ชาวบ้านผวาเห็นดวงไฟสีส้มปนเขียว เชื่อเป็นกระสือ

ปราจีนบุรี – ชาวบ้านพื้นที่ อ.เมืองปราจีนบุรี ผวาเจอกระสือ ลูกสะใภ้ผู้ใหญ่บ้านเจอดีเห็นจะจะ แห่ตามไปดูเจอตามรังควาญ ระบุเห็นดวงไฟสีส้มปนเขียวในพื้นที่กันจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังชาวบ้านท่างาม ม.4 ต.ท่างาม อ.เมืองปราจีนบุรี ต่างโจษขานต่าง ๆนานาว่า พบเห็นกระสือจากปากต่อปากว่า มีคนเห็นทั้งหมู่บ้าน ข้างที่ทำการ อบต.ท่างาม พบเห็นดวงไฟล่องลอย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามกรณีนี้ที่หมู่บ้านดังกล่าว โดยจากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้า เล่าว่า ได้ยินคนในหมู่บ้านพูดกันจากยายชะอ้อน กรกุลศรี อายุ 86 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ม.4 ต.ท่างาม จึงเดินทางไปตามหายายชะอ้อนที่บ้าน

ยายชะอ้อน เล่าว่า เมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา ตอนตีสามตีสี่ขณะตื่นนอนเดินไปเปิดหน้าต่าง ก็ตกใจเมื่อพบเห็นดวงไฟสีส้มปนเขียวขนาดใหญ่ลอยอยู่ด้านหน้า แล้วค่อยๆ ลอยหนีไป จึงกลับมานั่งอยู่ในห้อง ใจคิดถึงกระสือที่มีคนเคยเห็นบอกต่อกันมา โดยตนเห็นกับตายังรู้สึกหวาดกลัว พูดถึงทีไรขนลุกทั้งตัว ดวงไฟนี้คล้ายกับมีหัวและไส้ลอยได้ รุ่งเช้าจึงเล่าให้ลูกหลานฟัง

นายเสนาะ บัวทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/2 ม.4 กล่าวว่า ตนเองก็เคยพบเห็นดวงไฟขนาดใหญ่สีส้มปนเขียวลอยอยู่นอกบ้านข้างราวตากผ้า แล้วก็หายไป รุ่งเช้ามายังพบเห็นร่องรอยกระสือเอาผ้าถุงเช็ดปากเป็นรูปปากและรอยคราบอะไรบางอย่าง แห้งติดอยู่ให้เห็น ตนบอกให้เอาผ้าถุงต้มใส่น้ำร้อนเดือด ๆ ล้างออก

ส่วน นายวีระ ไชยโอส อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ม.4 กล่าวว่า ตนเองก็เคยเห็นดวงไฟประหลาดนี้เหมือนกันคงไม่ใช่เกิดจากคนแน่ ๆ ในละแวกนี้มีคนเล่นของอยู่เหมือนกัน คงลองของลองวิชาที่เรียนมา เช่น อาจปลูกว่านโพลงไว้ แต่ไม่ได้ขุดออก เมื่อต้นแห้งตายยังเหลือเหง้าหัวอยู่ในดิน จึงเกิดเรื่องลี้ลับนี้ขึ้น วิชาอาคมอาจเข้าตัว คนในหมู่บ้านนี้พบเห็นหลายสิบคนแล้ว แต่กระสือตัวนี้ไม่ทำร้ายใคร

นายวีระ กล่าวต่อว่า เมื่อ 2 คืนที่ผ่านมา ลูกสะใภ้ผู้ใหญ่บ้านเห็นดวงไฟประหลาดจึงชวนสามีขับรถตามไปกับเพื่อน ผู้สื่อข่าวจึงตามหา น.ส.เบญจวรรณ พรมสติ อายุ 21 ปี อยู่ที่ 15 ม.4 น.ส.เบญจวรรณ กล่าวว่า ตนนั่งเย็บกระเป๋าอยู่ในบ้านมองออกมานอกบ้าน ตีสามแล้วเห็นดวงไฟดวงใหญ่ลอยอยู่ข้างบ้าน ติดถนน นึกถึงคนที่พูดกันจึงชวนสามีและเพื่อนขับรถตามไปกลางทุ่งนา ซึ่งไม่ได้เปิดไฟรถขับไปค่อย ๆ ตามทางแสงไฟนั้นหายไป กลัวก็กลัวแต่บอกว่า มากัน 4 คนจะกลัวทำไม ผ่านไปครึ่งชั่วโมงไม่มีอะไร บอกให้สามีขับรถกลับ แต่สายตายังคงจ้องมองหาดวงไฟสีส้มนั้นอยู่

น.ส.เบญจวรรณ กล่าวว่า ขณะกำลังกลับรถทันใดนั้น เห็นแสงไฟผุดขึ้นติดกับพื้นดินข้างพุ่มไม้ แล้วหายไปสร้างความงุนงงอย่างมาก ทันใดนั้นเหมือนมีแสงสว่างอะไรลอยอยู่ด้านบนหัว ห่างกันแค่ไม่กี่คืบคล้ายมีหัวคนกับพวงไส้ลอยอยู่ จึงร้องให้สามีกับเพื่อนหยิบมือมือมาถ่ายรูป แต่ไม่ทันแล้ว ก็หายไปข้างป่าข้างบ้านร้าง ขณะขับรถกลับเห็นดวงไฟใหญ่ลอยอยู่ด้านหน้ากล้องหน้ารถบันทึกภาพไว้ได้แต่ไม่สามารถเปิดดูได้ มีแต่คล้ายควันสีขาวเต็มไปหมด

“ต่อมาก็ฝันเห็นใบหน้าผู้หญิงไม่แก่นัก ผมหยิกคลุมใบหน้ามาลอยอยู่ข้างบ้าน ต่อมาแม่โทรมาหา บอกว่า ฝันเห็นคนกลางคนเห็นแค่ใบหน้ากับไส้มาบอกว่า ลูกมึงกำลังมายุ่งกับเรื่องของกูเดี๋ยวจะเจอดี ตนยังคิดถึงใบหน้าที่เคยเห็นตรงกับที่แม่บอกเลย ทุกวันนี้ก็ยังเห็นดวงไฟดวงใหญ่ดวงนั้นลอยไปมาอยู่ข้าง ๆ บ้านสร้างอยู่เลย บางคืนเห็นลอยมาอยู่เหนือหลังคาบ้าน ซึ่งในความเชื่อตนเชื่อว่า เป็นกระสือแน่นอนไม่ใช่คน

นางจิตรา ปล้องทอง บอกว่า เคยเห็นดวงไฟใหญ่ๆนี้หลายครั้งเหมือนกัน เห็นลอยไปมาได้ ดวงใหญ่มาก เช่นเดียวกับ เจ๊แมว แม่ค้าขายกาแฟ กล่าวว่า สามีเคยเห็นเหมือนกัน ขณะที่ออกมายืนปัสสาวะข้างบ้าน เรียกให้ตนออกมาดู ตนเองไม่ออกไปเพราะกลัว จึงสามีร้องบอกให้หยิบฉมวกมา เพื่อจะแทง ดวงไฟนั้นก็ลอยหนีไปทันที

—————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์