สระแก้ว – ญาติรับศพเศรษฐีนี เมียอดีตรองนายกฯเมืองสระแก้ว ตายปริศนาในบ้าน หลังส่งศพตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ โดยนำศพไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ ก่อนนำร่างไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่วัดใน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยพี่สาวระบุว่า ยังข้องใจในสาเหตุการตายของน้องสาว เนื่องจากผิดธรรมชาติ
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 3 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีพบศพผู้เสียชีวิตปริศนาในบ้านเลขที่ 8/1 ซ.เทศบาล 18 ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อคือ น.ส.มนัส ถามั่งมี อายุ 52 ปี ที่อยู่ 13/2 ซ.เทศบาล 18 ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ซึ่งประกอบอาชีพรับเหมาถมดิน บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสระแก้ว และเป็นภรรยาของ นายชัยรัตน์ บุญช่วย อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองสระแก้ว ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปในช่วงต้นปี 2567 วันที่ 6 ก.พ.67 ที่ผ่านมาและเพิ่งเผาศพไปเมื่อ 20 กว่าวันก่อน โดยความคืบหน้าภายหลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างสระแก้ว นำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเบื้องต้นที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว ได้ทำเรื่องขอส่งร่างผู้เสียชีวิตไปผ่าชันสูตรศพที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ เนื่องจากญาติมีข้อสงสัยสาเหตุการตายหลายอย่างที่อาจมีเงื่อนงำ เนื่องจากผู้ตายเคยมีปัญหาเรื่องทรัพย์สมบัติกับญาติฝ่ายสามีมาก่อนหน้านี้ และสมบัติทั้งที่ดินและทรัพย์สินอื่น ๆ ทั้งหมด หลังสามีเสียชีวิต เป็นชื่อของผู้ตายทั้งหมด
ล่าสุด วันนี้ ทางมูลนิธิกู้ภัยสว่างสระแก้วและญาติ ได้ไปรับร่างของ น.ส.มนัส ถามั่งมี อายุ 52 ปี ที่อยู่ 13/2 ซ.เทศบาล 18 ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ผู้เสียชีวิต เดินทางมาจากสถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ โดยนำศพมาถึงที่บ้านเลขที่ 8/1 ซ.เทศบาล 18 ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ตายเสียชีวิตอย่างปริศนา บริเวณพื้นท้ายเตียงในห้องนอน สภาพศพมือเกร็ง ท่อนล่างเปลือย พบเลือดออกจากปากและจมูก ใบหน้าเขียวช้ำไปจนถึงลำคอ โดยศพมาถึงที่บ้านช่วงเวลา 15.30 น.เศษ ญาติและเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสระแก้ว ได้นำศพ น.ส.มนัสฯ เข้ามาบริเวณบ้านของผู้ตายและนิมนต์พระสงฆ์มาจากวัดรัตนสุวรรณราราม (ซับนกแก้ว) จากบ้านซับนกแก้ว ต.หนองน้ำใส อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของคนตาย มาทำพิธีเรียกวิญญาณ พร้อมกับเลี้ยงข้าว น้ำ จากนั้นก็ทำพิธีเรียกวิญญาณของผู้ตายขึ้นรถ เพื่อไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่วัดรัตนสุวรรณราราม (ซับนกแก้ว) อ.วัฒนานคร ซึ่งผู้สื่อข่าวสังเกตุว่า ขณะที่นำร่างผู้ตายมาเชิญดวงวิญญานกลับไป ไม่มีญาติและลูกสามีมาร่วมพิธีด้วย ทั้ง ๆ ที่ญาติผู้ตายได้โทรติดต่อแล้ว แต่ไม่รับสาย
