ชาวบ้านแตกตื่น พบน้ำเสียโรงงานถูกปล่อยลงคลองสาธารณะ

ปราจีนบุรี – ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ แตกตื่นหลังพบน้ำเสียถูกปล่อยลงคลองสาธารณะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จำนวนกว่า 10 คน แตกตื่นหลังมีคนพบน้ำเสียถูกปล่อยลงสู่คลองธรรมชาติ จึงรวมตัวกันเดินทางไปยังคลองยางที่ติดกับบ่อกักเก็บน้ำของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่นิคมฯ 304 และต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ ถึงการปล่อยน้ำเสียของบริษัทฯ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารชุดร้อย รส. ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม และ เจ้าหน้าที่ นปพ. เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ ร่วมกับบริษัทฯ พบว่า ที่ประตูระบายน้ำของบ่อกักเก็บน้ำของบริษัทถูกเปิดให้น้ำไหลลงสู่คลองยาง โดยชาวบ้าน บอกว่า เมื่อคืนมีคนพบว่า ประตูระบายน้ำถูกเปิดให้น้ำไหลลงคลองจึงบอกต่อ ๆ กันเกรงว่า จะได้รับผลกระทบจากน้ำเสีย เนื่องจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณนี้หาปลาในคลองประจำ น้ำมีสีขุ่นมีกลิ่น ที่บานประตูปิด-เปิด มีการลักลอบตัดโซ่ที่คล้องกุญแจไว้ออกอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ของบริษัท ได้ชี้แจงว่า ทางบริษัทไม่ได้เปิดน้ำในบ่อทิ้งอย่างที่ชาวบ้านเข้าใจ บ่อน้ำที่เห็นเป็นการกักเก็บน้ำดีไว้สำรองไว้ใช้เพราะทำปากบ่อเสมอกับระดับน้ำในคลองฯหากน้ำมีระดับเท่ากัน น้ำจะไม่ไหลเข้าออกได้ และไม่ใช่มีไว้เพื่อปล่อยน้ำทิ้งสู่คลองสาธารณะแต่อย่างใด ซึ่งทางบริษัทจะไปแจ้งความกับตำรวจไว้เป็นหลักฐานเช่นกัน และทางบริษัทมีรางวัลนำจับ 50,000 บาท แก่ผู้แจ้งเบาะแสผู้ที่ลักลอบเปิดน้ำออก สร้างความเสียหายแก่บริษัท

นายสมบัติ มาดารัตน์ วิศวกรชำนาญการ สนง.อุตสาหกรรม จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงมาเก็บตัวอย่างน้ำ 2 ขวดไปตรวจสอบแล้ว ในเบื้องต้นแล้ว

ส่วน นายสมคิด แสงสุข สารวัตรกำนัน ต.ท่าตูม กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและประสานทหารช่วยลงมาร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งมีทหารจาก กอ.รมน. และชุดร้อย รส.ร่วมตรวจสอบและฝากให้ทางบริษัทหาทางป้องกันแก้ไขให้ดีและทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่า การทำบ่อกักเก็บน้ำนี้มีไว้เพื่ออะไรกันแน่ชาวบ้านสงสัยเป็นบ่อน้ำเสีย แต่เข้าใจดีแล้วหลังจากได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่บริษัทว่า บ่อน้ำนี้มีไว้เพื่อกักเก็บน้ำดีไว้สำรองใช้ ทางบริษัทมีบ่อน้ำเสียขนาดใหญ่ 2-3 บ่ออยู่แล้ว ครั้งนี้มีรางวัลนำจับหากใครตัวว่า ใครแอบมาลักลอบตัดโซ่เพื่อปล่อยน้ำลงคลองสาธารณะ จนชาวบ้านพากันแยกย้ายกลับบ้าน

——————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์