X

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งจังหวัด หลังชาวบ้านกว่า 100 คน บุกยื่น 3 ข้อ ปมจัดสรรที่ดิน สปก.ไม่เป็นธรรม

สระแก้ว – ผู้ว่าฯสระแก้ว สั่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งจังหวัด หลังชาวบ้าน ต.โคคลาน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จำนวนกว่า 100 คน บุกเข้ายื่น 3 ข้อเรียกร้องและขอให้ สปก.จัดสรรที่ดินที่หมดสัมปทานอย่างเป็นธรรม หลังมีที่ดินกว่า 7,200 ไร่ หมดสัมปทานกว่า 10 ปี ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับการจัดสรร แต่ให้นอมินีของบริษัทเอกชนเข้าถือครองร่วมกับผู้นำชุมชนบางพื้นที่ กีดกันชาวบ้านเข้าทำประโยชน์

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 8 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ต.โคคลาน และพื้นที่ใกล้เคียงใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ที่เดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินกว่า 100 คน เดินทางไปที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดสระแก้วหรือ สปก. และเคลื่อนย้ายไปรวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสระแก้ว เพื่อต้องการให้ทางจังหวัดเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้เข้าให้ข้อมูลการจัดสรรที่ดิน สปก.แปลง 6,000 ไร่ และแปลง 1,200 ไร่ ที่หมดสัมปทานอย่างไม่เป็นธรรม โดยนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้มอบหมายให้ นายธีรชัย ลิ้มประสิทธิศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ,นายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสระแก้ว ,นายศักดิ์ศิริ ธูปวงศ์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระแก้ว ,กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมฯ ลงมาพูดคุยเจรจาเพื่อหาข้อยุติ พร้อมกับรับปากให้มีการเปิดห้องประชุมดอกแก้ว ชั้น 2 เป็นสถานที่พูดคุย ซึ่งชาวบ้านและตัวแทนประมาณ 60 คน เข้าไปรับฟังจนเต็มห้อง ส่วนที่เหลือรอฟังข้อมูลอยู่ด้านนอก ซึ่งภายหลังมีการชี้แจงและพูดคุยกันได้ระยะหนึ่ง นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางมานั่งเป็นประธาน เพื่อรับฟังปัญหาดังกล่าวด้วยตนเอง

ทั้งนี้ นายปรมินทร์ จันทกาล ประธานสหพันธ์ที่ดินทำกินจังหวัดสระแก้ว แกนนำชาวบ้าน ได้อ่านแถลงการณ์พร้อมข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ระบุว่า “สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ถ้าไม่อยากให้ประชาชนผู้ที่เดือดร้อน ร้องเข้าในมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชาติ และประชาชนที่ควรจะได้รับโอกาสเป็นจำนวนมาก มาหลายปี ต้องปฏิบัติต่อข้อเรียกร้อง ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว มีคำสั่งจังหวัดให้ แก้ปัญหาร่วมกับชุมชน 3 ข้อดังนี้ 1.แต่งตั้งคณะจัดสรร คัดกรอง ประชาชนที่เดือดร้อน โดยมีคณะกรรมการเป็นผู้แทนผู้เดือดร้อนในพื้นที่ ร่วมกับ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดสระแก้ว ส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีผู้นำชุมชนบางหมู่เป็นที่ปรึกษา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความไว้วางใจของประชาชนในพื้นที่ โดยเรียกคณะนี้ว่า คณะจัดสรรที่ดินฯ

และ 2.สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดสระแก้ว ให้นำรายชื่อ ชื่อที่ออกเอกสารสิทธิ์ในแปลงที่ดิน ที่หมดสัมปทานออกมาเปิดเผยสู่สาธารณะ ว่ามีใคร ชื่ออะไร เป็นคนที่จังหวัดไหน แล้วให้ทำการยกเลิกเอกสารสิทธิ์ทั้งหมด เพราะเป็นการออกเอกสารสิทธิ์ที่ไม่โปรงใส และขัดต่อกฎหมาย 3.สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดสระแก้ว ต้องดำเนินการยึดที่ดินคืนทั้งหมดจากกลุ่มทุนที่หมดสัมปทาน และยังไม่หมดสัมปทานที่มีพื้นที่มากกว่า 500 ไร่ ตามมติ ครม.ปี 2564 ภายใน 10 วัน นับจากวันนี้ เสร็จแล้วให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการที่ตั้งจากข้อที่ 1 เพื่อนัดวันเวลาประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อทำประชาพิจารณ์และประชาคม แล้วเร่งจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชน ตามมติที่ประชาคม หากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมจังหวัดสระแก้ว ไม่ดำเนินการหรือไม่ปฏิบัติตามนี้ทั้ง 3 ข้อนี้ ประชาชนทั้งหมดจะลงชื่อยื่นหนังสือเอาผิด ตามมาตรา 157 ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป”

