เศรษฐีนีเมียอดีตรองนายกเทศบาลฯ ตายปริศนาคาบ้าน หลังห้างบิ๊กซี จ.สระแก้ว 

สระแก้ว – เกิดเหตุเศรษฐีนีวัย 54 ปี เมียอดีตรองนายกเทศบาลเมืองสระแก้ว เสียชีวิตปริศนาคาบ้าน หลังสามีเพิ่งตายไปไม่ถึงเดือน ภายในบ้านหลังห้างบิ๊กซี อ.เมืองสระแก้ว สภาพศพมือเกร็งท่อนล่างเปลือย พนักงานสอบสวนต้องส่งศพชันสูตรสถาบันนิติเวช รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จ.ปราจีนบุรี 

เมื่อเวลา 11.20 น.วันที่ 2 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สราวุธ เอี่ยมสำอางค์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ได้รับแจ้งจาก มูลนิธิสว่างสระแก้วธรรมสถานว่า มีผู้บุคคลเสียชีวิตปริศนา ที่บ้านเลขที่ 8/1 ซ.เทศบาล 18 ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ร้อยเวร สภ.เมืองสระแก้ว พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองสระแก้ว และชุดสืบสวน กก.ภ.จว.สระแก้ว ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสระแก้วร่วมด้วย พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.มนัส ถามั่งมี อายุ 54 ปี ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านคือ บ้านเลขที่ 13/2 ซ.เทศบาล 18 ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ประกอบอาชีพ รับเหมาถมดิน อยู่ที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสระแก้ว และเป็นภรรยาของ นายชัยรัตน์ บุญช่วย อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองสระแก้ว ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปในช่วงต้นปี เมื่อวันที่ 6 ก.พ.67 ที่ผ่านมา และเพิ่งเผาศพไปเมื่อ 20 กว่าวันก่อน

ทั้งนี้ จากการสอบถามทราบว่า หลังสามีเสียชีวิต บ้านหลังดังกล่าว น.ส.มนัสได้อาศัยอยู่กับ นายรชต บุญช่วย ซึ่งเป็นบุตรชายของ นายชัยรัตน์ บุญช่วย อดีตรองนายกฯ และหลานชาย อายุ 17 ปี อีก 1 คน โดยนายรชตแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นว่า เมื่อวานนี้ วันศุกร์ที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนไม่ได้เข้ามานอนพักที่บ้าน เพราะไปเที่ยวเล่นอยู่บ้านเพื่อน ส่วนหลานชายอีก 1 คน ก็ไม่ได้เข้ามานอนพักที่บ้านเช่นกัน แต่ไปพักอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยง จึงไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้นในช่วงที่ไม่มีใครอยู่

นายรชต แจ้งอีกว่า ช่วงเวลา 10.30 น.วันนี้ ตนเองได้กลับเข้ามาบ้านพัก และโทรหา น.ส.มนัสฯ แม่เลี้ยง แต่ น.ส.มนัสฯ ไม่ได้รับโทรศัพท์ แต่ตนเองได้ยินเสียงโทรศัพท์จากในห้องนอน จึงได้แจ้งญาติ ๆ ที่อยู่บ้านในละแวกใกล้เคียงกัน เพื่อมาช่วยกันดูผ่านทางหน้าต่างห้องนอน จนพบว่า น.ส.มนัส นอนอยู่แน่นิ่งที่พื้นข้างเตียง ตนเองและญาติจึงได้ทำการทุบกระจกหน้าต่างห้องนอน และเข้าไปตรวจสอบ พบว่า น.ส.มนัสเสียชีวิตแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะเข้าตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพผู้ตาย พบว่า สภาพศพมือเกร็งท่อนล่างเปลือย นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณท้ายเตียงนอนด้านล่าง พบเลือดออกจากปากและจมูก คาดว่า น่าจะเสียชีวิตมาตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณตี 1 ของวันเดียวกัน ซึ่งขณะพบศพผู้ตาย นางยุพาภรณ์ กองโพธิ์ อายุ 54 ปี พี่สาวผู้ตาย ได้นั่งร้องไห้โฮออกมาเสียงดังอยู่ระยะหนึ่ง บอกว่า น้องสาวโทรหาเมื่อวาน ได้มาบ้านของผู้ตายและเรียกก็ไม่ตื่นขึ้นมา ญาติพี่น้องทั้งหมด 4-5 คน จึงได้ทุบกระจกบริเวณหน้าต่างข้างห้องนอนออก จนพบว่า น้องสาวตายแล้ว สภาพนอนเปลือยท่อนล่างไม่ใส่เสื้อผ้า ซึ่งญาติเชื่อว่า น่าจะถูกฆาตกรรม เพราะคนตายเป็นคนมีทรัพย์สมบัติเยอะ

