X

พบสารปนเปื้อนวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 อีกใน จ.ปราจีนบุรี

ปราจีนบุรี – เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารปนเปื้อนวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 อีกในหลายพื้นที่พร้อมตรวจวัดปริมาณรังสี โดยรอบในสิ่งแวดล้อม และการตรวจวัด-ประเมินค่า ซีเซียม-137 ที่ได้รับเข้าสู่ร่างกาย

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยผลการดำเนินการ ระบุว่า 1.กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดตั้งศูนย์ประสานงาน เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ,2. สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจในการเฝ้าระวัง และตอบสนองกรณีวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ในพื้นที่เกิดเหตุ ณ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งการตรวจสอบและการตรวจวัดระดับปริมาณรังสี ในพื้นที่โรงงานหลอมโลหะที่ เกิดเหตุ ได้ข้อสรุปดังนี้ 1.เจ้าหน้าที่ ปส.ได้ตรวจสอบเตาหลอมเหล็กและระบบการจัดการฝุ่นเหล็กมีผลการตรวจสอบดังนี้

1) พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ในเตาหลอมโลหะ จํานวน 1 เตา จากเตาหลอมทั้งหมด 3 เตา ซึ่งผลการตรวจสอบพบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ในระดับต่ำ ระดับรังสี 0.07- 0.10 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ในขณะที่เตาหลอมโลหะ หมายเลข 1 และหมายเลข 2 ไม่พบการปนเปื้อนของวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ,2) ไม่พบการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ในชิ้นส่วนอุปกรณ์ ถ่ายเทน้ำเหล็ก ระดับรังสี 0.03-0.05 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ,3) พบการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ในระบบการดูดฝุ่น (Dust Filter) และระบบกรองฝุ่น (อัตราปริมาณรังสีเท่ากับ 1.2-1.7 ไมโครซีเวิร์ตต่อ ชั่วโมง) และมีฝุ่นจํานวนหนึ่ง ที่อยู่ในระบบกรองฝุ่นโลหะปนเปื้อน ซีเซียม-137 จากการหลอมโลหะ เมื่อวันที่ 18-19 มีนาคม 2566

ซึ่งขณะนี้รอให้ฝุ่นปนเปื้อนดังกล่าวเย็นลง และเตรียมบรรจุลงในถุงขนาดใหญ่ จากนั้นจะนําไปจัดเก็บในอาคารเก็บ ฝุ่นแดงปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 รวมกับ 24 ถึงที่ตรวจสอบพบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ก่อนหน้านี้ ,2. เจ้าหน้าที่ ปส. ได้ทําการตรวจวัดระดับปริมาณรังสี โดยใช้เครื่องสํารวจ และระบุชนิดสารกัมมันตรังสี บริเวณหน้าดินในพื้นที่โรงงาน พบว่า ระดับปริมาณรังสีอยู่ใน ระดับเท่ากับระดับปริมาณรังสีในธรรมชาติ (0.03 – 0.05 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง)

การตรวจวัดปริมาณรังสี โดยรอบในสิ่งแวดล้อม มีการดําเนินการดังนี้ 1. ตรวจวัดระดับปริมาณรังสี โดยใช้เครื่องมือวัดทางรังสีและติดตั้งในรถยนต์ โดย ตรวจวัดระดับปริมาณรังสี ในพื้นที่โรงงานที่เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบพบว่า ระดับ รังสีที่ตรวจวัดได้อยู่ในระดับรังสีในธรรมชาติ ,2. ตรวจวัดระดับปริมาณรังสีโดยใช้เครื่องมือวัดทางรังสีและติดตั้งในรถยนต์ โดยรอบพื้นที่โรงงานที่เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบ พบว่า ระดับรังสีที่ตรวจวัดได้อยู่ในระดับรังสีในธรรมชาติ ,3.ตรวจวัดปริมาณรังสี ในสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่รอบบริเวณโรงงาน ในรัศมีระยะทาง ประมาณ 3 กม. ในพื้นที่ 4 จุดใหญ่ ดังนี้

3.1 พื้นที่บริเวณหมู่บ้านโคกกระท้อน ม.10 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ,3.2 พื้นที่บริเวณหมู่บ้านซ่ง ม.3 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ,3.3 พื้นที่บริเวณบ้านหาดสูง ม.2 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และ 3.4 พื้นที่บริเวณ อบต.หาดนางแก้ว ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

การตรวจวัดและประเมินค่า ซีเซียม-137 ที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายดังนี้ 1. ตรวจวัดปริมาณรังสีพนักงานโรงงานที่เกิดเหตุ โดยพิจารณาจากความเสี่ยงที่ ได้รับด้วยการบันทึกข้อมูลรายละเอียดการได้รับรังสี ,2. ตรวจวัดและประเมินค่าปริมาณรังสีเบื้องต้น ณ บริเวณจุดเกิดเหตุ แบ่งเป็น 2.1 การตรวจสอบการเปรอะเปื้อนจากภายนอกร่างกาย 2.2 การตรวจวัดรังสีแกมมาด้วยเครื่องวัดรังสีที่อวัยวะแบบเคลื่อนย้ายได้ ,3. เก็บตัวอย่างจากปัสสาวะของกลุ่มเสี่ยงตามแนวทางการเก็บโดยกําหนดเวลา 24 ชม. แล้วนํามาตรวจวัดที่ห้องปฏิบัติการ ปส. ด้วยเครื่องวัดรังสีแกมมา ,4. การติดตามผลกระทบที่เกิดจากการได้รับสารรังสีเป็นระยะ

—————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"