X

ฟอร์จูนเนอร์ซิ่งลงเขา ชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ ดับ 1 เจ็บ 3

ปราจีนบุรี – รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ซิ่งลงเขา เส้นทางถนนสาย 304 นครราชสีมา-นาดี เกิดอุบัติเหตุชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ ดับ 1 ราย บาดเจ็บ 3 ราย

เมื่อเวลา 22.45 น.วันที่ 20 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สมัย สุดาชาติ รองสารวัตรสอบสวน สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย กบินทร์บุรี ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์สีขาว หมายเลขทะเบียน 8กฐ-5948 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่นมุ่งหน้าปลายทางเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ มีผู้โดยสารที่เป็นเครือญาติเดินทางมาด้วยกัน จำนวน 5 คน โดยรถคันดังกล่าวเมื่อขับเลยจุดตรวจบ้านผางาม เส้นทางถนนสาย 304 นครราชสีมา-กบินทร์บุรี ระหว่างช่วง กม.213-214 หมู่ 4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ช่วงทางลงเขาระหว่างเขาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับ อุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ประมาณ 1 กม. ได้เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนท้ายรถยนต์พ่วง 18 ล้อ หมายเลขหัวพ่วง 81-5701 ฉะเชิงเทรา หางพ่วงหมายเลขทะเบียน 82-4172 ฉะเชิงเทรา ของโรงสีราชสาน์น ที่บรรทุกข้าวเปลือกมาเต็มคันรถ ที่มีนายวิรัตน์ จินเขตกิจ อายุ 50 ปี เลขที่ 17 หมู่ 9 ต.หนองจอก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เป็นผู้ขับขี่ ขณะขับวิ่งลงเขาในช่องทางด้านซ้าย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ติดอยู่ภายในซากรถและได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย หน่วยกูภัยฯ เร่งนำส่งโรงพยาบาลนาดี 2 ราย และโรงพยาบาลกบินทร์บุรีอีก 1 ราย ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวกีดขวางเส้นทางการจราจรบนถนนสายดังกล่าว 1 ช่องทาง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ซึ่ง นายนพดล งามเหลือ นายอำเภอนาดี ได้เร่งเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

สำหรับบริเวณจุดที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 ช่องจราจร ช่วงทางลงเขา ฝั่งลงมา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ก่อนจะถึงเส้นทางหยุดรถฉุกเฉินเล็กน้อย มีความลาดชันสูง เจ้าหน้าที่พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์เสียหลักขวางถนนอยู่กลางถนน สภาพบริเวณด้านหน้ารถยุบจากห้องเครื่องยนต์ถึงตัวหลังคารถเปิด และพังยุบตัวลง กระจกด้านหน้าแตกทั้งหมด มีนายบุญเลิศ พลายเนาว์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 4 ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เป็นคนขับขี่ ปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนบริเวณใกล้กันติดกับที่นั่งฝั่งตรงข้ามคนขับ พบผู้เสียชีวิตถูกอัดก็อปปี้ติดภายในสภาพกะโหลกศีรษะเปิดจนมองเห็นสมอง ทราบชื่อต่อมาคือ นายประสิทธิ์ ประเสริฐดี อายุ 58 ปี เป็นญาติของคนขับ

นอกจากนั้น ที่บริเวณเบาะที่นั่งด้านหลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 3 คน ประกอบด้วย นางอมราพร พลายเนาว์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 4 ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ,นายสิทธิพล ชะนี อายุ 22 ปี เลขที่ 16 หมู่ 4 ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น และ นางบุญเกิด ไพรศรี อายุ 45 ปี เลขที่ 139 หมู่ 4 ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งผู้บาดเจ็บรายที่ 1-2 หน่วยกู้ภัยฯนำส่ง รพ.นาดี และ รายที่ 3 มีอาการสาหัสมากถูกนำส่งไปรักษาตัวที่ รพ.กบินทร์บุรี

ทางด้าน ร.ต.อ สมัย สุดาชาติ รองสารวัตรสอบสวน สภ.วังขอนแดง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในที่เกิดเหตุเบื้องต้น นายวิรัตน์ จินเขตกิจ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถพ่วงบรรทุกข้าวเปลือกมาเต็มคันจากนครราชสีมามุ่งหน้ามา อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ขณะช่วงลงจากภูเขาได้วิ่งรถเกียร์ต่ำ เมื่อมาถึงกลางภูเขาเขาได้ยินเสียงดังโครมที่ท้ายรถ จึงตรวจสอบเป็นรถที่วิ่งตามหลังมาชนท้าย มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยตา ฟอร์จูนเนอร์ มีนายบุญเลิศ พลายเนาว์ เป็นผู้ขับขี่ มาจากจังหวัดขอนแก่น มุ่งหน้าปลายทางเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร มีผู้โดยสารเป็นเครือญาติกัน จำนวน 5 คน ขับลงเขามาด้วยความเร็ว จนมาชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ คันหน้าดังกล่าว

ส่วน นายสิทธิพล ชะนี อายุ 22 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งหมดได้พากันเดินทางมาส่งยาย ซึ่งมาเยี่ยมที่กรุงเทพฯกลับบ้านในวันหยุดยาวที่ จ.ขอนแก่น ขณะอยู่ระหว่างเดินทางกลับเข้าที่ทำงานย่านเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่นั่งมาจะหลับใหล ได้ยินเสียงดังโครมใหญ่และหลังเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับถนนสาย 304 นครราชสีมา-กบินทร์บุรี เป็นถนนสายเสี่ยงภัย ที่มักเกิดอุบัติเหตุรุนแรง ซึ่งทุก ๆ ปี ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง ทั้งคนที่ใช้เส้นทางและสัตว์ป่า ที่ข้ามฝั่งไป-มา โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านบนภูเขา ระหว่างภูเขาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก เนื่องจาก สภาพถนนแคบมีเพียง 2 ช่องจราจร รถวิ่งสวนเลนกันและมีความลาดชันสูงมีหลายจุดเป็นทางโค้งยาวไกล ระยะทางกว่า 12 กม. ซึ่งกรมทางหลวงแผ่นดิน โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเงินงบประมาณจำนวนมากเพื่อก่อสร้างขยายผิวการจราจร เพิ่มเป็นถนน 4 เลน รวมถึงการก่อสร้างอุโมงค์เชื่อมผืนป่าแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อให้สัตว์ป่าเดินข้ามด้านบน ยวดยานวิ่งลอดด้านใน และเปิดอุโมงค์อย่างเป็นทางการหลังแล้วเสร็จช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้างสะพานยกระดับสูง ให้สัตว์ป่าเดินลอดด้านล่าง ด้านบนให้ยวดยานวิ่งผ่านโดยการก่อสร้างเพิ่มผิวการจราจร 4 เลน ใกล้แล้วเสร็จเหลือเพียงเล็กน้อย ระหว่างช่วงพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.ปราจีนบุรี กับ จ.นครราชสีมา เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีการขยายผิวการจราจรเป็น 4 เลน แต่ก็ยังคงเกิดอุบัติเหตุเช่นเดิม โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือ รถโดยสาร ที่ส่วนใหญ่เกิดปัญหาเบรกแตก ซึ่งสถิติการเกิดอุบัติเหตุหลังมีการเพิ่มช่องการจราจร กลับพบว่า มีความถี่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เกือบเป็นรายวัน ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา รถพ่วงบรรทุกแป้งมันสำปะหลังเบรกแตกช่วงลงจากภูเขา ได้รับบาดเจ็บถึง 2 ราย

————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์ ,ยุทธพงค์ พุ่มเพ็ชร์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"