X

จับ 3 ราย สยบคลิปอ้าง จนท.เก็บส่วยกัมพูชา หัวละ 500-800 บาท เพื่อทำบัตรกลางตลาดเขาดิน จ.สระแก้ว

สระแก้ว – จับกุมเจ้าหน้าที่ ชรบ.และพวก รวม 3 ราย อ้างกำนันและอำเภอเรียกเก็บเงินแรงงานกัมพูชาหัวละ 500-800 บาท เพื่อทำบัตรต่างด้าวกลางตลาดเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว โดยผู้ว่าฯ สระแก้ว ยอมรับมีการอ้างฝ่ายปกครองเรียกเก็บเงินจริง สั่งดำเนินการเด็ดขาดและตั้งกรรมการสอบสวนหาผู้กระทำผิดทั้งขบวนการภายใน 7 วัน

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียในพื้นที่ จ.สระแก้ว นำภาพและคลิป กลุ่มบุคคลอย่างน้อย 3 คน บางคนสวมชุด ชรบ.อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ตั้งโต๊ะเรียกเก็บเงินจากแรงงานชาวกัมพูชาในพื้นที่ตลาดเขาดิน บริเวณหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว บอกว่าเพื่อส่งให้นาย หัวละ 500 บาท สำหรับคนที่มีบัตรเดิม และ 800 บาท สำหรับคนที่ไม่มีบัตร เพื่อดำเนินการจัดทำบัตรให้กับชาวกัมพูชา ซึ่งมีทั้งชาวกัมพูชาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและข้ามแดนมาโดยผิดกฎหมาย ประมาณ 200 คน ยืนต่อแถวสอบถามข้อมูลและจ่ายเงินให้กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว โดยมีชายเสื้อเหลืองคอยรับเงินและถือเงินอยู่ในมือจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการเร่งด่วนให้ นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าวร่วมกับ นายปรัชญา พิมพาแป้น นายอำเภอคลองหาด กระทั่งพบว่า มีการเรียกเก็บเงินดังกล่าวจากชาวกัมพูชาจริง จึงสั่งการให้นายอำเภอเข้าดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 3 โดยมีกำนันตำบลคลองหาดเป็นผู้ร่วมดำเนินการติดตามจับกุม นำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหาด เนื่องจากแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง มีการเรียกเก็บเงินแรงงานกัมพูชาจริง ประกอบด้วย นายสมพงษ์ จันทร์พิษ อายุ 37 ปี ,นายชวน ส่งศรี อายุ 54 ปี และนายสุริยะศักดิ์ แกมจินดา อายุ 39 ปี ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เงินที่เรียกเก็บทั้งหมดได้นำไปใช้ส่วนตัวและไม่ได้มีการส่งต่อให้หน่วยงานใด พร้อมกับนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด เพื่อดำเนินคดีและสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ

นายปรัชญา พิมพาแป้น นายอำเภอคลองหาด กล่าวว่า ประเด็นการเก็บเงินดังกล่าวทางอำเภอไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ทางอำเภอสั่งให้ดำเนินการประกาศและประชาสัมพันธ์ตามประกาศของกระทรวงแรงงาน เพื่อตรวจสอบแรงงานในพื้นที่ว่า มีการจ้างงานโดยผิดกฎหมาย หรือไม่มีนายจ้างตาม พรบ.หรือไม่ โดยนัดหมายให้ทุกหน่วยงานร่วมกับตรวจสอบในวันที่ 4 มิ.ย. พร้อมตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่ตลาดเขาดิน ประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างที่มีแรงงานต่างด้าว นำแรงงานเข้าขึ้นทะเบียนทำงานได้ฟรี เพื่อป้องกันการแอบอ้างดำเนินการของกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งเรื่องการเรียกเก็บเงินเราไมมีนโยบายและให้เป็นไปตามกฎหมาย คนที่อยู่ในคลิปต้องดำเนินคดีซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจ เก็บให้ใครต้องสอบหาข้อเท็จจริง ส่วนชาวกัมพูชาในตลาดเขาดินซึ่งจากการระดมเข้าไปตรวจสอบ ประชาสัมพันธ์ น่าจะมีประมาณ 200 หรือมากกว่าเล็กน้อย

ล่าสุด นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เปิดแถลงข่าวกรณีนี้โดยระบุว่า ผลการตรวจสอบเรื่องการตั้งโต๊ะเรียกเก็บเงินชาวกัมพูชา โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ถือเป็นความผิดที่ชัดเจนและทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบโดยให้ นายณัฐชัย นำพูลสุขสันต์ และนายธีระชัย ลิ้มประสิทธิศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นหัวหน้าทีมสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการโดยให้รายงานข้อเท็จจริง ภายใน 7 วัน พร้อมยืนยันว่า งานนี้ไม่เป็นมวยล้มแน่นอน

“ในภาพข่าวที่เผยแพร่ออกมาชัดเจนมาก สถานที่น่าจะอ้างอิงได้ มีหน้าของผู้ที่เกี่ยวข้อง มีการตั้งแถว เป็นหลักฐานที่มีความสำคัญ ซึ่งน่าจะเป็นข้อเท็จจริง มีการตั้งโต๊ะเก็บเงินตรงนี้จริง ๆ เกี่ยวข้องกับการเก็บเงินเพื่อจะทำบัตรจริงหรือไม่จริง ต้องไปตรวจสอบอีกที” นายเกียรติศักดิ์ กล่าวและว่า เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้บริหารจังหวัดสระแก้ว ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หลังจากนี้ไปใครที่อยากจะแจ้งข่าว สามารถแจ้งได้โดยตรงที่ผู้ว่าราชการจังหวัด เราจะต้องแก้ไขในเรื่องนี้ทันที

————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"