X

กกต.สระแก้ว ปฏิเสธยังไม่รู้ข้อมูล จนท.ล้อมบ้านป๋าเหนาะ สรุปผลคะแนน พปชร.ชนะเลือกตั้ง

สระแก้ว – ผอ.กกต.สระแก้ว เปิดเผยผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สระแก้ว หลังนับคะแนนครบทุกเขต ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ชนะการเลือกตั้งทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายฐานิสร์ เทียนทอง ,เขต 2 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง และ เขต 3 นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ ปฏิเสธยังไม่รู้ข้อมูล จนท.ล้อมบ้านป๋าเหนาะ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 25 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์เกตุ เติมกิจธนสาร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์ภายหลังผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 เวลา 08.00-17.00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยนับคะแนนเสร็จสิ้นทุกเขต และตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนแล้ว ซึ่งผลการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ สนามเลือกตั้งจังหวัดสระแก้ว ทั้ง 3 เขต ที่มีจำนวนหน่วยเลือกตั้ง 789 หน่วย จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 427,139 คน พบว่า มีผู้มาใช้สิทธิ์ 317,748 คน คิดเป็นร้อยละ 74.63 บัตรดี 297,169 บัตร บัตรเสีย 16,898 บัตร บัตรไม่เลือกผู้สมัคร 3,680 คน ผู้ได้คะแนนสูงสุดและได้รับเลือกเป็น ส.ส.สระแก้ว ประกอบด้วย เขต 1 นายฐานิสร์ เทียนทอง ,เขต 2 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง และเขต 3 นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์

นายพงษ์เกตุ เปิดเผยว่า ผลการนับคะแนนในเขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวนผู้มีสิทธิ์ 141,583 คน มาใช้สิทธิ์ 108,323 คน คิดเป็นร้อยละ 76.51 บัตรดี 100,804 บัตร บัตรเสีย 6,448 บัตร บัตรไม่เลือกผู้สมัคร 1,071 คน ผู้สมัครที่มีคะแนนสูงสุดอันดับ 1 คือ นายฐานิสร์ เทียนทอง พรรคพลังประชารัฐ 63,099 คะแนน , อันดับ 2 นายสนธิเดช เทียนทอง พรรคเพื่อไทย 19,097 คะแนน ,อันดับ 3 นายปิยพจน์ ตุลาชม พรรคอนาคตใหม่ 12,013 คะแนน จากจำนวนผู้สมัคร 23 คน ถูกตัดสิทธิ์ ไม่รับสมัคร 2 คน

ผลการนับคะแนนในเขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวนผู้มีสิทธิ์ 140,289 คน มาใช้สิทธิ์ 103,694 คน คิดเป็นร้อยละ 73.91 บัตรดี 98,292 บัตร บัตรเสีย 4,313 บัตร บัตรไม่เลือกผู้สมัคร 1,088 คน ผู้สมัครที่มีคะแนนสูงสุดอันดับ 1 คือ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง พรรคพลังประชารัฐ 52,787 คะแนน , อันดับ 2 พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น พรรคเพื่อไทย 21,901 คะแนน ,อันดับ 3 นายยุทธชัย รำไพวรรณ์ พรรคอนาคตใหม่ 13,560 คะแนน จากจำนวนผู้สมัคร 23 คน ถูกตัดสิทธิ์ ไม่รับสมัคร 2 คน

ส่วนผลการนับคะแนนในเขตเลือกตั้งที่ 3 จำนวนผู้มีสิทธิ์ 143,875 คน มาใช้สิทธิ์ 105,731 คน คิดเป็นร้อยละ 73.49 บัตรดี 98,073 บัตร บัตรเสีย 6,137 บัตร บัตรไม่เลือกผู้สมัคร 1,521 คน ผู้สมัครที่มีคะแนนสูงสุดอันดับ 1 คือ นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ พรรคพลังประชารัฐ 41,962 คะแนน , อันดับ 2 นายสรวงศ์ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย 34,141 คะแนน ,อันดับ 3 น.ส.สุนันทรัตน์ มุกตรี พรรคอนาคตใหม่ 12,024 คะแนน จากจำนวนผู้สมัคร 25 คน ถูกตัดสิทธิ์ ไม่รับสมัคร 2 คน

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว ยังกล่าวถึง เรื่องร้องเรียนกรณีบัตรเลือกตั้ง โดยตนยอมรับว่า บัตรเลือกตั้งค่อนข้างทำให้สับสน ส่วนการรับแจ้งเรื่องปัญหาการทุจริตนั้น มีเพียงข่าว เมื่อพบเราก็ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปดูแล้วไปดำเนินการ ส่วนการร้องเรียนร้องคัดค้านตามระเบียบ กกต.ยังไม่มีเข้ามา เพราะในกรอบระยะเวลายังเหลืออยู่ เราก็ยังไม่รู้ว่า ต่อจากนี้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิ์จะมีการร้องเรียนหรือพบเห็นการกระทำความผิดก็อาจจะมาร้องเรียนร้องคัดค้านก็ได้ ส่วนพื้นที่ อ.คลองหาดที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปสังเกตการณ์การเลือกตั้ง แล้วพบว่ามีการนำบอร์ดรายชื่อผู้มีสิทธิ์และรายละเอียดไปไว้ด้านใน และห้ามมีการดูและทำข่าวนั้น ต้องตรวจสอบดูอีกครั้ง เพราะได้ชี้แจงกับกรรมการทุกหน่วยแล้ว หากมีการไปทำข่าวก็ให้ทำได้เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์

อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเดินทางไปล้อมบ้านของ นายเสนาะ เทียนทอง และบุตรชาย ในวันที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น ทาง กกต.จังหวัดสระแก้ว ชี้แจงว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ทาง กกต.ยังไม่ได้รับรายงาน ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สระแก้ว จะต้องเข้ารายงานตัวต่อ กกต.ภายในเวลาที่กำหนด และหลังสิ้นสุดการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้ว กกต. มีระยะเวลา 60 วัน ที่จะนับคะแนนและประกาศผลอย่างเป็นทางการต่อไป

—————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"