สามารถตรวจสอบได้ แก้ปัญหาคนลักลอบได้ การค้าขายข้ามไปมาระหว่างประเทศจะได้สะดวกขึ้น เจ้าหน้าที่รัฐก็ตรวจสอบได้ด้วย โดยจะดำเนินการร่วมกันเพื่อเปิดให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่บริเวณจุดผ่อนปรนหลักเขตแดนที่ 43 บ้านโนนหมากมุ่น ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว อยู่ตรงข้ามกับ บ้านไปรจัน ต.โอไบเจือน อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย ปัจจุบันมีการลักลอบนำแรงงานกัมพูชาและสินค้าที่ไม่ผ่านขั้นตอนศุลกากรเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่ทับซ้อนบริเวณหลักเขตที่ 43 มีคนไทยซึ่งทำกินมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย 11 ราย อ้างสิทธิครอบครอง แต่มีหลักเขตแดนไทย-กัมพูชา อยู่ห่างถนนศรีเพ็ญเพียง 200-300 เมตรเท่านั้น ทั้งนี้ การพัฒนาบริเวณดังกล่าวเพื่อเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้า ได้มีการพูดคุยกับเกษตรกรที่ครอบครองที่ดินดังกล่าวแล้วทั้ง 11 ราย ซึ่งได้ข้อสรุปว่า หากการก่อสร้างถนนเพื่อเชื่อมต่อระหว่างประเทศกัมพูชาและไทย ของบริษัทสัมพันธมิตร ผ่านแปลงที่ดินที่เกษตรกรรายใดครอบครองอยู่ ก็จะมีการจ่ายเงินค่าชดเชยให้เกษตรกรตามข้อตกลง ดังนั้น คาดว่าจะมีการก่อสร้างถนนได้แล้วเสร็จในโครงการฯ เร็ว ๆ นี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: