X

จับไม้พะยูงซุกท้ายหมู่บ้านกว่า 558 ท่อน..!!

สระแก้ว – สนธิกำลังจับไม้พะยูงซุกท้ายหมู่บ้านจำนวนมากกว่า 558 ท่อน แต่ไม่พบผู้กระทำความผิด ในพื้นที่รอยต่อเขตป่า 5 จังหวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจ ฉก.คลองหาด กรมทหารทหารพรานที่ 13 โดย พ.อ.ชายธนัญชา วาจรัต ผบ.กรม ทพ.13 ผบ.ร้อย.ทพ.1306 ชุด ชค.ทพ.13 พร้อม เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังบูรพา ร่วมกับ พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรน์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว นายอยู่ เสนาธรรม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำเภอวังน้ำเย็น เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก.7 (ไพรจิตร) เข้าตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งว่า มีการลักลอบนำไม้พะยูงมาซุกซ้อน บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านจำนวนมาก ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อเขตป่า 5 จังหวัด และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และระยอง

ทัังนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบไม้พะยูงกองรวมกัน จำนวนกว่า 558 ท่อน บริเวณพิกัด SV 759947 พื้นที่ ม.17 บ.ชัยมงคลเจริญลาภ ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว แต่ไม่พบผู้กระทำผิด จึงร่วมกันทำบันทึกตรวจยึด และนำส่งของกลางมาตรวจนับดำเนินคดีที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อดำเนินการสืบหาผู้ร่วมกระทำผิดครั้งนี้ ส่วนไม้ของกลางได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก.7

นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำเภอวังน้ำเย็น ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้ เบื้องต้นตรวจสอบแล้วอยู่ในที่ดินของ นายสมศักดิ์ สาลี อายุ 47 ปี เป็นที่ดิน สปก. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบนั้น พบไม้พะยูงถูกซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวและถูกปกคลุมด้วยใบอ้อย ซึ่งบริเวณที่ดินดังกล่าวเป็นไร่อ้อย โดยไม้พะยูงถูกกองไว้เป็นจำนวน 2 กอง ใกล้กัน ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเข้าทำการตรวจยึดไม้ดังกล่าวไว้

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"