สระแก้ว – “สุทธิรักษ์ วันเพ็ญ” ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 1 พรรคเสรีรวมไทย อุทธรณ์ต่อศาลจังหวัดสระแก้ว หลังถูก กกต.สอยตัดสิทธิ์ไม่รับสมัคร คาดหลังศาลไต่สวนเสร็จสิ้นและอ่านคำพิจารณาในวัน 26 ก.พ.นี้ จะสามารถลุยต่อได้ เนื่องจากผู้สมัครของพรรคหลายคนที่ถูกตัดสิทธิ์กรณีเดียวกัน กกต.จังหวัดอื่น ๆ พิจารณาให้ผ่านแล้ว เนื่องจากเป็นสมาชิกก่อนวันเลือกตั้งครบ 90 วันตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 22 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สระแก้ว ทั้ง 3 เขต ที่มีผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 71 ราย และถูก กกต.สระแก้วประกาศไม่รับสมัคร จำนวน 7 ราย ในเขตเลือกตั้งที่ 1 มี 3 ราย, เขตเลือกตั้งที่ 2 มี 2 ราย และเขตเลือกตั้งที่ 3 มี 2 ราย และในจำนวน 7 ราย มี นายสุทธิรักษ์ วันเพ็ญ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตที่ 1 พรรคเสรีรวมไทย เบอร์ 8 รวมอยู่ด้วยนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 21 ก.พ.62 ที่ผ่านมา นายสุทธิรักษ์ วันเพ็ญ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สระแก้ว เขต 1 พรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า หลังจากได้รับหนังสือแจ้งจาก กกต.จังหวัดสระแก้วว่า ตนเองขาดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จากนั้น ได้ทำการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาจังหวัดสระแก้ว และเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ศาลจังหวัดสระแก้ว ได้มีหมายศาลให้ตนเดินทางไปขึ้นศาลเพื่อไต่สวนคดี กรณีถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้สมัคร และให้รอฟังคำพิพากษา ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น.ที่จะถึงนี้
นายสุทธิรักษ์ วันเพ็ญ กล่าวว่า ประเด็นที่เข้าไปโต้แย้งคือ การเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน ซึ่ง กกต.แจ้งว่า เราเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน 2 พรรคการเมือง ระหว่างสมัครรับเลือกตั้ง โดยสมัครพรรคภูมิใจไทย แล้วก็ไปสมัครพรรคเสรีรวมไทย ก่อนจะลาออกจากพรรคภูมิใจไทย แต่ตนได้ชี้แจงว่า เราได้เป็นสมาชิกพรรคเสรีรวมไทยโดยสมบูรณ์แล้วเกิน 90 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.2561 ซึ่งมั่นใจว่าจะผ่านกรณีนี้ หลังจากมีสมาชิกพรรคเดียวกันของพรรคที่โดนตัดสิทธิ์เหมือนกัน ได้คืนสิทธิ์มาแล้วจำนวน 4 ราย หลังจากไปแก้ต่างกับ กกต.จังหวัด ซึ่งหวังว่า กรณีที่เป็นกรณีเดียวกันเราควรจะได้คืนสิทธิ์เหมือนกัน
“ขณะนี้ผมได้ตัดสินใจ ติดป้ายหาเสียงเพิ่มอีก 200 ป้าย ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป เพราะหลังการถูก กกต.ตัดสิทธิ์ ทำให้การหาเสียงทำได้ช้ากว่าผู้สมัครคนอื่นมาหลายวันแล้ว อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่า ยังมีผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทยในพื้นที่เขต 1 เบอร์ 8 อีกคน ” นายสุทธิรักษ์ กล่าว
—————————-
