สระแก้ว – ผู้เดือดร้อนปัญหาที่ดินในพื้นที่ จ.สระแก้ว เกือบ 400 คน บุกศาลากลางจังหวัด แก้ผ้าโชว์ พร้อมยื่น 6 ข้อเรียกร้อง ขู่เอาจริง หากภายใน 30 วัน ไม่ดำเนินการแก้ไข จะเข้ากรุงเทพฯไปยื่นฏีกาที่หน้าสำนักพระราชวัง
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 15 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาที่ดินทำกินและปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับที่ดินในพื้นที่ อ.ตาพระยา อ.โคกสูง อ.วัฒนานคร อ.เขาฉกรรจ์ อ.คลองหาด อ.วังน้ำเย็น อ.อรัญประเทศ และอำเภอวังสมบูรณ์ จำนวนเกือบ 400 คน โดยมีแกนนำ อาทิ นายยุทธพัฒน์ เพชรประเสริฐ แกนนำผู้เดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินในพื้นที่ อ.ตาพระยา ,นายอัมรินทร์ ยี่เฮง ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน จ.สระแก้ว และแกนนำกลุ่มผู้เดือดร้อนในแต่ละอำเภอเกือบ 10 คน พร้อมกับ ประชาชนผู้ยากไร้ไม่มีที่ดินทำกินในพื้นที่ต่าง ๆ ได้เดินทางมาชุมนุมชูป้ายประท้วงและปราศรัยเรียกร้องให้ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปแก้ปัญหาโดยเฉพาะสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก. ที่จัดสรรที่ดินทำกินภายหลังพื้นที่ป่าหมดสัมปทานอย่างไม่เป็นธรรม มีการใช้นอมินีและบุคคลนอกพื้นที่ มาสวมสิทธิ์แทนผู้ยากไร้และเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกิน จึงต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะทำงานมาแก้ปัญญาต่าง ๆ เหล่านี้อย่างเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการปราศรัย ได้พูดถึงการทำงานของข้าราชการและนักการเมืองจนส่งผลให้ชาวบ้านต้องได้รับความเดือดร้อนนั้น นายอัมรินทร์ ยี่เฮง ได้ถอดเสื้อและกางเกงออกขณะถือไมค์พูด เหลือเพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว โดยบอกว่าตนเองมาแต่ตัวจะกลัวอะไร ทางด้าน พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบ 10 นาย ต้องเข้าไปห้ามปรามกึ่งบังคับและสั่งให้ใส่เสื้อผ้าเช่นเดิม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ราชการ กระทั่ง มีการปราศรัยกันต่อเนื่องอีกหลายคน ไปจนถึงช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.โดยนายยุทธพัฒน์ฯ พูดถึงปัญหาการนำที่ดินของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์และบ้านพระราชทานในโครงการทับทิมสยาม 03 ไปขายต่อให้บุคคลอื่น ของผู้นำหมู่บ้านซึ่งได้ร้องเรียนไปแล้วก่อนหน้านี้ หากไม่มีการปลดผู้ใหญ่บ้านภายใน 30 วัน จะเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องที่สำนักพระราชวังด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการชุมนุมฯ นายยุทธพัฒน์ ได้เป็นผู้อ่านแถลงการณ์และข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม จำนวน 6 ข้อ ประกอบด้วย ข้อ 1.ให้ สปก.ถอดถอนชื่อบุคคลต่างถิ่นที่เรียกว่าชื่อผี ที่อยู่ในภูมิภาคอื่น ผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกรชาวสระแก้วให้ออกจากสารบบข้อมูลจังหวัดสระแก้ว เมื่อถอดถอนชื่อสกุลบรรดาผีเหล่านั้นออกแล้ว ให้ สปก.ปิดประกาศไปยังอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ประชาชนหรือเกษตรกรได้แถลงการณ์นี้สิ้นสุด ,2.ให้ สปก.ตรวจสอบรายชื่อกลุ่มบุคคล นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง หรือกลุ่มบุคคลผู้มีอิทธิพลภายใน จ.สระแก้ว ที่ครอบครองที่ดิน สปก.ว่า ครอบครองเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่ และหากมีการพบว่า บุคคลดังกล่าวครอบครองที่ดินแบบผิดกฎหมาย ให้ สปก.เปิดเผยรายชื่อ สกุล ผู้ครอบครองที่ดินผิดกฎหมายเหล่านั้น และนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายทันที หากพบมีความผิดจริงอย่าปกปิด ถ้าประชาชนชาวสระแก้ว ตรวจสอบแล้วรู้ว่า สปก.ปกปิดซ่อนเร้นผู้ครอบครองที่ดินแบบผิดกฎหมาย จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี สปก.ทันที
