สระแก้ว – เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลครั้งที่ 2 จำกัดคนร่วมกว่า 400 คน ชาวบ้านที่คัดค้านถูกสกัดไม่ให้ชุมนุมขึ้นป้ายคัดค้านในหมู่บ้านพื้นที่รัศมี 5 กม.
พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น อดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.สระแก้ว เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างรายงานและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ของบริษัทน้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด หรือ เคเอสแอล ในพื้นที่ ต.ผักขะ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ที่ห้องประชุมอาคาร ศ.ดร.สุชาติ อุปถัมป์ มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว ซึ่งถือเป็นการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 ต่ออีไอเอดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 โดยมีตัวแทนประชาชนจาก 33 หมู่บ้าน 6 ตำบล เฉลี่ยหมู่บ้านละประมาณ 8 คน รวมกว่า 400 คน เข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็น โดยในช่วงเช้าเป็นการรับฟังความคิดเห็นกรณีโรงงานน้ำตาล และช่วงบ่ายเป็นการรับฟังความคิดเห็นกรณีโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งบรรยากาศก่อนการประชุม ทางบริษัทนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด ได้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่จะร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น จากประชาชน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ที่มีพื้นที่ติดกับโรงงานในรัศมี 5 กิโลเมตร หากไม่มีชื่อในบัญชี จะถูกห้ามเข้าร่วมประชุมทันที
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางบริษัทที่ปรึกษาฯ ได้จัดเตรียมทางเข้าจุดคัดกรองและเส้นทางเข้าร่วมประชุมไว้เป็นสัดส่วน และมีป้ายขนาดใหญ่ติดไว้มีข้อความว่า ห้ามบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยเด็ดขาด นอกจากนั้น บริเวณโดยรอบอาคารห้องประชุมและบริเวณทางเข้ามหาวิทยาลัย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ จากหน่วยต่าง ๆ รวมประมาณ 200 นาย คอยคุมดูแลเนื่องจากเกรงว่า จะมีชาวบ้านผู้คัดค้านเข้ามาประท้วงในพื้นที่จัดเวทีดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่า ไม่มีชาวบ้านกลุ่มที่คัดค้านเดินทางมาถือป้ายประท้วงแต่อย่างใด
นายฐิติวรรธน์ ยิบยินธรรม รองประธานคณะกรรมการบริษัทน้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด เปิดเผยว่า โครงการโรงงานผลิตน้ำตาลของบริษัท ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ ต.ผักขะ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มีพื้นที่ก่อสร้างโครงการ ประมาณ 1,652 ไร่ แบ่งเป็น โรงงานน้ำตาล 1,614 ไร่ และโรงไฟฟ้าชีวมวล 38 ไร่ ซึ่งตนเองยืนยัน ประชาชนในพื้นที่ไม่ต้องกลัวว่าทางบริษัทฯจะไปแย่งน้ำจากคลองธรรมชาติ เพราะเรามีที่ดินประมาณ 4,000 ไร่ ซึ่งจะมีการขุดสระน้ำขนาดใหญ่ไว้เก็บน้ำฝนไว้ใช้เอง ส่วนกรณีฝุ่นและมลพิษที่จะกระจายไปกระทบกับชาวบ้านนั้น ทางบริษัทมีมาตรการติดตั้งตาข่ายดักจับฝุ่นละออง 2 ชั้น รวมทั้งรอบโรงงานจะมีการปลูกต้นไม้โดยรอบ ส่วนเสียงรบกวนนั้น จะมีห้องเก็บเสียงจากตัวของเครื่อง รวมทั้งกรณีที่ชาวบ้านวิตกกังวลว่า บ่อบำบัดน้ำเสียของเราจะออกไปภายนอกนั้น ยืนยันว่า จะไม่การปล่อยออกไปข้างนอกเลย จะเก็บไว้ใช้หมุนเวียนในโรงงานทั้งหมด
ขณะเดียวกัน นายเสริม หันทะยุง ประธานชมรมรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคลองห้วยพะใย และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รัศมี 5 กม. ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนชาวบ้านที่คัดค้านที่เข้าร่วมเวที กล่าวในที่ประชุมรับฟังความคิดเห็นว่า สถานที่จัดประชุมครั้งนี้ ไม่เหมาะสม ทำไมไม่ไปจัดประชุมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนโครงการที่ทางบริษัทเตรียมขุดสระน้ำขนาดใหญ่ และขออนุญาตต่อท่อจากคลองห้วยพระใยและคลองพรมโหดเข้าไปในสระน้ำที่มีความลึกของสระน้ำประมาณ 10 เมตรนั้น เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อน้ำใต้ดินจากคลองธรรมชาติที่ซึมเข้าไปในสระน้ำขนาดใหญ่ได้ ขณะนี้ชาวบ้าน 33 หมู่บ้าน ที่อยู่ในพื้นที่โรงงานต่างกังวลเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น จึงต้องการให้หน่วยงานราชการกำกับดูแลให้ดี อย่าปล่อยให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ตั้งโรงงานในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บรรยากาศการจัดเวทีในช่วงเช้าและบ่าย มีการเปิดโอกาสให้ตัวแทนชาวบ้านที่คัดค้านจากหมู่บ้านต่าง ๆ ที่ไม่เห็นด้วย แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ตามเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกัน ชาวบ้านในพื้นที่รอบรัศมี 5 กม.ที่คัดค้านโครงการและไม่ได้เข้าร่วมประชุม ได้จัดทำป้ายคัดค้านไปติดตั้งตามจุดต่าง ๆ ในหมู่บ้าน เพื่อยืนยันไม่ต้องการให้มีการสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล อาทิ ข้อความว่า “เราชาวบ้านห้วยพะใย หมู่ 4 ไม่เอาโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล” พร้อมร่วมกันถ่ายคลิปชูป้ายคัดค้านในหมู่บ้านด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาวบ้านที่คัดค้านได้เดินทางไปยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้วและ สภ.วัฒนานคร เพื่อขออนุญาตจัดชุมนุมคัดค้าน แต่ปรากฏว่า ทางอำเภอไม่ยอมอนุญาต อ้างว่า ต้องปฏิบัติตาม พรก.ฉุกเฉิน, พรบ.โรคติดต่อ ,และประกาศ ศบค. รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขด้วย จึงมีการรวมตัวกันในหมู่บ้าน พร้อมทั้ง เตรียมเดินทางเข้าร้องเรียนกรณีดังกล่าวกับหน่วยงานส่วนกลางต่อไป
————————–
