สระแก้ว – ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและคณะ นั่ง ฮ.บินด่วนลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ติดตามสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายฯ สั่งสกัดแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้าพื้นที่ชั้นใน หวั่นได้รับผลกระทบโควิด-19 ระบาดกระทบเป็นวงกว้าง
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 11 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะนายทหาร พร้อมด้วย นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณบ้านทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รอยต่อพื้นที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เพื่อติดตามสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังร่วมประชุมกับหน่วยงานราชการจังหวัดสระแก้ว ที่ห้องประชุมบูรพาชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว โดยเข้าตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยจุดคัดกรองในพื้นที่เฝ้าระวัง บ้านทัพพริก ต.ทัพพริก อ.อรัญประเทศ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งมีนายวินัย โตเจริญ นายอำเภออรัญประเทศ รายงานสถานการณ์รับมือสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนเนื่องจากหากพ้นจุดดังกล่าวจะเข้าไปสู่พื้นที่ อ.วัฒนานคร และเมืองชั้นในได้ พร้อมทั้งร่วมมอบหน้ากากอนามัยและสิ่งของ เป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวกับ นายอำเภออรัญประเทศและกำชับกับเจ้าหน้าผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ว่า หากมีการปล่อยให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเล็ดลอดเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน จะมีผลต่อพื้นที่ภายใน ในการแพร่กระจายเชื้ออย่างมาก เพราะจากผลตรวจอัตราการติดเชื้อของคนที่เดินทางเข้ามาแบบถูกกฎหมายและนำมากักกันตัว 14 วัน ในพื้นที่ควบคุม ซึ่งมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก หากเล็ดลอดเข้าไปพื้นที่ภายใน ก็จะเกิดปัญหาอย่างที่เคยเป็น ร้านค้า ผู้คนค้าขายไม่ได้ และก็ต้องมีมาตรการอะไรออกมาเพิ่มเติม ฉะนั้น ขอให้ช่วย ๆ กัน
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและคณะ ได้เดินทางเข้าตรวจพื้นที่ช่องทางธรรมชาติบ้านทัพพริก แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นล่อแหลม จุดเสี่ยงที่มีการลักลอบข้ามแดนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ห่างจากถนนสาย 3259 ไปยังแนวชายแดนประมาณ 1 กม. โดยเจ้าหน้าที่ทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพทำข่าวในจุดดังกล่าวโดยไม่อธิบายเหตุผล ก่อนที่คณะของผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะออกเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 13 และมีกำหนดการเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากสนามเฮลิคอปเตอร์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 13 เพื่อไปตรวจพื้นที่ยังกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งได้เกิดฝนตกอย่างหนักและมีสภาพอากาศปิดด้วย
—————————–