ขณะที่ นายศักดิ์ศิริ ธูปวงศ์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระแก้ว ได้ชี้แจงว่า ตนเองเพิ่งมาอยู่ใหม่ อะไรที่ทำได้และไม่ติดขัดกับกฎระเบียบ ตนก็จะเร่งรัดดำเนินการให้ อะไรที่ติดระเบียบมีขั้นตอนในการดำเนินการ มันก็ต้องใช้เวลาบ้าง ตนได้รับทราบปัญหาแล้ว จะเร่งดำเนินการให้ เพราะมีหลายด้าน กรณีของพื้นที่ อ.เขาฉกรรจ์ อยู่ในแผนปฏิบัติงานก็สามารถดำเนินการได้เลย ส่วนพื้นที่ อ.ตาพระยา ก็ต้องหารือทางกรมและจะขอเข้าไปตรวจสอบให้ โดยปัญหาดังกล่าวค้างคามานานแล้ว ตั้งแต่ตนเองมา ตนเร่งรัดเพื่อให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งแปลงนี้จะแจ้งให้ทราบก่อนว่า มีอยู่ 78 แปลง กำลังเร่งรัดดำเนินการอยู่ ขณะนี้ คทช.ของจังหวัด ก็กำลังเร่งทำแปลงให้เสร็จโดยเร็วที่สุดมีอยู่ 6 แปลง จากทั้งหมด 78 แปลง

สำหรับกรณีปัญหาดังกล่าว ชาวบ้านเรียกร้องเรื่องปัญหาที่ดินมานานกว่า 20 ปี ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตไประหว่างเรียกร้องถึง 24 คน ซึ่งกรณีปัญหาแปลงที่ดินที่หมดสัมปทานชาวบ้านได้ลงพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบด้วยระบบจีพีเอส และมีหลักฐานใบสัมปทานที่หมดอายุ และเมื่อลงไปดูแปลงที่ดิน พบว่า เป็นพื้นที่ของ สปก.แต่มีการจัดการให้นอมินีของบริษัทเอกชน เข้ามาทำกินและตัดไม้ยูคาลิปตัสไปขายมานานเกือบ 10 ปี ซึ่งอ้างว่า เป็นของบริษัทเอกชน เข้าครอบครอง ทั้งที่ต้องถูกยกเลิกตามมติ ครม.ปี 2564 ที่ให้ที่สัมปทานที่มากกว่า 500 ไร่ ให้ยึดคืนรัฐ และให้จัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดทำเรื่องขอใช้สิทธิ์ไว้กับ สปก.หมดแล้ว แต่ไม่ได้รับการจัดสรรอย่างเป็นธรรม จึงเดินทางมาเรียกร้อง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้คำสั่งจังหวัดแก้ไขปัญหากันเองได้หรือไม่ เพราะที่ดินบางแปลงหมดสัมปทานเป็น 10 ปี ชาวบ้านคลางแคลงใจว่า แล้วเงินสัมปทานกลุ่มทุนต้องเอาไปให้ใคร ถ้าเรื่องนี้ไปยื่นถึง ปปช.หรือหน่วยงานตรวจสอบ ต้องเกิดความวุ่นวายแน่นอน ขณะนี้ทางกลุ่มได้ทำใบปะหน้าเตรียมยื่น ปปช.ไว้ร้องเรียนเรื่องนี้แล้ว

