สระแก้ว “วีระ สมความคิด”แจ้งความดำเนินคดีกับ ผบ.กกล.บูรพา และพวกกีดกันชาวบ้านไม่ให้เข้าไปทำบุญในที่ดินชายแดน

สระแก้ว –  ประธานเครือข่ายประชาชนค้านคอร์รัปชั่น (คปต.) “วีระ สมความคิด” เดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.คลองลึก ให้ดำเนินคดีกับ ผบ.กกล.บูรพา และพวก กีดกันชาวบ้านไม่ให้เข้าไปทำบุญในที่ดินชายแดน จ.สระแก้ว กระทำผิดคดีอาญา มาตรา 157 

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนค้านคอร์รัปชั่น (คปต.) เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุนทร จันทร์คล้าย รอง สว.(สอบสวน) พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญา ตาม ป.อาญา มาตรา 157 กับ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพากับพวก กรณีใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบปิดกั้นถนนศรีเพ็ญ ไม่ให้ชาวบ้านนำพระสงฆ์เข้าไปทำพิธีทางศาสนาในที่ดินทำกินของตนเอง เนื่องจากทหารต้องการที่ดินบริเวณนั้นเอาไว้ใช้หาผลประโยชน์โดยมิชอบ เป็นช่องทางขนสินค้าหนีภาษี สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ขนคนผ่านแดนโดยไม่ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งสร้างรายได้อย่างมหาศาลในแต่ละเดือน

ทั้งนี้ นายวีระ ระบุว่า ผบ.กองกำลังบูรพากับพวก กรณีใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบปิดกั้นถนนศรีเพ็ญ ไม่ให้ชาวบ้านนำพระสงฆ์เข้าไปทำพิธีทางศาสนา(วันพระ) ในที่ดินทำกินของตนเอง โดยทหารอ้างว่า เป็นพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก จึงสามารถใช้ พ.ร.บ.รักษาความปลอดภัยฯ สั่งห้ามชาวบ้านสัญจรได้ แต่กรณี ตชด.เขมร 9 นาย บุกรุกเข้ามาในเขตแดนไทยแล้วใช้อาวุธสงครามไล่ยิงคนไทย มีการใช้กระสุนลูกปรายยิงเข้ามาตกในเขตแดนไทย ในบริเวณห้องเย็นของ เจ๊ไก่ แต่ทหารสั่งให้ปิดข่าว กรณี ตชด.เขมร นำอาวุธสงครามบุกรุกเข้ามาไล่ยิงคนไทย กรณีกองกำลังเขมรยิงกระสุนลูกปรายเข้ามาในเขตไทย กองกำลังบูรพาไม่เห็นกล้าใช้กฎอัยการศึก เข้าจัดการกับผู้รุกราน แต่กลับมาอ้างใช้ พ.ร.บ.รักษาความปลอดภัยกับคนไทยด้วยกัน

“มีการอ้างกับชาวบ้านว่า ฝ่ายเขมรยื่นคำขาด หากทางการไทยยังปล่อยให้ชาวบ้านคนไทยเข้าไปทำกินในที่ดินของตนเอง ตชด.เขมร ก็จะบุกเข้ามาขับไล่อีก หากทหารจากกองกำลังบูรพากล่าวกับชาวบ้านเช่นนั้นจริง ๆ ก็แสดงว่า กองกำลังบูรพาเกรงกลัวหรือเกรงใจกองกำลังของเขมรมากกว่า ที่จะเห็นแก่ความเดือดร้อนเสียหายของคนไทยด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่นี่มันเป็นแผ่นดินไทย ดังนั้น เจ้าหน้าที่รัฐไทยทุกหน่วยงานต้องใช้อำนาจอธิปไตยและกฎหมายของไทยเข้าไปจัดการ ไม่ใช่ไปยอมตามคำขู่ของกองกำลังต่างชาติ” ประธานเครือข่ายประชาชนค้านคอร์รัปชั่น (คปต.) กล่าวและว่า

ชาวบ้านแอบให้ข้อมูลว่า ความจริงแล้วชาวบ้านเชื่อว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด สืบเนื่องมาจาก มีขบวนการต้องการให้ที่ดินบริเวณนั้น โดยเฉพาะที่ดินของ นางกันจณา สามล และของ นายชุมพล วัฒนพรรค เป็นพื้นที่ที่จะเอาไว้ใช้หาผลประโยชน์โดยมิชอบ เนื่องจากที่ผ่านมา บริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดโรงเกลือมาก ห่างประมาณหนึ่งกิโลเมตรเท่านั้น หลังเวลา 18.00 น. จึงเป็นจุดที่สะดวกและเหมาะสมที่สุด ในการใช้เป็นช่องทางขนสินค้าหนีภาษี สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และใช้ขนคนผ่านแดนโดยไม่ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ในแต่ละเดือนบริเวณดังกล่าวนี้ สร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับขบวนการดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแจ้งความเสร็จ นายวีระฯ พร้อมด้วยชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเอกสารสิทธิ์ในจอง นส.2 ในพื้นที่ดังกล่าวประมาณเกือบ 20 คน ซึ่งรวมตัวกันบริเวณ บขส.ตลาดอินโดจีน ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวนเวร สภ.คลองลึก ไปนำชี้ที่เกิดเหตุที่ถนนศรีเพ็ญ หน้าที่ดินของ นายสารี มาลาหอม ซึ่งเมื่อไปถึงบริเวณใกล้กับจุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ทหารพราน ทพ.13 จำนวนประมาณ 10 นาย ได้นำแท่งแบริเออร์และกรวยยางมาวางปิดกั้นถนนและยืนเรียงแถวหน้ากระดาน ห้ามไม่ให้ชาวบ้านเดินทางเข้าไปชี้จุด ต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาก่อน โดยมีนายจักรพงษ์ พันธุ์โชติ นายอำเภออรัญประเทศ ลงพื้นที่ด้วย ซึ่งนายวีระและชาวบ้านได้รออยู่บริเวณริมถนนประมาณ 2 ชม.กระทั่งเวลา 12.30 น.จึงยินยอมให้ ตำรวจ ,นายวีระฯ และชาวบ้านที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เข้าไปนำชี้จุดเกิดเหตุตามที่นายวีระฯ แจ้งความ ภายนายวีระฯ ยืนยันว่า หากไม่สามารถเข้าไปได้ จะกลับไปแจ้งความเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ปิดกั้น ฐานขัดขวางเจ้าพนักงานตำรวจและชาวบ้านผู้ร้องฯ พนักงานสอบสวนและผู้ร้องจึงเข้าไปนำชี้จุดต่าง ๆ จนเสร็จสิ้นในช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.และกลับไปให้ปากคำพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.คลองลึก