ส่วน นายประเทือง กองโค พี่เขยของคนตาย ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ทราบสาเหตุการตายที่แท้จริง เพราะตอนประมาณ 3 ทุ่ม ได้โทรไลน์คุยกันกับผู้เสียชีวิต เห็นบอกว่า กำลังจะผัดหมีให้หลานไปกินที่ปทุมธานี ให้มาเอาแต่เช้า ทุกคนมาเรียกกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ก็ไม่ตื่น ลูกเขยมาก่อน เรียกและโทรก็ไม่ติด กระทั่งพบกันว่า เสียชีวิตไปแล้ว

ขณะที่ นายธนกฤต ทูคำมี เลขานุการเทศบาลเมืองสระแก้ว ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ นายชัยรัตน์ บุญช่วย อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสระแก้ว ได้เสียชีวิตไป เมื่อวันที่ 6 ก.พ.67 ที่ผ่านมา และได้เผาไปก่อนหน้านี้ 20 กว่าวัน จู่ ๆ ภรรยาก็ได้มาเสียชีวิตอีกคน ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยถึงสาเหตุการตาย เพราะธุรกิจที่ นายชัยรัตน์ฯ ทำอยู่ก่อนตาย คือรับเหมาถมดิน และที่ดินจำนวนหลายแปลง เป็นชื่อของผู้ตาย ซึ่งปัจจุบันคนตาย ไม่ได้มีลูกกับนายชัยรัตน์ คงมีแต่ลูกของเมียเก่าเท่านั้น

นายธนกฤต บอกว่า พวกเรามาทราบการเสียชีวิต เพราะญาติที่เป็นเพื่อนกันติดต่อคนตายไม่ได้ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น จึงตามหากันเพราะมันผิดวิสัย จึงรีบเข้ามาดู ซึ่งตนเข้ามาช่วงแรก ๆ เจอลูกชายคนเล็กของสามีเขาที่ตายไปก่อนหน้านี้ บอกว่า ได้ยินเสียงโทรศัพท์ในห้อง แต่ไม่มีคนรับ มีเสียงพัดลงเปิด ซึ่งก็เอะใจ เพราะแกไม่เคยเป็นแบบนี้ พอดีพี่เขยตามมาทีหลัง เลยช่วยกันดึงกระจกจนแตก แล้วให้ลูกชายปีนเข้าไปเปิดประตู จนเห็นว่า เสียชีวิตตามสภาพที่เห็น อยากให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจให้ละเอียดที่สุด

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ภายหลังตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาสตร์ โดยพนักงานสอบสวนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างสระแก้ว เคลื่อนย้ายนำศพผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรเบื้องต้นที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เพื่อออกหนังสือส่งศพไปผ่าชันสูตรที่สถานบันติเวช รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จ.ปราจีนบุรี เพื่อเร่งหาสาเหตุการตายว่า เกิดจากเหตุฆาตกรรมหรือโรคประจำตัวต่อไป

—————————–
ข่าว-ภาพโดย/ เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์, สมศักดิ์ ปัญญาสัย ทีมข่าวสระแก้ว