ทางด้าน นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สอบถาม สปก.ว่า ตอนทำสัญญาสัมปทานดังกล่าว ใครเป็นคนทำและทำกับใคร ซึ่งทางปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระแก้ว ได้ชี้แจงว่า ขอดูแผนที่และปัจจุบันในข้อมูลของ สปก.มีข้อมูลอยู่เพียง 1 แปลง ประมาณ 1,000 ไร่ เท่านั้นที่มีการให้สัมปทาน และปัจจุบันได้ทำการยึดคืนมาแล้ว ซึ่งตอนทำสัมปทานเป็นการทำสัญญากับกรมป่าไม้ ขณะนี้ยึดคืนตามมติ ครม.ในกรณีที่เนื้อที่สัมปทานเกิน 500 ไร่ จึงได้ยึดคืนมาตามคำสั่ง คสช.และก็มาจัดที่ดินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอาจจะเป็น 14 ราย หรือ 68 ราย ตามเนื้อที่ 1,400 ไร่ ซึ่งตัวแทนชาวบ้านโต้แย้งว่า ที่แจ้งมาทั้งหมดมีเพียง 1 ราย ที่ครอบครองทั้งหมด จึงต้องการให้เปิดเผยรายชื่อผู้ที่ได้รับการจัดสรรทั้งหมดว่า มาจากจังหวัดอะไร หากไม่เป็นไปตามระเบียบหรือไม่ถูกต้อง จะต้องมีการยกเลิก และทำประชาคมลงมติใหม่ให้มีการจัดสรรอย่างเป็นธรรม เนื่องจากที่ผ่านมาชาวบ้านไม่รู้เรื่องเลย ทำประชาพิจารณ์และประชาคมหรือไม่ และเป็นคนในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งคนที่เคยมีที่ดินในพื้นที่หลายคนไม่เคยได้รับการติดต่อจาก สปก.หรือผู้นำชุมชนเลย จึงต้องการให้มีการใช้อำนาจผู้ว่าฯ แต่งตั้งคณะจัดสรรคัดกรอง โดยมีผู้เดือดร้อนเป็นคณะกรรมการผู้เดือดร้อนในพื้นที่ ร่วมกับ สปก. ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชนบางหมู่เป็นที่ปรึกษา ซึ่งบางหมู่ผู้นำชุมชนเข้ามาขัดขวางไม่ให้ชาวบ้านเข้ามาร้องเรียน ทั้งที่ตัวเองเอารายชื่อผี มาส่ง สปก.ออกเอกสารสิทธิ์ พร้อมข่มขู่ชาวบ้าน และเอาป้ายไปติดว่า ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับต้นไม้ยูคาฯ ซึ่งทางชาวบ้านมีคลิปและหลักฐานทั้งหมดอยู่ในมือแล้ว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้รับฟังข้อมูลทั้งหมด จึงได้สั่งการว่า ให้ สปก.สระแก้ว เรียกประชุมคณะกรรมการ สปก.จังหวัด เพื่อให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อตรวจสอบกรณีนี้ โดยมีตัวแทนชาวบ้านและผู้เดือดร้อนในพื้นที่เป็นกรรมการร่วมอยู่ด้วย พร้อมทั้งสั่งการให้มีการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาในลักษณะเดียวกัน ในส่วนของที่ดิน สปก.ในพื้นที่อื่น ๆ ทั้งจังหวัด อาทิ อำเภอเขาฉกรรจ์ วังน้ำเย็น และวังสมบูรณ์ ไปพร้อมกันด้วย หากพบว่า มีการครอบครองโดยผิดกฎหมายหรือผิดระเบียบ จะต้องมีการยกเลิกและดำเนินคดีไป ดังนั้น ต้องไปตรวจสอบให้ชัดว่า เป็นแปลงเดียวกันหรือไม่ โดยกระบวนการของตน จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย การจะไปยึดใคร ต้องดูว่าหมดสัญญาหรือไม่ มีสัมปทานหรือไม่ ใครเป็นคนทำสัญญา และรับประกันว่าไม่ได้ทำสัญญากับผู้ว่าฯ แน่นอน เพราะถ้าทำจะต้องอยู่กับหน่วยงานไหนหน่วยงานหนึ่ง ซึ่ง สปก.ยืนยันว่า ทั้งจังหวัดมีสัมปทานเพียงแปลงเดียวและหมดสัมปทานแล้ว ขณะนี้นำมาเข้า คทช.แล้ว จึงจะต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาดูกัน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่เดือดร้อนต่อไป

——————————

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"