X

ชาวบ้านเรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหาเขมรเข้ามาอ้างสิทธิ์ในแผ่นดินไทย ทำลายเพิงพัก-พังรั้วชาวบ้านป่าไร่ 4 จุด จ.สระแก้ว

สระแก้ว – ชาวบ้านป่าไร่ใหม่ ม.8 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหา ตชด.กัมพูชา เข้ามาอ้างสิทธิ์ในแผ่นดินไทย ทำลายเพิงพัก-พังรั้วชาวบ้านป่าไร่ 4 จุด ริมถนนศรีเพ็ญ ระบุถูกกีดกันจากเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าทำกินในที่ดินเอกสารสิทธิ์ของตนเองในฐานะชาวบ้านน้อยป่าไร่ในอดีต เรียกร้องให้ดำเนินการปักปันเขตแดนเพื่อแก้ปัญหา

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ม.8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เอกสารสิทธิ์ นส.2 ริมถนนศรีเพ็ญฝั่งตะวันออก ห่างจากแนวเส้น MOU ชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 300-500 เมตร ซึ่งถูกกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายเข้าไปทำลายเพิงพักอย่างน้อย 4 จุด ตัดฟันต้นกล้วย อ้อย และพังรั้วลวดหนามที่ชาวบ้านทำขึ้นเป็นแนวยาวประมาณ 100 เมตร ได้รับความเสียหายทั้่งหมด โดยชาวบ้านเชื่อว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ ตชด.กัมพูชา เนื่องจากก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วัน ตชด.ประเทศเพื่อนบ้าน ได้เข้ามาอ้างสิทธิ์ว่า แนวชายแดนกัมพูชาอยู่ถึงถนนศรีเพ็ญ พร้อมกับห้ามไม่ให้ชาวบ้านคนไทยเข้าไปทำกินในพื้นที่ทับซ้อนที่ทั้่งสองประเทศอ้างสิทธิ์ พร้อมกับข่มขู่ว่า จะเข้ามาพังทำลาย ซึ่งชาวบ้านพบหลักฐานรอยเท้าและเส้นทางการเดินเข้า-ออกมาจากฝั่งประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นพื้นที่ราบ สามารถเดินเท้าเข้ามาได้อย่างง่ายดาย จึงไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.คลองลึก และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าว

โดยช่วงสายของวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ซึ่งดูแลพื้นที่ดังกล่าว ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อพูดคุยกับชาวบ้านและรับปากจะช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้าน เพื่อไม่ให้เขมรเข้ามารื้อเพิงพักฝั่งไทยอีก ซึ่งจากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่เป็นเพิงพักของชาวบ้านและรั้วลวดหนาม และสวนกล้วยริมชายแดน จ.สระแก้ว ดังกล่าว พบว่า ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง มีการใช้เลื่อยตัดโครงสร้างเพิงพักจนเสียหาย ซึ่งคาดว่า จะเป็นฝีมือของกลุ่ม ตชด.กัมพูชา เนื่องจากเคยข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะเข้ามารื้อ ขณะที่ชาวบ้านยืนยันว่า จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่อยู่ในฝั่งประเทศไทย โดยที่ผ่านมาชาวบ้านบอกว่า เจ้าหน้าที่ไม่ดูแลหรือช่วยชาวบ้านนัก

