X

อช.ปางสีดาแจ้งเตือนและเฝ้าระวังช้างป่า เข้าทำลายพืชผลการเกษตรในพื้นที่เมืองสระแก้ว

สระแก้ว – หัวหน้าอุทยานแห่งชาติปางสีดา แจ้งเตือนและเฝ้าระวังช้างป่า เข้าทำลายพืชผลการเกษตรในพื้นที่ ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว

เมื่อวันที่ 15 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติปางสีดา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้รับแจ้งจาก นายสมศักดิ์ มีแก้ว ชาวบ้านบ้านคลองน้ำเขียว ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ว่าพบเห็นตัวช้างป่า จำนวน 1 ตัว ออกหากินบริเวณพื้นที่หมู่บ้าน หมู่ 7 บ้านคลองน้ำเขียว ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว พิกัด WGS1984 UTM ZONE 48P 0197789E, 1546806N รวมทั้งได้เข้าทำลายพืชผลทางการเกษตรเสียหาย ประกอบด้วย ต้นกล้วย ต้นหมาก และต้นข้าว จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าเข้าไปยังพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติปางสีดา ใกล้กับบริเวณท้องที่หมู่ที่ 7 บ้านคลองน้ำเขียว ต. ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว

ขณะเดียวกัน หลังเกิดกรณีดังกล่าว ได้รายงานให้กับผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) รับทราบแล้ว ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบสามารถยื่นขอรับการชดเชยได้ตามระเบียบ ขณะเดียวกั้น ตลอดทั้งวัน ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติปางสีดาเขตจัดการที่ 1 (ส่วนกลาง) ชุดปฏิบัติการที่ 2 (ขุนดง 2) ซึ่งเป็นชุดเตรียมความพร้อม ได้ออกตรวจสอบแนวเขตบริเวณป่าคลองหินขาว สิ้นสุดที่อ่างเก็บน้ำท่ากะบาก ผลการตรวจสอบแนวเขต พบร่องรอยช้างป่า จำนวน 1 ตัว ออกหากิน ที่หมู่ที่ 7 บ้านคลองน้ำเขียว ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้วจริง และทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ต้นกล้วย ต้นหมาก และต้นข้าว เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าเข้าไปยังพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติปางสีดา และแจ้งเตือนให้ชาวบ้านให้ระมัดระวังอย่าเข้าใกล้ช้างป่าเด็ดขาด

——————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"