นางกันจณา สมมล เจ้าของที่ดินเอกสารสิทธิ์ใบจอง นส.2 ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ ม.8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กล่าวว่า รู้สึกกังวลใจ เนื่องจากวันที่ 10 ก.พ.66 เจ้าหน้าที่ที่ดินอรัญประเทศ จะลงพื้นที่รังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว หลังจากคณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณาแล้วว่า เอกสารและที่ดินของตนเองถูกต้อง ซึ่งที่ดินประสานมาแล้วว่าจะลงมาวัดให้ แต่ติดปัญหาตรงที่ทหารไม่ให้ชาวบ้านเข้าพื้นที่ ซึ่งวันนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากวันทำบุญวันตรุษจีน จึงทำบุญกลางถนน ซึ่งกังวลว่า วันที่ 10 ก.พ.นี้ จะมีปัญหากีดกันไม่ให้เข้าพื้นที่อีก จะให้ชาวบ้านทำอย่างไร จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีอำนาจเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา ไม่ใช้ห้ามไม่ให้ชาวบ้านเข้าพื้นที่ เพราะเราต้องการเข้าทำกินเพื่อออกรังวัดเพื่อจะได้คลี่คลายปัญหา ถ้าไม่ให้รังวัดก็จะเป็นปัญหาแบบนี้อีก ซึ่งเราต้องการพิสูจน์ว่าเป็นของเรา จะได้คลายปัญหาลงบ้าง ซึ่งตอนนี้มี 5-6 ราย ที่มีใบของ นส.2 ที่ผ่านการพิสูจน์สิทธิ์แล้ว เจ้าหน้าที่จึงให้ยื่นรังวัด แต่ทหารให้เหตุผลอ้างความมั่นคง เท่านั้น

ทางด้าน นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนค้านคอร์รัปชั่น (คปต.) กล่าวว่า ทหารไม่ต้องการให้ชาวบ้านอยู่ในบริเวณนี้ เพราะถ้าชาวบ้านอยู่กลุ่มที่ขนของเถื่อนก็ทำไม่ได้ ชาวบ้านก็ต้องเห็นว่าใครเข้ามาในที่ดินตอนกลางคืน ถ้าได้โฉนดก็ต้องมาปลูกบ้านอยู่ได้ แต่ขบวนการนี้พยายามที่จะขัดขวางทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ชาวบ้านได้โฉนดที่ดิน ซึ่งปัญหาที่แท้จริงชาวบ้านเขาเชื่ออย่างนั้น ตรงนี้จึงมีที่มาเริ่มจากขบวนการทุจริต ทำให้เกิดความเดือดร้อนไปยังชาวบ้านที่จะเข้าทำกินจึงเข้าไปไม่ได้ แล้วทำไมทหารไม่ช่วยชาวบ้าน ไม่ช่วยคนไทย ทำไมทหารจึงต้องไปช่วยเขมร ให้รุกเข้ามา ชาวบ้านก็เชื่ออย่างนั้นว่า เป็นการเอื้อประโยชน์โดยมิชอบให้กับเขมร เอื้อประโยชน์โดยมิชอบให้กับขบวนการขนของเถื่อน เพื่อมีหลักฐานแล้วว่า ทหารก็เก็บส่วยจริง ถูกดำเนินการลงโทษวินัยแล้ว ทหารก็เถียงไม่ได้

“ปัญหานี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ก็แก้ไม่ได้ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพาก็แก้ไม่ได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็แก้ไม่ได้ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแก้ไม่ได้ ดังนั้น ก็ต้องไปที่นายกรัฐมนตรีคนเดียว ถ้าปัญหามันใหญ่ขนาดนี้ ทุกคนต่างปฏิเสธความรับผิดชอบและไม่ยอมแก้ปัญหาอย่างจริงใจ ก็ต้องไปถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ก็อยู่เฉยไม่ได้แล้วนะถ้าปัญหาอย่างนี้ทหารอ้างว่า ยังแก้ไม่ได้ ” นายวีระ กล่าว

——————————–