X

บุกจับไม้หวงห้ามถูกลักลอบตัดในป่า สปก.บ่อนางชิง ซุกที่ดินผู้ใหญ่บ้าน

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ป่าไม้-ทหาร บุกจับไม้แก๊งมอดไม้ลักลอบตัดไม้หวงห้าม ในป่าพื้นที่ สปก. พบมีไม้หวงห้ามจำนวนมากถูกแปรรูป และบางส่วนถูกขนย้ายออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ซุกในที่ดินของผู้ใหญ่บ้านบ่อนางชิงคนดัง ยอมรับตัดในที่ดิน สปก. เจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยพบมีการให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา บริเวณจุดซุกซ่อนไม้นับสิบราย

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้รับการร้องเรียนกรณีกลุ่มลักลอบตัดไม้หวงห้ามและทำลายป่าในพื้นที่ จ.สระแก้ว พร้อมทั้งประสานงานสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ โดยนายธวัชชัย วิจิตร์วงษ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาปราจีนบุรี สั่งการให้ นายวิทยา วาสนารวยรุ่ง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก.3 (หนองน้ำใส) กรมป่าไม้ จำนวน 7 นาย ร่วมกับ ร.ท.ชนินทร์ ไวยทรัพย์ ผบ.หมวดเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังบูรพา 12 นาย เข้าจู่โจมจับกุมไม้ท่อน ไม้แปรรูป และปีกไม้ ซุกซ่อนกลางป่าอ้อยพื้นที่ ม.4 บ้านบ่อนางชิง ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยมี ผกก.สภ.วัฒนานคร ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ ,จนท.บก.ปทส. ,จนท.ขกท.กกล.บูรพา ,จนท. ร้อย คทร.กกล.บูรพา และ ตร.ทางหลวงสระแก้ว ร่วมกันตรวจยึดไม้ประดู่และไม้หวงห้าม ที่ลักลอบตัดแปรรูป รวมของกลางกลางทั้งหมด จำนวน 45 ท่อน ไม้แปรรูป 24 แผ่น และปลีกไม้ 20 แผ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมไม้ดังกล่าว อยู่ในที่ดินของ นายสุบรรณ เซียมกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านบ่อนางชิง ซึ่งมีการนำแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาทั้งผู้ใหญ่และเด็กมาพักไว้ในกระท่อม จำนวน 5 หลัง ริมสระน้ำ รวมประมาณ 20 คน ซึ่งไม่มีเอกสารใด ๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่และไม่ได้มีการแจ้งขออนุญาตการให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าวตามกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจนับและยึดไม้ของกลาง แรงงานทั้งหมดได้หลบเข้าไปซ่อนตัวในป่าใกล้จุดเกิดเหตุด้วย

นายวิทยา วาสนารวยรุ่ง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก.3 (หนองน้ำใส) กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า นายสุบรรณ เซียมกิ่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านบ่อนางชิง ให้การว่าไม้ทั้งหมดตัดในที่ดิน สปก.ถือว่า มีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีนายสมศักดิ์ กุลศิริ อายุ 50 ปี และนางมาเรียม น้อยเจริญ อายุ 49 ปี สองสามีภรรยา ให้การรับสารภาพว่า เป็นไม้ของตนเอง ที่ไปตัดในพื้นที่ สปก.บนเขา ซึ่งเป็นพื้นที่ทำกินของตนเอง เพื่อจะนำมาสร้างบ้าน แล้วได้นำไม้ดังกล่าวมาฝากไว้ในพื้นที่ของผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก.3 หนองน้ำใส เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

สำหรับแรงแรงงานต่างด้าวที่อ้างว่า มารับจ้างในสวนมะม่วงนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจะได้ดำเนินการสอบสวนว่า เข้ามาโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และจะดำเนินคดีข้อหาให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าวด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการสอบสวน โดยนายลา อายุ 35 ปี ชาวกัมพูชา บอกว่า เพิ่งมาอยู่ได้ 2 วัน มาทำงานรับจ้าง มีผู้ใหญ่ 10 คน ไม่รวมเด็ก ซึ่งไม่ทราบเรื่องตัดไม้ ซึ่งวันที่มาพักที่กระท่อมก็พบไม้ซุกซ่อนอยู่แล้ว ไม่ทราบเป็นของใคร

ส่วนนายสุบรรณ เซียมกิ่ง ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 กล่าวเพียงว่า เป็นไม้ของชาวบ้านที่เอามาฝากไว้ ตนได้แจ้งขอตัดไม้ไปทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ตอบหรือว่าอะไร ส่วนไม้อื่น ๆ ที่มีการลักลอบตัดมาซุกซ่อนไว้และแปรรูปแล้วจำนวนมากที่หายไปจากข้อมูลหลักฐานที่ได้รับแจ้งนั้น นายสุบรรณตอบเพียงว่า ไม่ทราบ แต่เมื่อนำหลักฐานมาให้ดูจึงทราบว่า มีไม้หวงห้ามอีกจำนวนมากถูกลำเลียงออกนอกพื้นที่ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาที่อ้างว่า เป็นเจ้าของไม้ของกลางไปตรวจสอบกับไม้ที่ถูกแปรรูปไว้หลังบ้าน กลับเป็นไม้คนละชนิดกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระบุว่า พื้นที่บ้านบ่อนางชิง ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ถือเป็นแหล่งรวบรวมไม้หวงห้ามที่ถูกลักลอบตัดในพื้นที่ป่าและเขาบริเวณโดยรอบพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะไม้พะยูง ก่อนจะถูกลำเลียงไปออกบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งไม้ที่มีการจับกุมทั้งหมดครั้งนี้ ถือเป็นเพียงไม้ส่วนหนึ่ง ซึ่งมีราคาต่ำที่หลงเหลือไว้ ส่วนไม้หวงห้ามที่มีราคาสูงอย่างไม้พะยูงและไม้อื่น ๆ ได้ถูกลำเลียงออกจากพื้นที่ไปก่อนถูกจับกุมแล้ว

——————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"