นายมนูญ สอนเจริญ อายุ 48 ปี ที่อยู่ 312 ม.8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าของเอกสารสิทธิ์ใบจอง นส.2 ที่ออกเมื่อปี 2504 ก่อนประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในปี 2507 และเป็นเจ้าของเพิงพักที่ถูกทำลายดังกล่าว บอกว่า ตอนเย็นเข้ามาถากถางพื้นที่ปกติ แต่ตอนเช้ามากระท่อมที่สร้างไว้ยุบพังลงมา นึกว่าลมพัดล้ม เมื่อตรวจสอบพบมีคนมาทำลายเลื่อยเสาและไม้โครงสร้างจนยุบลงมา ซึ่งปัญหานี้ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน ทาง ตชด.กัมพูชา บอกจะเข้ามารื้อของเรา แต่เราบอกว่าห้ามรื้อ เค้าก็รับปาก แต่เช้ามากลายเป็นสภาพอย่างนี้ ซึ่งกระท่อม 4 หลังใน 4 แปลง ถูกทำลายทิ้งทั้งหมด ปัญหาขณะนี้คือเมื่อเราเข้ามาทำกิน ก็ประสบปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ทางเจ้าหน้าที่ไทยก็ไม่ให้เราเข้ามา ทาง ตชด.กัมพูชา ก็ไม่ให้เราเข้ามา แต่การที่เราจะรักษาสิทธิ์เรา เราต้องเข้ามาทำกิน เข้ามาครอบครองพื้นที่ เพื่อเราจะได้เอกสารสิทธิ์ ซึ่งเราได้ติดต่อกรมที่ดิน อ.อรัญประเทศ ว่าเราจะขอออกโฉนด ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า สามารถทำได้ แต่ต้องทำกินเกิน 70% เราจึงเข้ามาใช้สิทธิ์ของเรา แต่ปัญหาคือ เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ต่างฝ่ายต่างไม่ให้เข้ามาทำกิน ซึ่งชาวบ้านต้องการเรียกร้องให้มีการแบ่งเขตแดนถาวร หรือปักปันเขตแดนให้แล้วเสร็จ เพื่อเราจะได้เข้ามารักษาสิทธิ์ของเราให้เต็มที่

นางสมบูรณ์ สอนเจริญ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าของที่ดินเอกสารสิทธิ์อีกราย บอกว่า อยากให้เจ้าหน้าที่มาดูแลพวกเรา เพราะพวกเราไม่ค่อยได้รับความยุติธรรมซักเท่าไหร่ เราถือว่า เรามีเอกสารสิทธิ์จึงได้เข้ามาทำกิน เหตุการณ์ที่ชาวบ้านถูกกระทำ ชาวบ้านต้องการความยุติธรรม เพราะว่า เราลงพื้นที่ไม่ค่อยได้ อ้างว่าพื้นที่ยังทับซ้อน ทางกัมพูชาก็ว่า เป็นของกัมพูชามาถึงถนนศรีเพ็ญ แต่สิทธิ์ของเราเลยบ้านน้อยป่าไร่เดิม ซึ่งเราถากถางไปจนเกือบจะถึงจุดนั้นแล้ว แต่กัมพูชาก็มาขัดขวางอยู่ตลอด ส่วนเจ้าหน้าที่ไทยก็ไม่เห็นจะช่วยอะไร

“ทุกวันนี้ ชาวกัมพูชาเข้ามาทำกินอย่างสะดวกในพื้นที่ทับซ้อน ส่วนบ้านน้อยป่าไร่ ที่เคยอยู่อาศัยในอดีตก็ต้องลักลอบเข้าไปดูพื้นที่ มีหลักฐานทุกอย่าง ซึ่งตรงนั้นเป็นแผ่นดินไทย 100% ไม่มีใครอยู่ เพราะเราถูกอพยพออกมาช่วงสงครามเขมรแดง ซึ่งตรงบ้านน้อยป่าไร่ ยังไม่มีเขมรเข้ามา แต่บ้านหนองดอ และบ้านกกค้อ ชาวบ้านเขมรเข้ามาบุกรุกทำกินจนหมดแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนเป็นหมู่บ้านคนไทยเมื่อ 40 ปีก่อน ซึ่งมีคนตาย 32 ศพ จากเหตุยิงถล่มในหมู่บ้านช่วงสงครามเขมรแดง จึงต้องการให้หน่วยงานของรัฐมาช่วยเหลือพวกเรา ว่าเรามีปัญหาแบบนี้ ที่ของเราทำไมเราลงไม่ได้ เราก็อยากให้มาดูแลพวกเรามั้ง วันไหนเราเข้ามา ทหารเค้าก็ไม่ให้เราเข้ามา เราก็สงสัยว่า มันเป็นอะไรที่ของเราแท้ ๆ มีใบ นส.2 มีใบตราจอง ทำไมเราเข้ามาพื้นที่ไม่ได้ เราก็สงสัย เค้าควรจะคุ้มครองเรา ไม่ใช่ไปคุ้มครองเขมร เวลาเขมรมาไล่เราไล่ได้ แต่พวกชาวบ้านเขมรกลับให้มาไล่เราในแผ่นดินไทย พูดตรง ๆ” นางสมบูรณ์ กล่าว

