X

วิ่งวุ่นปิดข่าว!! ย้าย สว.สันติบาลสระแก้วเข้ากองกำกับฯลดกระแสไล่ยิงรถชาวบ้าน

สระแก้ว – วิ่งวุ่นปิดข่าว สตช.เตรียมลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ตรวจสอบกรณีทีมสันติบาลไล่ยิงรถชาวบ้าน ส่งชุด EOD เข้าตรวจหาปลอกกระสุนปืน โดยมีข้อมูลพบเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาจ่ายเงินนักข่าวเพื่อปิดข่าวและลบโพสต์ด้วย ขณะที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ได้สั่งย้าย สว.สันติบาลสระแก้ว เข้ากองกำกับฯและให้ สว.สันติบาลจันทบุรี มารักษาการแทนเพื่อลดกระแสไปก่อน

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลจำนวนอย่างน้อย 6 นาย ขับรถยนต์ 2 คัน ขับไล่ล่าและประกบยิงสนั่นถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี จนรถขนส่งสินค้าแบรนด์เนมของผู้ประกอบการในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดยางแตกที่ล้อหลังและจู่โจมเข้าจับกุมคนขับ มีการทำร้ายและจับถอดเสื้อ ใส่กุญแจมือไพร่หลังนั่งกลางถนน ขณะกำลังนำสินค้าจากพื้นที่บ้านทับพริกไปส่งลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณรอยต่อพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น กับ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว กระทั่งมีการนำรถพร้อมของกลางไปเก็บไว้ที่หน่วยสันติบาล อ.อรัญประเทศ พร้อมกับพยายามแจ้งข้อหาและเรียกรับเงินจำนวน 500,000 บาท แต่เจ้าของรถเจรจาจ่ายเป็นเงินสดโดยโอนไปให้ลูกน้องเบิกเป็นเงินสดจ่ายให้เจ้าหน้าที่ไป 150,000 บาท จึงสามารถนำรถและสินค้ากลับไปได้ในช่วงสายวันเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีผู้นำภาพเหตุการณ์ดังกล่าวนำเสนอทางสื่อโซเชียลมีเดีย พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ สภ.วังน้ำเย็นและสืบจังหวัดเข้าติดตามข้อมูลกรณีดังกล่าว กระทั่งพบภาพเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ได้นำรถยนต์ของกลางพร้อมสินค้าไปที่หน่วยสันติบาลอรัญประเทศจริง แทนที่จะนำส่ง สภ.วังน้ำเย็น ท้องที่เกิดเหตุ รวมทั้ง นายไชโย ขนบบวรกุล สจ.อรัญประเทศ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ได้ออกมาเปิดเผยว่า รถคันดังกล่าวเป็นของภรรยา ซึ่งเปิดร้านขายสินค้าแบรนด์เนมที่ตลาดโรงเกลือ และมองว่าการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่สันติบาลถือว่า เกินกว่าเหตุอย่างมาก เตรียมที่จะเดินทางเข้าร้องเรียนต่อ นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ เพื่อให้มีการสอบสวนและประสานหน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ชุดนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ แจ้งว่า ช่วงเช้าวันนี้(14 มิ.ย.) สจ.ไชโย ได้เดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วแต่เช้าและไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด

ทั้งนี้ แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้หลังตกเป็นข่าวทางสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่สันติบาลชุดดังกล่าวได้ออกไปจับกุมแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ อ.โคกสูง และมีปฏิบัติการลักษณะคล้าย ๆ กัน ซึ่งผู้เสียหายไม่ยินยอมทำให้ต้องนำแรงงานต่างด้าวส่งให้ ตม.สระแก้ว ดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งชุดเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดต่อผู้ใหญ่หลายคนและผู้เสียหาย เพื่อเข้าไปขอขมาและนำเงินที่ 150,000 บาทไปคืน รวมทั้งให้คนเจรจากับสื่อมวลชนเพื่อขอจ่ายเงินจำนวน 5,000 บาท เพื่อให้ยุติการนำเสนอข่าว รวมทั้งมีการเจรจากับบุคคลที่เคลื่อนไหวและโพสต์ด่าหน่วยงานสันติบาลในพื้นที่อรัญประเทศ เพื่อให้ลบโพสต์ต่าง ๆ ทางโซเชียลมีเดียออกไปและจ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนให้ 20,000 บาทด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วันนี้ นายกฤษณัฐ สร้อยสุข อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.2 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ทำหนังสือร้องเรียน ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ยื่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ,ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ,ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อร้องเรียนพฤติกรรมของ พ.ต.ท.รณชัย อังกะโทก สารวัตรตำรวจสันติบาลจังหวัดสระแก้วกับพวก ระบุว่า กรณีดังกล่าวตามที่ตกเป็นข่าววันที่ 12 มิถุนายน 2564 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลขับรถประกบยิงยางรถยนต์ของชาวบ้าน และเจรจาเรื่องเงินจำนวน 150,000 บาท ก่อนจะปล่อยรถยนต์กระบะขนสินค้าไป โดยไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด

ซึ่งตำรวจกลุ่มดังกล่าวอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของท่านได้รับผิดชอบปกครองดูแล แต่ได้มีการปล่อยปะละเลยให้มีการกระทำผิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตนซึ่งเป็นชาวบ้านอยากจะใคร่ขอทราบถามท่านว่า ถ้าพฤติกรรมของ พ.ต.ท.รณชัย อังกะโทก ตำแหน่ง สารวัตรตำรวจสันติบาลจังหวัดสระแก้ว กับพวกเป็นจริงตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น ถ้าเหตุการณ์ครั้งนี้ได้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกิดการสูญเสียที่มากกว่าครั้งนี้ ท่านจะมีแนวทางแก้ไขเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐคนดังกล่าวต่อไปอย่างไรบ้าง แล้วจะมีการสืบสวนข้อเท็จจริงเอาผิดและบทลงโทษกับเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิดตามที่เป็นข่าวอย่างไรต่อไป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ได้มีชาวบ้านได้รับรู้ข้อมูลดังกล่าวค่อนข้างมากผ่านทางโซเชียลและเฝ้าติดตามบทลงโทษของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำตามหน้าที่โดยสุจริตหรือไม่อย่างไร ว่าจะมีบทลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำความผิดหรือไม่อย่างไร ซึ่งกระผมขอให้ท่านตอบผมเป็นลายลักษณ์อักษร เผื่อต้องเดินเรื่องต่อตามกระบวนการต่อไป

ต่อมา เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.วังน้ำเย็น พื้นที่เกิดเหตุ ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี รอง สว.(สอบสวน) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือหน่วย EOD กก.ตชด.12 ได้นำเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดไปเดินเพื่อสแกนหาปลอกกระสุนปืนในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานสันติบาลส่วนกลาง ได้ประสานเพื่อลงพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว สำหรับติดตามกรณีปัญหานี้ เพื่อรายงานให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับทราบ เบื้องต้น ทางกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ซึ่งดูแลพื้นที่ 17 จังหวัด ได้สั่งย้าย พ.ต.ท.รณชัย อังกะโทก สว.สันติบาลสระแก้ว เข้ากองกำกับการ 1 เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.64 และมอบหมายให้ พ.ต.ท.อำนาจ มาหาธนานันท์ สว.สันติบาลจันทบุรี มารักษาการแทน สว.สันติบาลสระแก้ว เพื่อลดกระแสดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ (14 มิ.ย.) เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด จากการตรวจสอบไปยัง นายไชโย ขนบบวรกุล สจ.อรัญประเทศและผู้เสียหาย กรณีที่จะยื่นร้องเรียนเรื่องดังกล่าว ไม่สามารถติดต่อ สจ.ไชโย กับผู้เสียหายได้ แต่ได้รับแจ้งข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่ก่อเหตุ ได้เข้าไปกราบเท้าขอขมากับ สจ.ไชโยและนำเงินไปคืนผู้เสียหายแล้ว โดยล่าสุด นายไชโย ขนบบวรกุล สจ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านคลิปเสียงทางโทรศัพท์ถึงกระแสข่าวมาแรงมีการยอมความว่า ความจริงเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตน คือตนเป็นเสาหลักของครอบครัวและพี่น้อง พอมีเรื่องนี้ก็มาอาศัยมาปรึกษาตนให้ช่วยดูช่วยประสานให้เท่านั้น เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นก็มีทั้งคนรักและไม่รัก ตนก็ลำบากใจ ก็เลยบอกว่างั้นไม่ยุ่งแล้วดีกว่า สรุปไม่ใช่เคลียร์เพราะตนไม่ใช่อะไรอยู่แล้วเพราะไม่ได้คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียตรงนี้ ตนแค่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ และเจ๊มาขอคำปรึกษา แล้วก็คนที่เกี่ยวข้องก็มาขอโทษขอโพยกัน ตนก็เลยบอกว่าไม่ขอยุ่งแล้วกัน และที่จริงไม่น่าเกี่ยวข้องอะไรกับตนเลย

ส่วนคำถามที่ว่า สรุปเจ๊จันทร์ เจ้าของธุรกิจซึ่งเป็นภรรยาของตน ขณะนี้เป็นภรรยามั้ย สจ.ไชโย กล่าวว่า ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เคยมีลูกด้วยกัน แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน บางอย่างพูดไม่ได้ ก็ไม่ได้ตรงอะไรกับที่ข่าวเสนอออกไปนัก ก็เลยบอกให้ไปแก้กันเอาเองแล้วกัน ตนก็ลำบากใจ แค่นี้ก็ลำบากจะแย่อยู่แล้ว ส่วนหลังจากนี้เจ๊จันทร์กับหลานจะดำเนินการแจ้งความต่ออย่างไรหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบเพราะมีคนโทรเข้ามาหนักเลย ส่วนเจ๊จันทร์ ก็ให้ข้อมูลเพียงว่า ทุกอย่างอยู่ที่ให้ สจ.ไชโย เป็นผู้ตัดสินใจทั้งหมดว่าจะดำเนินการอย่างไร

————————

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"