สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 สนธิกำลังจับกุมแรงงานกัมพูชาลักลอบเข้าเมือง 25 คน ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 6 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา เข้าตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้ทุกหน่วยดำเนินการแก้ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ และนำสิ่งผิดกฎหมายข้ามชายแดนอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่ ฉก.ตชด.1 ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 นำโดย พ.ต.ท.ปริญญา จันทะบุรี ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.1 ,ด.ต.สุวิทย์ เฉนียง , ส.ต.อ.ชัยณรงค์ แปรพันธ์ ,ส.ต.ท.ทรงวุฒิ โสระสิงห์ ,ส.ต.ต.วรพจ ดวงขวัญ ,ส.ต.ต.นพรัตน์ อำภวา ,ส.ต.ต.รัฐพล คุ้มผล ,ส.ต.ต.ฉัตรดนัย นามมนตรี สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ชปข.ร้อย ตชด.124, ด.ต.รุ่งตะวัน เย็นอนงค์, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบลผ่านศึก ประกอบด้วย นายทองคำ จำนิล กำนันตำบลผ่านศึก ,นางอัญชนา นุชธิสาร ผญบ.ม.4 ,นายขวัญชัย ดงเจริญ ผญบ.ม.5 ,นายธนาธิป โพธิรักษ์ ผญบ.ม.3 บูรณาการร่วมกับ เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.คลองน้ำใส และเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ร 2 จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาได้ จำนวน 25 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 11 คน ที่บริเวณป่าข้างทางท้ายหมู่บ้านผ่านศึก ม.4 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประทศ จ.สระแก้ว จึงควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จากการสอบสวน ทราบว่า กลุ่มบุคคลต่างด้าวดังกล่าว ถูกจับกุมขณะกำลังเดินอยู่ในป่าข้างทางบริเวณที่เกิดเหตุ หลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานขอทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบจึงทราบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลสัญชาติกัมพูชา มีจำนวนทั้งหมด 25 คน ไม่มีหลักฐานการได้รับอนุญาตให้เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า กระทำความผิดและจะต้องถูกจับกุมตัว โดยกล่าวหาว่า“เป็นบุคคลต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) ที่หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” ซึ่งภายหลังสอบสวนและบันทึกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายปอย สุจอง อายุ 40 ปี สัญชาติกัมพูชาและพวกรวม 25 คน ส่งให้ พ.ต.ต.สามารถ แม่นปืน พนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินคดีและทำตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
——————————–