ส่วนผู้เสียหายชาย เจ้าของที่ดินอีกราย บอกว่า พื้นที่ของตนเองอยู่ในพื้นที่เลยเส้น MOU ซึ่งชาวกัมพูชาเข้ามาถากถางปลูกไม้ยูคาฯ ซึ่งตนมีเอกสารสิทธิ์ นส.2 ตั้งแต่ปี 2506 ซึ่งเคยเข้าไปดูพื้นที่ก็ถูกชาวบ้านกัมพูชาลุกล้ำมาส่วนหนึ่ง ไม่ทราบว่า เจ้าหน้าที่ไทยเข้าไปขับไล่ชาวกัมพูชาหรือไม่ ซึ่งชาวบ้านไม่เคยเข้าไปกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งแค่นี้เจ้าหน้าที่ก็ขัดขวางชาวบ้านแล้ว ไม่ให้เข้ามาทำกินในที่ดินของคนไทย ตอนนี้ชาวบ้านต้องการเข้ามาทำกินในที่ดินของตนเอง เพื่อไม่อยากให้ประเทศเพื่อนบ้านบุกรุกเข้ามาอีก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่มาดูแลตรงนี้ว่า ให้เรามาทำอยู่กับพื้นที่ของเรา เพื่อที่จะกันไม่ให้เขมรบุกรุกเพิ่มเข้ามาอีก และพวกเราได้เข้ามาทำกินในที่ดินของตนเอง แต่ทุกวันนี้เราไม่ได้มีโอกาสเลยจากเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงของไทยไม่ให้เราเข้าไป หลังเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่แค่มาดูแล้วก็กลับไป ไม่เห็นทำอะไร

ทางด้าน นายสุพจน์ เขียนโพธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พื้นที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านที่มีเอกสารเป็นใบจอง นส.2 ที่บริเวณตรงนี้ได้ทำเรื่องถึงป่าไม้เพื่อขอพิสูจน์สิทธิ์ ซึ่งป่าไม้ได้มอบหมายให้ตนเองเป็นผู้คัดกรองเอกสารว่า ถูกต้องหรือไม่ หลังจากนั้นป่าไม้ได้ทำหนังสือเอกสารให้ชาวบ้านได้เข้ามาครอบครองเพื่อถากถางทำกินจริงให้ถึง 70% ต้องมีร่องรอยการทำกินจริง ทางที่ดินจึงจะออกเอกสารสิทธิ์ให้ ซึ่งตอนนี้มีชาวบ้านที่ยื่นเอกสารมามีประมาณ 6-7 ราย บริเวณนี้ประมาณ 500 กว่าไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่หน้าถนนศรีเพ็ญ ติดฝั่งกัมพูชาซึ่งเกิดปัญหาในการเข้ามาถากถางและเข้ามาครอบครอง ซึ่งทางกัมพูชาก็เข้ามาอ้างสิทธิ์ ส่วนฝ่ายความมั่นคงของไทยก็ไม่ให้ชาวบ้านลงมา จนเป็นปัญหาเข้ามาทำกินไม่ได้ ซึ่งเมื่อวันก่อนชาวบ้านได้สร้างกระท่อมเพิงพักไว้ ก็มีคนมาพังทำลาย กลายเป็นปัญหาว่า ชาวบ้านลำบากที่จะเข้ามาครอบครองหรือถากถางตรงนี้

ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ้านป่าไร่ใหม่ กล่าวอีกว่า ในฐานะผู้ดูแลพื้นที่ในด้านปกครอง ได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาโดยนำชาวบ้านเข้าไปยื่นเอกสารต่อส่วนต่าง ๆ ไปยังนายอำเภอ แต่ปัญหาตรงนี้ อยากให้หน่วยงานรัฐ ทหาร ด้านความมั่นคง หรือรัฐบาลได้ลงมาแก้ไข ซึ่งตรงนี้เขมรอ้างว่า ที่ดินเขาอยู่ถึงถนนศรีเพ็ญ ซึ่งจริง ๆ ตนคิดว่าไม่ใช่ เพราะร่องรอยอดีตเรามีบ้านน้อยป่าไร่เป็นหลักฐานและตอนนี้ก็อยู่ในพื้นที่บริเวณตรงนี้ ก่อนบ้านแตกปี 2520 พี่น้องเรามาอยู่ตรงนี้มีหลักฐานทำกินและมีใบจอง นส.2 ก็อพยพไปอยู่ด้านหลังถนนศรีเพ็ญตามที่ส่วนราชการจัดให้ ผมถึงอยากจะนำเรียนช่วยบอกทางส่วนกลางหรือรัฐบาล ให้ลงมาดูแลพี่น้องหน่อย เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นของประเทศไทย และที่สำคัญเมื่อส่วนงานราชการตรงนี้แก้ไขไม่ได้ ก็อยากฝากรัฐบาลให้มาแบ่งปันเขตแดนให้ชัดเจน ระหว่างไทยกัมพูชาให้ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยให้มาอ้างสิทธิ์ว่าถึงถนนแบบนี้ ตนก็เสียความรู้สึกและเสียใจ เพราะผมก็เกิดอยู่ตรงนี้ และเห็นพื้นที่ตรงนี้ว่า เป็นของคนไทยจริง กรณีที่ชาวบ้านถูกกระทำฯ ขอฝากทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบบริเวณตรงนี้ (ทหารพราน) อยากจะให้ท่านมาช่วยปกป้องสมบัติของประชาชน มาดูแลประชาชนด้วย เพราะตรงนี้มันเป็นของแผ่นดินไทยจริง ๆ และมีเอกสารตามที่ทางรัฐออกให้เป็นใบจริง นส.2 ตั้งแต่ก่อนปี 2507 ซึ่งมีการประกาศพื้นที่ป่าทับพื้นที่ของชาวบ้าน จึงอยากฝากให้พื้นที่ตรงนี้เป็นของไทยอย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดกรณีดังกล่าว นายชนาธิป โคกมณี นายอำเภออรัญประเทศ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าติดตามและรายงานปัญหาดังกล่าว โดยที่ผ่านมาได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อให้มีการพิสูจน์สิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าวอย่างชัดเจน และดำเนินการตามแนวทางอย่างถูกต้อง ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พื้นที่ดังกล่าวซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณจุดที่มีการก่อสร้างด่านศุลกากรแห่งใหม่ และในอนาคตจะมีการเปิดด่านผ่านแดนถาวรเพิ่มเติมอีก 1 จุด จึงเป็นที่ต้องการของกลุ่มทุนต่าง ๆ รวมทั้งบริเวณแนวป่าดังกล่าว เป็นพื้นที่สำหรับนำสินค้าเข้า-ออกของกลุ่มธุรกิจสีเทา ทำให้ชาวบ้านที่เข้าไปทำกินและใช้สิทธิ์ดังกล่าว ถูกกีดกันไม่ให้เข้าพื้นที่ตลอดมาด้วย

—————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"