X

เตรียมยื่นอุทธรณ์คดีฉ้อโกงเงินออมวันละบาทจนล่ม หลังศาลพิพากษาให้ยกฟ้องและยกคำขอให้คืนเงินชาวบ้านผู้เสียหาย !!

สระแก้ว – ชาวบ้านเตรียมยื่นอุทธรณ์คดีฉ้อโกงเงินออมวันละบาทจนล่ม หลังศาลพิพากษาให้ยกฟ้องและยกคำขอให้คืนเงินชาวบ้านผู้เสียหาย เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ชาวบ้าน ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว รวมตัวกันร้องเรียนปัญหาการทุจริตเงินกองทุนสวัสดิการชุมชนวันละ 1 บาท หรือออมปีละ 365 บาท ภายใต้ระเบียบสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ซึ่งมีชาวบ้าน 18 หมู่บ้าน จำนวน 1,510 คน ถูกฉ้อโกงเงินกว่า 2.6 ล้านบาท ที่ออมกันมากว่า 10 ปี หลังมีการลาออกจากสมาชิก เนื่องจากพบความไม่โปร่งใส่และไม่ได้รับสวัสดิการตามข้อตกลงหรือคืนเงินต้นตามระเบียบ ซึ่งมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ และแจ้งความที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อดำเนินคดีต่อศาลจังหวัดสระแก้วนั้น

ล่าสุด ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 5 ศาลจังหวัดสระแก้ว ผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว ภายหลังอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องแทนชาวบ้านในช่วงกลางปี 2560 ที่ผ่านมา โดยมี น.ส.มาลัย ปาระบับ ,นางเสริมสวย วงษ์วิชา ตัวแทนชาวบ้านและผู้เสียหาย จำนวนกว่า 10 คน เข้าร่วมรับฟัง  ทั้งนี้ จำเลยในคดี ซึ่งประกอบด้วย นายวสันต์ น้อยพี ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนตาหลังใน จำเลยที่ 1 , นางดวงกมล กองเส็ง  เหรัญญิกกองทุนฯ ,นางธัญญรัตน์ ไชญานุวัฒน์ จำเลยที่ 2 และ 3 เข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาต่อหน้าบัลลังก์ศาลด้วย

โดยศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานที่มีการนำสืบพยาน จากตัวแทนผู้เสียหาย ซึ่งปรากฏว่า หลักฐานที่ชาวบ้านซึ่งเป็นผู้เสียหายและสมาชิก ซึ่งดูแลการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ยังไม่สามารถระบุชัดถึงการกระทำผิด  รวมทั้งฝ่ายจำเลยได้ยื่นเอกสารใบสำคัญการจ่ายเงิน จำนวนเงินออม และการจ่ายเงินสวัสดิการต่าง ๆ แก่สมาชิกถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งระยะเวลาในการจัดเก็บเงินสวัสดิการกว่า 10 ปี พยานโจทก์บอกว่า บัญชีไม่ถูกต้อง แต่มีการลงลายมือชื่อพยานโจทก์ไว้ถูกต้อง เมื่อพิจารณาจากพยานและข้อมูลย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2549 กองทุนล้มเหลวเพราะค่าใช้จ่ายมาก

และพยานโจทก์ทั้งหมด ที่เป็นตัวแทนในการเก็บเงินเข้ากองทุนฯยังได้รับค่าตอบแทน 7 เปอร์เซ็นต์ ทำให้การบริหารกองทุนมีแนวทางที่จะขาดทุนได้ แม้จะมีเงินอุดหนุนจากรัฐเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายและเงินอุดหนุน ทั้งนี้ การยื่นบัญชีกองทุนที่เหลือน้อย ไม่มีน้ำหนักมั่นคงพอ เนื่องจากจำเลยปฏิเสธและมีเอกสารใบสำคัญการจ่าย ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏตามฟ้อง จึงพิพากษาให้ยกฟ้องและยกคำขอให้คืนเงินแก่ผู้เสียหาย

อย่างไรก็ตาม น.ส.มาลัย ปาระบับ ตัวแทนชาวบ้านและผู้เสียหาย เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างปรึกษากับอัยการเพื่อยืื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น จะต้องมีการสอบถามไปทางศาลเพื่อขอคัดสำเนาคำพิพากษาอีกครั้ง ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำนักงานตรวจเงินแผนดินอยู่ระหว่างตรวจสอบตัวเลขและรายละเอียดกรณีกองทุนดังกล่าวว่า มีความถูกต้องมากน้อยเพียงใดด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"