X

ผู้ว่าฯสระแก้วคาดโทษถูกจับเผาอ้อยดำเนินคดีตามกฎหมาย เตรียมประสานเขมรหารือแก้ปัญหาการเผาจังหวัดชายแดน

สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วสั่งท้องถิ่น ผู้นำหมู่บ้านตรวจสอบการเผาไร่อ้อยก่อมลภาวะฝุ่นละออง คาดโทษหากถูกจับจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เตรียมประสานจังหวัดชายแดนประเทศกัมพูชา เพื่อหารือแก้ปัญหาการเผาร่วมกันหากมีตัวเลขที่ชัดเจน หลังพบจุดฮอตสปอตพื้นที่ติดแนวชายแดนจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองฝ่าย

นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์กรณีเกิดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และ PM10 ซึ่งอยู่ในภาวะสีส้มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ในช่วงที่ผ่านมาว่า จากที่ได้ติดตามข่าวสารที่สื่อมวลชนนำเสนอเกี่ยวกับฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐานของจังหวัดสระแก้ว ซึ่งได้ให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ลงไปสำรวจตรวจสอบ ขณะนี้ตัวเลขที่รายงานมาเป็นลายลักษณ์อักษรยังไม่ขึ้นมา แต่ก็ทราบว่า มีค่าในบางห้วงบางจังหวะเวลาที่มันสูงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายแดน แถบช่องด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ส่วนกรณีที่มีการตรวจพบจุดฮอตสปอตจำนวนมากในบริเวณฝั่งประเทศกัมพูชา ซึ่งเกิดจากกิจกรรมการเผาทางการเกษตรนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ระบุว่า ทุกเรื่องที่มีผลกระทบต่อกันและกัน ทุก ๆ เรื่องเราจะมีการพูดคุยกันในระดับท้องที่อยู่แล้ว เรื่องนี้คงหนีไม่พ้น เพียงแต่ว่า เราก็อยากได้ตัวเลขแน่นอน และคงจะต้องของทราบข้อมูลจากทางประเทศเพื่อนบ้านด้วย หลังจากนั้นแล้ว เราคงต้องมีการคุยกันทั้งในรอบและนอกรอบ เพราะโดยปกติแล้วจะมีการพูดคุยกับทางผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย คุยกับทางผู้ว่าฯ ปอยเปต และผู้ว่าฯ พระตะบอง เป็นประจำอยู่แล้ว

“ถ้าเกิดเรื่องนี้ มีตัวเลขข้อมูลที่แน่นอนแล้ว ก็คงจะต้องจับยกขึ้นมาพูดคุยเป็นเวทีอย่างเป็นทางการ เพื่อขอความร่วมมือ คาดว่า เรื่องราวเหล่านี้ถ้าตัวเลขข้อมูลเป็นตัวเลขที่ปรากฏชัดเจน ก็จะได้รับการแก้ไข เพราะความสัมพันธ์ของเรานั้นดีต่อกันมาโดยตลอด” นายวิชิต กล่าวและว่า

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาการเผาไร่อ้อยในพื้นที่ จ.สระแก้วนั้น ทางจังหวัดได้มีการพูดคุยและเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งได้ประชาสัมพันธ์รณรงค์มาโดยตลอดในเรื่องของการเผาใบอ้อย ถึงขนาดว่าเชิญโรงงานมาพูดคุย ซึ่งโรงงานก็บอกว่า ไม่ได้ต้องการอ้อยที่ผ่านกระบวนการเผา เพราะการเผานอกจากจะทำให้สภาพสิ่งแวดล้อมหรือบรรยากาศเรือนกระจกเกิดขึ้นเท่านั้น ก็ยังทำให้น้ำหนักของอ้อยลดลง ความหวานลดลง ทุกคนก็รู้ แต่สืบเนื่องจากว่า การเก็บเกี่ยวมีปัญหาเรื่องของการใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งใบก็ขายได้ เพียงแต่ว่า ชาวไร่ที่ปลูกอ้อย การปรับสภาพพื้นที่ไม่สามารถจะเอาเครื่องจักรเข้าไปตัดได้ บางที่มีหินก้อนใหญ่ มีตอไม้ ก็สร้างความเสียหายให้ และเครื่องตัดอ้อยมีจำนวนจำกัดเฉพาะของโรงงาน ทางราชการดูอยู่ว่า เราจะหาเอกชนมาลงทุนหรือจะให้กลุ่มเสนอของบประมาณมา หากระเบียบเรื่องการใช้งบประมาณสามารถดำเนินการได้ เราก็อยากสนับสนุนให้ใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ

อย่างไรก็ตาม นายวิชิต กล่าวอีกว่า ปัญหาการเผาอ้อยมองเหมือนว่า ชาวไร่อ้อยดื้อพอสมควร แต่ถ้าลงไปลึก ๆ แล้ว บางครั้งก็ต้องเห็นใจเกษตรกรที่ต้องไปเสียค่าแรงในการตัดอ้อยที่ไม่เผาเพราะตัดยาก ทั้งนี้มาตรการการห้ามเผาอ้อย มีมาตรการอยู่แล้ว ซึ่งเราให้ทางท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ทางอาสาสมัคร หรือแม้ข้าราชการเกษตร ลงไปดำเนินการ ซึ่งบางครั้งไปตรวจแล้วก็ไม่ได้ตัวผู้กระทำความผิด มีเหตุแล้วพบแต่เปลวไฟ แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ เราก็ยังมีการประชาสัมพันธ์อยู่ แล้วถ้ารายไหนที่เราดำเนินการจับได้เราก็จำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการทางกฎหมายที่มีบทลงโทษอยู่ ดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะมันผิดกฎหมาย

“มันได้ไม่เท่าเสีย เพราะเราเผาไปแล้ว อาจจะตัดง่ายหน่อย แต่เราก็เสียเรื่องของค่าความหวาน, น้ำหนัก ,ใบที่ขายได้ซึ่งราคาต่อตันแพงกว่าอ้อยด้วยซ้ำ ดังนั้น จึงอยากรณรงค์ให้ช่วยกัน อย่าเผาเลย เพราะกรณีของกรุงเทพมหานครที่เกิดจากฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน สร้างปัญหาให้กับประเทศอย่างมากมาย” นายวิชิต กล่าวทิ้งท้าย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"