3.ให้ สปก.ดำเนินการตามภาพแปลงที่ดินเขตปฏิรูป จ.สระแก้ว อย่างเป็นรูปธรรม ภายใน 30 วัน โดยให้มีการจัดตั้ง ราษฏร เกษตรกร ไม่ต่ำกว่า 3 คน เข้าร่วมตรวจวัดที่ดินเขตปฏิรูป เพื่อให้เกิดความโปร่งในพื้นที่นั้น ๆ, 4.ให้ ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ ตั้งกรรมการสอบสวนการทำคดีของพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีที่รับแจ้งความร้องทุกข์จากคนของนายทุน และจับกุมเกษตรกรที่เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดิน สปก.จำนวน 4 ราย เนื่องจากพวกเราประชาชนในพื้นที่สืบพบว่า มีนายทุนผู้หญิงคนหนึ่งอยู่เบื้องหลัง ให้บุคคลหน้าม้าไปแสดงตนและแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับชาวบ้าน ทั้งที่บุคคลเหล่านั้นไม่เคยเข้าไปทำกินในที่ดินเขตปฏิรูปเหล่านั้นมาก่อนเลย , 5.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กลับมามีบทบาทและทบทวนในคำพูดของตนเอง ที่ได้พูดไว้ต่อหน้าหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วนและต่อหน้าประชาชน โดยผู้ว่าฯ ชี้นำให้พนักงานกรมป่าไม้และเจ้าหน้าที่ของสถานบันวิจัยจุฬาภรณ์ ใช้อำนาจและกฎหมายในมือ เข้าดำเนินการตามกฎหมายกับประชาชนกลุ่มที่ร้องเรียนที่ดินกลุ่มที่ประชาชน 18 ราย เข้าทำกินในพื้นที่ดินในโครงการทับทิมสยาม03 ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้พูดเมื่อวันที่ 25 พ.ค.65 ณ ห้องประชุมบูรพา ซึ่งการพูดของผู้ว่าฯ นอกจากแสดงตนหลีกหนีปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนราษฏรแล้ว เป็นคำพูดที่คิดแบบเผด็จการ ขอให้ผู้ว่าสระแก้ว คิดทบทวนคำพูดที่พูดออกไป แล้วสร้างสามัญสำนึกต่อความทุกข์ยากของประชาชนโดยนำเรื่องนี้มาพิจารณาใหม่ก่อนจะย้ายออกไปจากจังหวัดสระแก้ว
และข้อ 6.ให้ผู้ว่าฯสระแก้ว พิจารณาสั่งปลดผู้ใหญ่บ้านทับทิมสยาม03 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา ออกภายใน 30 วัน นับจากวันแถลงการณ์นี้ เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านโครงการทับทิมสยาม03 ได้ปล่อยให้บุคคลภายนอก หลายราย เข้าไปซื้อบ้านและที่ดินในโครงการพระราชทานของทับทิมสยาม03 สถานบันวิจัยจุฬาภรณ์ อันเป็นการแอบอ้างเบื้องสูงและหมิ่นพระเกียรติของพระองค์ ไม่ควรให้ฝ่ายอำเภอตาพระยา ตั้งคณะกรรมการสอบเพื่้อยื้อเวลา หาช่องโหว่ช่วยเหลือกันอีก ช่วยคนผิดเป็นถูก เพราะการปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้าไปซื้อขายบ้านและที่ดินในโครงการนั้น ตลอดมา ทางปลัดอำเภอเป็นผู้สำรวจข้อมูลจะรู้ดีที่สุด ทั้งนั้น หากภายใน 30 วัน นับจากวันแถลงการณ์นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยังละเลยเพยเฉย คิดปกป้องผู้กระทำความผิด ประชาชนชาวตำบลทัพไทย จะเดินทางไปร้องที่สำนักพระราชวัง เพื่อเอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยคำแถลงการณ์ทั้ง 6 ข้อ ขอให้มีผลตั้งแต่วันนี้ 15 มิ.ย.65 เป็นต้นไป และประชาชนที่มาร่วมชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัด ณ ที่นี้ทั้งหมดเป็นสักขีพยาน หลังจากนั้น ได้ยื่นคำแถลงการณ์ดังกล่าวผ่าน นายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสระแก้ว เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อส่งให้กับ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายภูมิวัชร์ฯ ได้ชี้แจงด้วยว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่มีการยื่นถวายฏีกาและร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว ได้มีการส่งเรื่องไปยังสำนักงานราชเลขาธิการในพระองค์ฯ เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งปัญหาอื่น ๆ ไม่เคยเก็บไม่เคยดองไว้ เพียงแต่ส่วนราชการต้องทำตามกฎหมายและขั้นตอน และบางเรื่องไม่ใช่อำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด จึงไม่สามารถทำได้ จึงแจ้งไปยังส่วนกลางเพื่อให้มีการลงมาตรวจสอบแก้ไข อาทิ กรณีของที่ดิน อ.วังสมบูรณ์ ที่ต้องผ่านการพิจารณาของรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี จึงอยากชี้แจงให้เข้าใจ หากมีข้อสงสัยมีข้อขัดข้อง สามารถเดินทางมาปรึกษากับทางสำนักงานจังหวัดและศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้เช่นกัน
———————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: