สระแก้ว – สั่งตั้งกรรมการสอบกรณี อส.ขโมยปืนหลวงบนที่ว่าการอำเภอเมืองสระแก้วไปขาย 65 กระบอก ส่วนอีกหลายอำเภอ มีคำสั่งให้ตรวจสอบปืนของแต่ละตำบล หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยปืนหาย
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเจ้าหน้าที่ อส.ประจำที่ว่าการอำเภอเมืองสระแก้ว และ อส.ประจำศาลากลางจังหวัด ร่วมกันขโมยปืนลูกซองยาว 5 นัดและปืนพกสั้นรวม 65 กระบอก จากตู้เก็บอาวุธปืนบนที่ว่าการอำเภอเมืองสระแก้ว จำนวน 21 ครั้ง ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย.64 โดยมีบุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้รับซื้อปืนถูกจับกุมรวม 4 คน สามารถติดตามปืนคืนมาได้แล้ว 26 กระบอก ล่าสุด ภายหลังนายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เก็บปืนบนที่ว่าการอำเภอเมืองสระแก้ว และสั่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัยของหน่วยงานที่ยังมีความหละหลวม โดยเชื่อว่าน่าจะยังมีผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมอีก แต่ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานในการติดตามปืนหลวงกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด โดยได้มีการสั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าว พร้อมกับสั่งให้ อส.ที่กระทำความผิดพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกัน ได้มีคำสั่งให้ทุกอำเภอตรวจสอบปืนที่มีอยู่ในครอบครอง และหามาตรการเพิ่มการใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงความพร้อมของกล้องวงจรปิดในแต่ละอำเภอให้สามารถใช้งานได้และเพิ่มกล้องวงจรปิดตามมุมตึกหรือจุดบอดตามอาคาร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อำเภอวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอวังน้ำเย็น ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอ ประสานกำนันและผู้ใหญ่บ้านทุกพื้นที่ ให้มีการตรวจสอบปืนของทางราชการด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อช่วงเวลา 12.40 น.วันนี้ นายอำนาจ พิพิธกุล กำนันตำบลตาหลังใน ได้มอบหมายให้ ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน , สารวัตร และแพทย์ประจำตำบล ให้นำอาวุธปืนลูกซองยาวประจำหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) ของตำบลตาหลังใน จำนวน 105 กระบอก มามอบให้ปลัดอำเภอวังน้ำเย็น เพื่อทำการตรวจสอบ ซึ่งผลการตรวจสอบอาวุธปืนลูกซองยาวดังกล่าว พบว่า ยังอยู่ครบตามจำนวนทุกกระบอก ไม่มีการสูญหายแต่อย่างใด จากนั้นได้ขึ้นทำเนียบตรวจประจำปีไว้เป็นหลักฐานด้วย
—————————-