นางยุพาภรณ์ กองโพธิ์ อายุ 54 ปี พี่สาวผู้ตาย ซึ่งเดินทางมารับศพน้องสาวพร้อมกับภาพติดหน้าโลงศพ อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ ร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่งญาติได้ช่วยกันร้องเรียกให้กลับไปที่บ้าน รวมทั้งนางยุพาภรณ์ฯเอง ได้ไปยืนกวักมือเรียกน้องสาวให้ออกมาจากห้องนอนที่น้องเสียชีวิตด้วย โดยภายหลังพระสงฆ์ได้นำสวดเรียกดวงวิญญาณ พร้อมกับบอกกล่าวให้มากินข้าวกินน้ำก่อนจะเดินทางนำศพไปที่วัดใน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านเดิมของผู้เสียชีวิต ซึ่งนางยุพาภรณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ยังติดใจถึงสาเหตุการตายของน้องสาว เพราะว่า น้องสาวตายแบบผิดธรรมชาติ ที่ผ่านมาน้องสาวเองก็ไม่ได้พูดให้ฟังว่า เคยมีปัญหาอะไรกับใครบ้าง หรือมีปัญหาด้านสุขภาพอย่างไรบ้าง จึงอยากฝากให้ตำรวจตรวจสอบและทำคดีให้ชัดเจน
“คนเราก็ไม่ได้อยู่ชิดติดกัน เค้ามาอยู่ที่นี่ก็ 20-30 ปี มาแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเดินทางไปหาพ่อหาแม่ หาพี่ที่บ้านใน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ก็แค่นั้นเอง สำหรับสาเหตุการเสียชีวิต ทางญาติยังติดใจในสาเหตุการตาย ก่อนหน้านั้นก็พยายามติดต่อกัน แต่ก็ไม่รับหลายครั้ง ซึ่งมันผิดปกติแล้ว ทางญาติคิดไปในทางที่ดี ๆ ร้อนรนกันอยากจะไปดูให้เห็นตัวเป็น ๆ จนมาถึงที่บ้านและได้ยินเสียงโทรศัพท์ แสดงว่าตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ส่วนทรัพย์สินของคนตาย ทางญาติก็ไม่รู้ว่า มีอะไรบ้าง เห็นแต่ที่แกเคยถือไปเท่านั้นเอง แกเคยบอกว่า ของที่มีก็ขายใช้หนี้เค้าไปหมดแล้ว สำหรับเรื่องทรัพย์สินที่เคยมีปัญหากับลูกเลี้ยง คนตายก็เคยพูดให้ฟังว่า ทรัพย์สินเป็นชื่อเค้าทั้งหมด ก่อนหน้านั้น เคยบอกว่า ขอแค่ทำบุญ 100 วัน สามีเสร็จ ก็จะกลับไปอยู่บ้านที่ อ.วัฒนานคร ส่วนการแบ่งทรัพย์สินนั้น ทราบมาว่า อันไหนที่เป็นสิทธิ์ของลูกเลี้ยงเค้าก็ทำไว้ให้แล้ว” นางยุพาภรณ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ทางญาติของสามีผู้เสียชีวิต ที่เพิ่งเผาศพไปเมื่อ 20 กว่าวันก่อนหน้านี้ ให้ข้อมูลรายละเอียดว่า คนเสียชีวิตเป็นภรรยาของ นายชัยรัตน์ บุญช่วย อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสระแก้ว ไม่มีลูกด้วยกัน โดยลูกติดของอดีตรองนายกเทศมนตรีกับภรรยาคนเดิม มีญาติพี่น้องกัน 4 คน คือ เอ๋ โอ๋ แสบ ไอซ์ ได้ยินเสียงทะเลาะกันบ่อยกับคนตายเป็นประจำ ซึ่งคืนที่เกิดเหตุเห็นแต่พี่น้องเค้ามา เพราะโทรศัพท์ไม่ติด ก็เลยมาตามหาน้องที่ไม่รับโทรศัพท์ เข้าบ้านไม่ได้ ก็เลยโทรไปตามไอ้แสบมางัดบ้านให้จนพบว่าเสียชีวิต ส่วนไอซ์ก็อยู่อีกห้อง ซึ่งก็ไม่รู้ว่า น้าเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านจุดเกิดเหตุ โดยขอเข้าดูกล้องวงจรปิดจากบ้านที่อยู่ตรงข้ามบ้านจุดเกิดเหตุ ว่ามีใครเข้าออกในช่วงก่อนเกิดเหตุหรือไม่ ทราบเพียงว่า เจ้าหน้าที่ได้มาติดต่อขอดูรายละเอียดแล้ว ซึ่งยังไม่พบว่า วันนั้นมีใครเข้าออกบ้าง ขณะที่กล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านของผู้เสียชีวิต ปรากฏว่า เสียมานานแล้ว โดยกรณีการเสียชีวิตครั้งนี้ พ.ต.อ.สราวุธ เอี่ยมสำอางค์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ดำเนินการให้รอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนผลการผ่าชันสูตรของสถานบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ ต้องรอผลอีกระยะหนึ่ง ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นการฆาตกรรมหรือเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว
—————————-
ข่าว-ภาพโดย/เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์, สมศักดิ์ ปัญญาสัย ทีมข่าวสระแก้ว
