รอง สวป.ฉาวส่วยลำไยเปิดใจไม่ได้เรียกรับ ส่วนผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน

สระแก้ว – ผู้เสียหายคดีเรียกรับส่วยชาวสวนลำไย จ.สระแก้ว เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ เพื่อพูดคุยและขอเข้าไปพูดคุยร่วมกับสมาคมและผู้เสียหายรายอื่น ๆ ในการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนเข้าให้ปากคำอีกครั้ง ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ. ตำแหน่ง รอง สวป.เปิดใจ พร้อมปฏิเสธไม่ได้เรียกรับ

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า กรณีชาวสวนลำไยในพื้นที่ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว นำโดย นายศิริไพบูลย์ วัฒนวงศ์ชัย พร้อมตัวแทนชาวบ้านที่ปลูกลำไยและตัวแทนล้งรับซื้อลำไยในเขต จ.สระแก้ว รวมตัวกันที่ สภ.เขาฉกรรจ์ เพื่อยื่นหนังสือในนามสมาคมผู้ปลูกลำไยจังหวัดสระแก้ว ร้องเรียนต่อ ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ.เรียกรับส่วยชาวสาวลำไยและล้งรับซื้อลำไยนั้น โดยนายศิริไพบูลย์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ช่วงบ่ายได้เดินทางไปที่ สภ.เขาฉกรรจ์ พร้อมด้วยตัวแทนสมาคมฯและทนายความ เข้าพบกับ ร.ต.อ.เสน่ห์ เดชสุภา ร้อยเวร เพื่อให้ข้อมูลและแจ้งกับพนักงานสอบสวนว่า ทางตนเองและผู้เสียหายรายอื่น ๆ จะพูดคุยกันก่อนร่วมกับสมาคมพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับการเรียกรับส่วย และจะเข้าให้การกับพนักงานสอบสวนหลังจากนี้อีกครั้ง

นายศิริไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ตนนำแรงงานชาวกัมพูชาเข้ามาทำงานถูกต้องตามกฎหมายจากด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน จ.สระแก้ว และใช้แรงงานในจังหวัดสระแก้วถูกต้อง แต่เข้ามาได้น้อยเพราะคนทำเป็นมันไม่มี คนเดือดร้อนคือชาวสวน ถ้าเก็บไม่ทันก็เสียหาย ที่บอกว่า ตนใช้แรงงานผิดกฎหมายนั้น ไม่ใช่แรงงานที่หลบหนีเข้าเมือง มีบอร์ดเดอร์พาสเพียงแต่กฎหมายไปห้ามข้ามเขตจังหวัดเท่านั้น ทำไมไม่ทำข้อตกลงเหมือนกับ จ.สระแก้วกับปราจีนบุรี ที่สามารถข้ามไปมาได้เพื่อทำงานได้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ทำไมสระแก้วกับจันทบุรีทำไมไม่ทำ เพราะทำสวนลำไยเหมือนกันและส่วนมากก็เป็นอำเภอติดกันด้วย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำไมไม่แก้ไขกันเพราะขัดแย้งกันระหว่างกฎหมายแรงงานและกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ปล่อยให้ตำรวจอาศัยช่องว่างตรงนี้มาเรียกรับส่วยทำไม

“กรณีที่ผมโดนกลั่นแกล้ง เป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่แรงงานผิดกฎหมาย เมื่อเรามีแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายทำไมต้องมาเสียมาจ่าย ผมก็เลยไม่ยอมจ่าย เลยกลายเป็นสาเหตุของการร้องเรียน หลายท่านว่าผมทำผิดกฎหมายหรือเปล่า ผมบอกว่า ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมายแรงงานผมถูกต้อง เหมือนกับที่จันทบุรี เวลาเค้าไปเก็บที่ไหนเค้าก็ไม่ต้องจ่ายท้องที่ ไม่ต้องจ่ายที่ไหน ซึ่งผมก็เหมือนกันแรงงานผมออกถูกช่องทาง จ.สระแก้ว ผมไม่จำเป็นต้องจ่าย แต่ปัญหากรณีนี้คือเค้าพยายามจะมาเอา แต่ผมไม่ให้ คงต้องปล่อยให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอนของทางราชการไป หวังว่า กรณีนี้คงเป็นบทเรียนให้กับเจ้าหน้าที่บางรายที่กำลังทำอยู่ ให้เห็นใจพี่น้องชาวสวนลำไยบ้าง ” นายศิริไพบูลย์ กล่าว

ส่วนตัวแทนสมาคมผู้ปลูกลำไยจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า หากจะให้แก้ไขการใช้แรงงานให้ถูกกฎหมายเลยต้องมีการแก้ไขระเบียบ ที่ผ่านมาเราก็ใช้แรงงานที่กองกำลังบูรพาอนุโลมให้เข้ามาบ้าง มีบอร์ดเดอร์พาสบ้าง ซึ่งพื้นที่อำเภออื่น ๆ มีส่วนน้อยที่ถูกเรียกรับส่วย ซึ่งเป้าหมายเราไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เค้าออกจากราชการ แต่ต้องการให้การเรียกเก็บเบาบางลงเท่านั้น

ทางด้าน นายตำรวจยศ ร.ต.อ. ตำแหน่งรอง สวป.สภ.เขาฉกรรจ์ ผู้ถูกกล่าวหาในกรณีนี้ ระบุว่า ข้อเท็จจริงคือตนไปออกตรวจ ซึ่งเป็นเขตอำนาจของเรา เราก็มีสิทธิ์ที่จะตรวจ พอเราไปตรวจ เขามีแรงงานมา 13 คน เราก็ตรวจความถูกต้องว่า เค้ามาถูกต้องหรือไม่ ซึ่งก็แค่นั้นเอง ส่วนหลักฐานที่ว่ามีการโอนเงินนั้น เป็นเรื่องเก่าไม่ใช่เคทนี้ ซึ่งคนเราเวลารักกันก็จูบปากกัน พอไม่พอใจกันก็เอาเรื่องเก่ามาพูด เป็นหลักฐานเก่า

นายตำรวจรายเดิม กล่าวอีกว่า พอผู้กล่าวหาให้ข้อมูลพนักงานสอบสวนเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่เรียกไปพบเมื่อไหร่ตนก็จะไป ตอนนี้ยังไม่เรียกจึงอยู่เฉย ๆ ก่อน ซึ่งการสอบปากคำก็ต้องสอบผู้กล่าวหาก่อน หลังจากนั้นก็จะเรียกเราไปสอบเพื่อให้เราแก้ข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่กังวล เพราะไม่ได้รับส่วยเค้า จะไปซีเรียสอะไร

——————————