X

ชาวบ้านวังใหม่ จ.สระแก้ว ยื่นหนังสือ รมต.อุตสาหกรรม-ปลัดฯ ค้านต่ออายุ รง.น้ำตาล-ชีวมวลฯ ..!!

สระแก้ว – ชาวบ้านวังใหม่ยื่นหนังสือ รมต.อุตสาหกรรม-ปลัดฯ คัดค้านการต่อใบอนุญาตตั้งโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 60 เมกกะวัตต์ พื้นที่ตำบลวังใหม่ อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ที่ส่งผลกระทบต่ออาชีพพระราชทาน

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว รวมตัวคัดค้านการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลทรายแห่งใหม่ และโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 60 เมกกะวัตต์ ในพื้นที่บริเวณบ้านวังใหม่ ติดกับสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็นจำกัด จนมีการตั้งโลงศพประท้วงในพื้นที่ล่าสุดนั้น  ตัวแทนชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปที่กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อคัดค้านการต่ออายุโครงการดังกล่าว ซึ่งจะหมดอายุในช่วงสิ้นปี 2560

หนังสือคัดค้านดังกล่าว ระบุว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้นำผลการศึกษา ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะ กรณีโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลทรายและโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 60 เมกกะวัตต์ (อีไอเอชุมชน) ซึ่งดำเนินการเก็บข้อมูลโดยชาวบ้านในพื้นที่ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยชาวบ้านร่วมกับนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว ,สหพันธ์ที่ดินจังหวัดสระแก้ว  จนสามารถสรุปผลการศึกษาว่า พื้นที่ดังกล่าวเหมาะสมกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เลี้ยงโคนม และผลิตอาหารปลอดภัย

และเปิดเผยข้อมูลการดำเนินการขอรับใบอนุญาตที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การดำเนินการโครงการก่อนได้รับอนุญาต โดยเฉพาะการยื่นขอและต่อท่อน้ำ และทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสหกรณ์ฯ กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ แม้ว่าภายหลัง คชก.จะลงมติเห็นชอบรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ด้วยความเร่งรีบในช่วงที่ประชาชนอยู่ระหว่างเดินทางเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ  ซึ่งยังมีประเด็นที่ขาดการรับฟังและพิจารณาข้อมูลอีกหลายประการ โดยทางประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ระหว่างดำเนินการยื่นเรื่องคัดค้านมติดังกล่าว

น.ส.กนกกาญจน์ วงษ์ชัยยะ ตัวแทนชาวบ้านกรณีดังกล่าว ระบุว่า ทางประชาชนในพื้นที่ ได้นำส่งข้อมูลเพิ่มเติมกรณีดังกล่าวไปยังนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้  เนื่องจากโครงการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลฯ ซึ่งได้รับอนุญาตตั้งแต่ปี 2554 และมีกำหนดสิ้นสุดภายใน 5 ปี และต่ออายุมาถึงปี 2560 ซึ่งไม่มีการดำเนินการตั้งแต่ต้น อันเนื่องมาจากเหตุผลของการกีดกันผู้ประกอบการรายอื่น และผลการศึกษาพบความไม่เหมาะสมชัดเจน มีผู้ได้รับผลกระทบชัดเจน จึงขอให้รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรรมและปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ไม่มีการขยายเวลาออกหรือต่ออายุใบอนุญาตออกไปอีก เนื่องจากจะยิ่งก่อปัญหากับภาคประชาชน ชุมชน สิ่งแวดล้อม อาชีพพระราชทาน และเศรษฐกิจของชุมชนในอนาคต

น.ส.กนกกาญจน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีการขออนุญาตและต่อท่อเดินน้ำมาใช้แล้วจากเขื่อนพระสะทึง ทั้งที่โครงการนี้ระบุในรายงานการศึกษาว่า ใช้น้ำหลาก แต่มีการต่อท่อสูบน้ำจากหน้าเขื่อน ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของการสร้างเขื่อนชัดเจน ตั้งแต่ก่อนหน้าที่ผลการศึกษาจะผ่านความเห็นชอบจาก สผ. ทางชาวบ้านและชุมชนขนาดใหญ่ใกล้เคียงผู้ได้รับผลกระทบ พยายามทักท้วงและคัดค้านการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 60 เมกกะวัตต์ ถึงความไม่เหมาะสมของพื้นที่ แต่กลับมีความพยายามผลักดันโครงการฯ โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านอันเนื่องมาจากผลประโยชน์  มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ข่มขู่ กดดันชาวบ้าน

” มีหน่วยงานรัฐบางหน่วยบางองค์กร รายงานข้อมูลที่ไม่เป็นจริง เช่น รายงาน สผ.ว่าไม่เคยเกิดปัญหาร้องเรียนเรื่องสิ่งแวดล้อมและมลพิษ ปฏิบัติตัวเข้าข้างฝ่ายนายทุนโดยไม่มองเหตุผลของชาวบ้าน ที่ต้องเป็นผู้รับมลพิษไปตลอดชีวิตชั่วลูกชั่วหลาน  ทั้งยังมีข้อมูลกระบวนการปฏิบัติที่ไม่โปร่งใสชัดเจน เกี่ยวกับกระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ หลายประการ อันถือเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จึงขอคัดค้านเพื่อไม่ให้มีการต่ออายุการอนุญาตขยายโรงงานตามมติ ครม.วันที่ 1 มีนาคม 2554 ต่อไปอีก  เพื่อให้คงพื้นที่อาหารปลอดภัยและพื้นที่ต้นน้ำของจังหวัดสระแก้วไว้  ซึ่งถือเป็นการช่วยกันรักษาอาชีพพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ไว้ให้ลูกหลานประกอบอาชีพในอนาคต” ” ตัวแทนชาวบ้านผู้เดือดร้อน ระบุ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"