ปราจีนบุรี ไฟไหม้ป่าลุกลามเข้าอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก

ปราจีนบุรี – ไฟไหม้ป่าจากแนวชายขอบป่าลุกลามสู่อุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

เมื่อวันที่ 31 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าว จ. ปราจีนบุรี รายงานว่า ได้รับแจ้งจาก นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน พื้นที่รอยต่อ 2 จ.ปราจีนบุรี และ จ.นครราชสีมา เกิดไฟไหม้ป่าลุกลามจากทุ่งหญ้าเป็นแนวเข้าสู่ป่าทับลานและพื้นที่ป่ายูคาลิปตัส มีชาวบ้านกระจายเป็นหย่อม ๆ พื้นที่รวมกว่า 200 ไร่ พื้นที่บริเวณเขาทับพริกทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งไกลถึงเขต อ.กบินทร์บุรี โดยได้รับแจ้งว่า ไฟเริ่มไหม้วันที่ 31 ม.ค. ต้นเพลิงมาจากป่ามะม่วงพื้นที่หมู่ 6 ลุกลามสู่ หมู่ 3 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พื้นที่ถูกไฟไหม้เป็นป่ายูคาลิปตัสของชาวบ้านกว่า 100 ไร่ และลุกลามเข้าป่าอุทยานทับลานเข้ามาทางผาเม่น อีกกว่า 100 ไร่

ทั้งนี้ โดยไฟที่เริ่มจากทุ่งหญ้าเป็นพื้นที่แนวชายขอบป่า แจ้งครอบครองที่ดินติดกับอุทยานทับลาน ตามมาตรา 64 พรบ.อุทยานแห่งชาติ 2562 เป็นแปลงปลูกป่าในโครงการพระราชดำริเดิม ทับลาน 1 ทับลาน 2 โดยไฟได้ลุกลามไหม้จากที่โล่งสู่ชายป่าจะลงสู่หุบเขาบ้านป้าจำปี รอยต่อระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลานกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ปลูกป่าในโครงการอาหารสัตว์ป่า-ต้นไม้ จำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด ทางอุทยานทับลานได้ระดมกำลังและชุดดับไฟป่าช่วยกันดับไฟในป่าทับลานที่ผ่านมาได้แล้ว แต่ยังไม่ไว้วางใจ และวางกำลังป้องกันไปไม่ให้ปะทุกลับมาอีก

อย่างไรก็ตาม นายประวัติศาสตร์ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุไฟไหม้เบื้องต้น อาจมีการจุดไฟเพื่อล่าสัตว์หรือเอาไปแล้วลืมทิ้งไว้ แต่หากพบใครทำให้เกิดไฟไหม้ป่าเกิดขึ้น ทางอุทยานฯ เตรียมจะเสนอยึดคืนพื้นที่ต่อไป ซึ่งได้ทำหนังสือเวียนแจ้งถึงในพื้นที่แล้ว อุทยานแห่งชาติทับลานจะใช้มาตรการเข้มข้น เพื่อดำเนินการกับผู้เป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุไฟไหม้ป่า โดยจะสืบสวนและดำเนินคดีอาญา ให้ได้รับบทลงโทษตามกฎหมายอย่างรุนแรง ตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจะเสนอให้ตัดสิทธิ์ ในขั้นตอนพิจารณาคุณสมบัติของผู้แจ้งครอบครองที่ดินทำกินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ 2562 แก่ผู้ที่เป็นต้นเหตุก่อให้เกิดไฟไหม้ป่า ตลอดจนผู้มีพฤติกรรมล่าสัตว์ป่า มิให้ได้สิทธิ์ในการทำกินในเขตป่าต่อไป เนื่องจากไม่มีจิตสำนึกในการที่จะอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน

————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์