X

“เสรีพิศุทธ์”ลงพื้นที่สระแก้ว ชวนคน”จับปากกา ฆ่าเผด็จการ” ช่วยลูกพรรคหาเสียง

สระแก้ว – พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช อดีต ผบ.ตร.และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ช่วยลูกพรรคหาเสียง ชวนคนออกไปจับปากกา ฆ่าเผด็จการ ชู 6 นโยบายพรรคและ 3 สัญญาที่จะทำให้พี่น้องประชาชนทันที ส่วนพรรคพลังประชารัฐเปิดเวทีปราศรัยพื้นที่ อ.คลองหาด ยืนยันว่า ตระกูลเทียนทอง ยังรักกันเหนียวแน่นเหมือนเดิม

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 4 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางลงพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค เพื่อช่วยลูกพรรคผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต หาเสียงที่ตลาดนัดคลองถมวังน้ำเย็น ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น ประกอบด้วย นายสุทธิรักษ์ วันเพ็ญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 หมายเลข 8 ,น.ส.อัคลีมา คลังเพชร หรือ คุณนายแมท ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 หมายเลข 4 ,นางดรุณี ประยูรวงษ์ หรือ หมอเอิร์น ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 หมายเลข 5 และนายปัญญา ชาติปัญญาวุฒิ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยมีลูกทีมของผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่และสมาชิกพรรคร่วมเดินหาเสียง แจกโบว์ชัวร์และบัตรแนะนำตัวผู้สมัคร ประมาณ 50 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตลอดช่วงเวลาตั้งแต่ก่อนค่ำไปจนถึงเวลาประมาณ 20.00 น.ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นอดีต ผบ.ตร. และเป็นข้าราชการที่ประพฤติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นคนไทยตัวอย่าง และเป็นที่รู้จักในนาม วีรบุรุษนาแก ทำให้ตลอดเส้นทางการเดินหาเสียง มีประชาชนมาคอยให้กำลังใจและขอถ่ายภาพด้วยจำนวนมาก ซึ่งทีมงานและผู้สมัคร ส.ส.พยายามเชิญชวนให้ประชาชนออกไปเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ เพื่อจับปากกา ฆ่าเผด็จการ ด้วยการเลือกผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทย สนับสนุนให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง เจ้าหน้าที่หน่วยข่าว ชุดสืบสวน จากหลายหน่วยงาน เข้ามาติดตามการหาเสียง เช่นกัน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เสียงตอบรับของประชาชนตอนนี้ พร้อมที่จะหนุนพรรคเราให้เข้าสภาให้ได้ ซึ่งนโยบายของพรรคที่จะปลดล็อคประเทศไทย ด้วยนโยบาย 6 หยุด คือ 1.หยุดความยากจน ลดความเหลือมล้ำของคนในชาติ 2.หยุดคอรัปชั่น นำงบประมาณมาพัฒนาประเทศ 3.หยุดปัญหายาเสพติด ขจัดผู้มีอิทธิพลให้สิ้นซาก 4.หยุดเผด็จการ ปฏิรูปทหาร 5.หยุดไฟใต้ สร้างสังคมสันติสุขสมานฉันท์ และ 6.หยุดสงครามสีเสื้่อ สร้างความปรองดองก้าวสู่อนาคต ซึ่งประการที่สำคัญที่สุดคือ หยุดความยากจน

“สำหรับพรรคเสรีรวมไทย 3 สัญญาที่จะทำให้พี่น้องประชาชนทันที คือ พ่อแม่พี่น้องที่ทำอาชีพค้าขาย ทำมาหากิน ส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ไม่มีพื้นที่ให้เพราะรัฐบาลไปจัดและห้ามขาย ทำให้ลำบากเป็นหนี้เป็นสิน ค้าขายไม่ได้ ซึ่งถ้าเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ จะให้พ่อค้าแม่ค้าขายได้อย่างเสรี คือพื้นที่ที่เป็นทางสาธารณะต่าง ๆ เราจะจัดระเบียบให้ค้าขายได้อย่างเต็มที่ ที่ราชพัสดุ ที่ดินที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ นำมาจัดสรรให้ขายฟรีเพื่อให้เลี้ยงดูครอบครัวได้ ซึ่ง 5 ปีเต็ม ๆ ที่รัฐบาลนี้เข้ามาปกครองประเทศประชาชนเสียโอกาส” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวและว่า

