สระแก้ว – กกต.สระแก้ว ประกาศตัดสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.แล้ว หลังพบปัญหาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อนฯ ขาดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม รวม 7 คน ส่วนบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งเริ่มดุเดือด มีการแจกใบปลิวโจมตีกันแล้ว
เมื่อวันที่ 16 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายพงษ์เกตุ เติมกิจธนสาร ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว เผยแพร่เอกสารการประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จังหวัดสระแก้ว เมื่อค่ำวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังคณะกรรมการใช้เวลาพิจารณากว่า 1 สัปดาห์ ผลการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 71 คน ใน 3 เขตเลือกตั้ง จ.สระแก้ว พบว่า มีผู้สมัคร จำนวน 7 คน ที่ กกต.จังหวัดสระแก้วประกาศไม่รับสมัคร ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 ประกาศรับสมัคร 20 ราย จากทั้งหมด 23 ราย โดยประกาศไม่รับสมัคร 3 ราย ได้แก่ นายเทียนทอง สิงห์รัก ผู้สมัครพรรคเพื่อนไทย หมายเลข 7 , นายสุทธิรักษ์ วันเพ็ญ พรรคเสรีรวมไทย หมายเลข 8 และ นายภัทรพล มานะสร้าง พรรคพลังท้องถิ่นไท หมายเลข 12
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 ประกาศรับสมัคร 21 ราย จากทั้งหมด 23 ราย โดยประกาศไม่รับสมัคร จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย น.ส.ณฤดี ภัคพีรพงษ์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อนไทย หมายเลข 12 และนายวรพล อินทรกำแหง พรรคพลังชาติไทย หมายเลข 22 ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 ประกาศรับสมัคร 23 ราย จากทั้งหมด 25 ราย โดยประกาศไม่รับสมัคร จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายวีรวิทย์ กรเศรษฐี ผู้สมัครจากพรรคเพื่อนไทย หมายเลข 3 และนายสวัสดิ์ บ่อเงิน พรรคประชาภิวัฒน์ หมายเลข 22
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้สมัคร ส.ส.ที่ถูกตัดสิทธิ์การรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต จ.สระแก้ว จำนวน 7 ราย เป็นหนึ่งในรายชื่อของผู้สมัครที่มีการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามผู้สมัคร ส.ส.เขต จากยอดการรับสมัคร ส.ส.ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน โดยพบว่า ขาดคุณสมบัติถึง 506 คน เนื่องจากพบปัญหาการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อน ,ไม่ครบ 90 วัน ,ไม่เป็นผู้ร่วมกันจดจัดตั้ง และขาดคุณสมบัติอื่น ๆ ซึ่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 350 เขต ทั่วประเทศ ประกาศไม่รับสมัครหรือรับรองรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.เขต ดังกล่าว
นายสุทธิรักษ์ วันเพ็ญ ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 1 พรรคเสรีร่วมไทย ซึ่งถูกประกาศไม่รับสมัครด้วย กล่าวว่า ทาง กกต.อ้างว่า ตนเป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 7 พ.ย.61 แต่เพิ่งลาออกจากพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 25 พ.ย.61 ทำให้มีช่วงเวลาที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อนกันอยู่ แต่เป็นการลาออกจากสมาชิกพรรคเดิมก่อน 90 วัน จึงน่าจะไม่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ ทั้งนี้ จะได้ปรึกษากับนักกฎหมายของพรรคเพื่อร้องอุทธรณ์เรื่องนี้ในวันจันทร์ต่อไป ส่วนผู้สมัคร ส.ส.รายอื่น เช่น นายวรพล อินทรกำแหง พรรคพลังชาติไทย ก็พบปัญหาลักษณะเดียวกันเช่นกัน โดยเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.61 แต่เพิ่งลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.62
“ถือว่าเป็นข่าวร้ายของผู้สมัคร ส.ส.ที่ไม่คิดว่า ในเมื่อปัจจุบันเราเป็นสมาชิกพรรคเดียว จึงน่าจะพิจารณาแค่ปัจจุบันและการเป็นสมาชิกพรรคปัจจุบันก็อยู่ในช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกชะตากรรมแบบเดียวกันกำลังพยายามแก้ปมปัญหาเรื่องสมาชิกพรรคซ้ำซ้อน ซึ่งนักกฎหมายหลายคนบอกว่า แก้ได้ ซึ่งถ้าเป็นจริงผมก็ได้ไปต่อ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องยุติบทบาทเพื่อไปเริ่มใหม่ครั้งต่อไป” นายสุทธิรักษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยเฉพาะพื้นที่ เขต 2 สระแก้ว ประกอบด้วย อ.วังสมบูรณ์ อ.คลองหาด อ.วังน้ำเย็น ยกเว้น ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วัฒนานคร ยกเว้น ต.ช่องกุ่มและแซร์ออ มีการลงพื้นที่หาเสียงอย่างคึกคัก โดยแคนดิเดทในพื้นที่อย่าง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว ซึ่งย้ายสังกัดจากเดิมพรรคเพื่อไทย ไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 10 ก็ลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ อ.คลองหาด อ.วังน้ำเย็น ส่วน พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น อดีต สว.สระแก้ว ผู้สมัคร จากพรรคเพื่อไทย เบอร์ 5 ตัวแทนพรรคที่ นายเสนาะ เทียนทอง คัดเลือกให้ลงสมัครแทนหลานสาว ก็ลงพื้นที่หาเสียงใน อ.วังน้ำเย็น และ อ.วังสมบูรณ์ โดยเดินหาเสียงแบบเคาะประตูบ้านกันเลยทีเดียว
พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 สระแก้ว พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเองจะลงพื้นที่เพื่อพบปะชาวบ้านทุกหลังคาเรือนแบบเคาะประตูบ้าน ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ชาวบ้านรู้จักและอยากให้สานงานนโยบายของพรรคต่อไป สำหรับตนเองสู้เต็มที่ ระหว่างลงหาเสียงก็ยังไม่เกิดปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งที่เริ่มดุเดือดมากขึ้น เนื่องจากใกล้วันเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ทุกพรรคจึงเร่งลงพื้นที่ทุกจุด โดยระหว่างที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ เดินหาเสียงในพื้นที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว พบว่า มีการแจงใบปลิวโจมตี ผู้สมัครของการเมืองพรรคหนึ่ง กล่าวหาผู้สมัครชื่อ ช. มีการเตรียมการแจกเงินหาเสียงเลือกตั้งและลอบบี้คนในพื้นที่ให้เลือกพรรคที่ลงสมัครด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้สมัครที่กำลังหาเสียงต้องรีบออกจากพื้นที่เนื่องจากเกรงว่า จะถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
—————————–
