สระแก้ว – เรือนจำจังหวัดสระแก้ว ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อให้โอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นคนดีของสังคม โดยมี “นายวิทยา เทียนทอง” อดีตนักการเมืองดัง เป็น 1 ในนักโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษของ จ.สระแก้ว ด้วย
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เรือนจำจังหวัดสระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว นายกองเอก วิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานการประกอบพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยมี นายนิพันธ์ จำเนียรพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดสระแก้ว รายงานความเป็นมา และพระอาจารย์พงษ์ศักดิ์ สุภัทโท ,ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสระแก้ว ,อัยการจังหวัดสระแก้ว, หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยานอย่างพร้อมเพรียง
นายนิพันธ์ จำเนียรพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีความประพฤติดี ให้ได้รับการลดหย่อนโทษและปล่อยตัว ซึ่งในการพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์หรือนักโทษ เพื่อเปิดโอกาสให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ได้ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี และสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ โดยกรมราชทัณฑ์ได้รับมอบหมายให้เรือนจำจัดโครงการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษเพื่อให้สามารถพึ่งตนเองได้ ภายหลังพ้นโทษ และไม่หวนไปกระทำความผิดอีก ซึ่งผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับการปล่อยตัวได้ผ่านการอบรมเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การปล่อยตัวนักโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษวันนี้ของเรือนจำจังหวัดสระแก้วมี นายวิทยา เทียนทอง อดีตนักการเมืองดังสระแก้ว ที่ถูกจำคุกในคดีร่วมกันทุจริตระหว่างดำรงตำแหน่งรวมอยู่ด้วย ตามมาตรา 5 วรรค 3 ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างพักโทษเนื่องจากป่วยด้วย
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้กล่าวกับผู้พ้นโทษว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกคนและขอให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกคน พึงระลึกไว้เสมอว่า พระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ เสมือนให้โอกาสทุกคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ ขอให้มุ่งมั่น ตั้งใจประพฤติตนและอยู่ในความดีงาม มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ตั้งปณิธานเป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ นำวิชาความรู้ในด้านต่าง ๆ ที่ได้รับการฝึกฝนอบรม ศึกษาเรียนรู้ระหว่างต้องโทษไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต และประกอบอาชีพการงานที่สุจริต เลี้ยงตนเองและครอบครัว หากทำได้เช่นนี้ ก็ได้ชื่อว่า ได้สนองพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือการรู้จักพอประมาณ มีเหตุผล หมั่นศึกษาหาความรู้เพื่อให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม รู้รักสามัคคี ซื่อสัตย์สุจริต ขยันอดทน ก็จะส่งให้ทุกคนมีชีวิตส่วนตนและครอบครัว ที่มีความผาสุกอย่างยั่งยืน
สำหรับการปล่อยตัวนักโทษและผู้ต้องราชทัณฑ์ของเรือนจำจังหวัดสระแก้วครั้งนี้ มีผู้ต้องขังราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวตามที่คณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบด้วย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสระแก้ว อัยการจังหวัดสระแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสระแก้วได้ร่วมกันตรวจสอบ ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ต้องโทษจำคุกในคดีความผิด ตามที่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2562 มาตรา 5 และมาตรา 6 ใช้บังคับ แยกเป็น ผู้ต้องขัง ชาย 113 คน หญิง 19 คน ผู้ต้องกักขังชาย 6 คน หญิง 2 คน รวมทั้งหมด 140 คน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัว ได้กล่าวคำปฏิณาญตนเพื่อจะเป็นพลเมืองดีของชาติพร้อมกัน และร่วมกราบถวายบังคมต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ก่อนที่จะได้รับนำพระพุทธมนต์ จากพระอาจารย์พงษ์ศักดิ์ สุภัทโท ซึ่งหลังจากพ้นประตูเรือนจำ ผู้พ้นโทษจะเข้าสู่อ้อมกอดของญาติพี่น้องที่มารอรับด้วยความดีใจถ้วนหน้า ซึ่งนักโทษเหล่านี้จะได้รับค่าเดินทางและเงินช่วยเหลือส่วนหนึ่งจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว รวมถึงเสื้อผ้าสีเหลือง รองเท้าและอื่นๆ เพื่อสวมใส่กลับบ้านทุกคนด้วย
ทางด้าน “น้องน้อย” ตัวแทนตัวแทนผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษและปล่อยตัวครั้งนี้กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น นักโทษทุกคน ดีใจเหมือนกัน ซึ่งหลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้ว จะกลับไปเป็นคนดี ทำความดี เพื่อในหลวง ตลอดไป
—————————————-