นโยบายบัตรประชาชนใบเดียว เข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ฟรีหมดทั่วประเทศ ปัจจุบันมี 30 บาทรักษาทุกโรค ขึ้นบัญชีไว้ที่นี่ ไปรักษาที่อื่นก็ไม่ได้ นอกจากเป็นเรื่องฉุกเฉิน เรื่องอุบัติเหตุ เท่านั้นเอง ทำให้ติดขัด ต่อไปแค่มีบัตรประชาชนใบเดียวเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล ซึ่งเงินนั้นเอามาจากไหน ลองดูแล้วกันว่า รัฐบาล คสช.เอาเงินแสนกว่าล้านไปแจกจ่ายซื้อเสียง เอาไปให้พี่น้องประชาชนเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารักษา ซิมมือถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปีใหม่ก็แจกคนละ 500 บาท มันไม่ได้ประโยชน์อะไร ซึ่งแสนกว่าล้านเราเอามาเข้าหน่วยงานที่รับผิดชอบเลย

พล.ต.อ.เสรี กล่าวอีกว่า สัญญาที่ 3 ที่จะทำเพื่อประชาชนคือ ให้เรียนฟรีจนกระทั่งจบปริญญาตรี จะแก้ไข พรบ.เกี่ยวกับการศึกษาทุกฉบับ รวมทั้งเด็กนักเรียนที่ไปกู้หนี้ยืมสิน หรือกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา กยศ. เรียนจนจบไม่มีงานทำ ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ถูกฟ้องร้อง ผู้ค้ำประกันก็ถูกฟ้องร้องด้วย เดือดร้อนกันไปหมด พรรคเสรีรวมไทยจะออกกฎหมายยกหนี้ กยศ.ให้ทั้งหมด ไม่ใช่พักหนี้ แต่เรามั่นใจว่า ทำได้ ยกหนี้ให้ทั้งหมด

“เราจะไม่เอางบประมาณไปใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น เงินทองเรามีอยู่ในบ้าน เอาไปกินไปเที่ยวหมด บ้านก็เจ๊งซิ ประเทศก็เหมือนกัน มีเงินอยู่เสือกไปซื้อรถถัง เครื่องบิน เรือดำ แล้วแม่งจะมีเงินเหลืออะไรล่ะ เราแค่เอาเงินพวกนี้มาใช้ได้สบายเลย” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวทิ้งท้าย พร้อมกับฝากผู้สมัครของพรรคในพื้นที่ จ.สระแก้วคือ เขต 1 นายสุทธิรักษ์ วันเพ็ญ เบอร์ 8 ,เขต 2 น.ส.อัคลีมา คลังเพชร เบอร์ 4 และ เขต 3 นางดุรณี ประยูรวงษ์ เบอร์ 5 ด้วย

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช และคณะผู้บริหารพรรคเสรีรวมไทย ได้พักค้างคืนที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงต่อในวันที่ 5 มี.ค.62 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ตลาดวังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ ,อ.คลองหาด และพื้นที่ อ.วัฒนนคร อรัญประเทศ ตามลำดับ ในการช่วยลูกพรรคหาเสียงในพื้นที่ภาคตะวันออก

สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคการเมืองอื่น ๆ ในพื้นที จ.สระแก้ว โดยพรรคพลังประชารัฐนั้น พบว่า นายฐานิสร์ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 1 อดีต ส.ส.สระแก้ว ได้เดินทางมาช่วย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 10 ที่เปิดเวทีการปราศรัยหาเสียง เพื่อขอคะแนนกับพี่น้องประชาชนที่สนามโรงเรียนคลองหาดพิทยาคม ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว โดยการปราศรัยจะชูนโยบายพรรค ขอคะแนนเสียง มีประชาชนมาร่วมรับฟังจำนวนประมาณ 700 คน มีผู้นำชุมชน อสม.และพื้นที่ใกล้เคียง ได้นำมวลชนมาร่วมฟังการปราศรัย โดยใช้รถยนต์หกล้อดัดแปลงเป็นเวทีพร้อมเครื่องขยายเสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพรรคพลังประชารัฐได้ใช้รถยนต์ที่ใช้ในการหาเสียง ประมาณ 15 คันมาประกอบการจัดเวที โดยมี นายฐานิสร์ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ได้ขึ้นปราศรัยชูนโยบายพรรคและยืนยันว่า ตระกูลเทียนทองยังรักกันเหนียวแน่นเหมือนเดิม เหตุการณ์การเมืองในอดีตที่ผ่านมาและการลงทุนด้านธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นที่หดหาย ส่วน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ได้ขึ้นปราศรัยชูนโยบายพรรค อาทิ บัตรประชารัฐ เพิ่มคน เพิ่มสิทธิ์ ,พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 พักหนี้ ฟื้นฟู เติมทุน ให้โอกาส, ส.ป.ก. 4.0 โอนสิทธิ์ เพิ่มมูลค่า ใช้ตรงประโยชน์ ,เกษตรประชารัฐ 4.0 เพิ่มรายได้ เพิ่มทางเลือก เพิ่มนวัตกรรม ลดหนี้ ลดต้นทุน ลดความเสี่ยง ข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม 20 ไร่ ไร่ละ 2,000 บาท 3 เพิ่ม 3 ลด ลด และยุติการปราศรัยช่วงเวลา 19.30 น.วันเดียวกัน

——————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"