X

ขับรถไม่ดึงเบรกมือ รถไหลลงคลองมิดกระบะ

ปราจีนบุรี – อุทาหรณ์!! ลุงวัย 64 ปี ขับรถไม่ดึงเบรกมือ ไม่ดับเครื่อง รถไหลลงคลอง จ.ปราจีนบุรี

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุ 191 สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งว่า มีรถยนต์ของประชาชนตกลงไปในน้ำ ที่บ้านโคกหอม ม.12 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้แจ้งสายตรวจรถยนต์ตรวจสอบเหตุดังกล่าว พบนายชูชาติ ยินงาม อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.5 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถยนต์กระบะอีซูซุสีเขียว ทะเบียน บง-7289 ปทุมธานี มาเข็นน้ำที่หนองปลาแขยง ไปใช้อุปโภคบริโภคในครัวเรือนเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

นายชูชาติ บอกว่า วันนี้บรรทุกน้ำใส่กระบะรถแล้วก็จะกลับบ้าน และทุกครั้งขากลับก็จะจอดรถเก็บก้อนหินที่มีคนนำเอาเศษหินหรือซากปรักหักพังมาทิ้งบริเวณดังกล่าวออกจากทาง ขณะจอดรถไว้ ไม่ได้ดับเครื่องและไม่ได้ดึงเบรกมือ เมื่อเปิดประตูรถออกก็ลงมาเก็บก้อนหินโยนออกจากทางลูกรัง กำลังที่ก้ม ๆ เงย ๆ เก็บก้อนหินออกจากทางก็หันมาดูรถของตัวเอง เห็นว่า รถไหลลงน้ำไปต่อหน้าต่อตา ทำอะไรไม่ถูก จึงโทรแจ้งตำรวจเพื่อขอให้หน่วยกู้ภัย ฯ มาช่วยดึงรถขึ้นจากบ่อน้ำที่มีความลึกประมาณ 4 เมตร กว้าง 20 เมตร ยาว 60 เมตร

ทั้งนี้ ระหว่างที่รอรถยกมาลากรถขึ้นจากน้ำ ญาติของลุงชูชาติที่มารอดูการดึงรถขึ้นจากน้ำ ปรากฎว่า องค์ลงผู้หญิงคนหนึ่ง ส่งเสียงเอะอะโวยวายดังลั่นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากสิ่งลี้ลับ ทำให้รถยนต์ของญาติตัวเองไหลลงน้ำ หมายจะเอาชีวิตของคนขับให้ตายในครั้งนี้ แต่นับว่า โชคดีที่คนขับไม่ได้อยู่ในรถขณะเกิดเหตุ ต่อมา หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรีและรถยก ได้มาทำการลากรถกระบะของลุงชูชาติขึ้นมาจากน้ำได้เป็นผลสำเร็จ โดยใช้เวลาดึงรถขึ้นมาจากน้ำ 10 นาที

————————
ข่าว-ภาพโดย/ลักขณา สีนายกอง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"