X

เตรียมประกาศเคอร์ฟิว 24.00-04.00 น. สกัดโควิดระบาด กัมพูชาตลาดโรงเกลือติดเชื้อ 13 ราย

สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเตรียมออกคำสั่งเพิ่มเติม ประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลา 24.00-04.00 น. เพื่อสกัดโควิดระบาด พร้อมสั่งคุมเข้มสอบสวนโรคชาวกัมพูชา ติดเชื้อโควิด 13 ราย ที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 11 ราย สะสม 357 ราย พบเด็ก 3 เดือนติดเชื้อภายในครอบครัวด้วย

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว ครั้งที่ 33/2564 ที่ห้องประชุมบูรพา ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 และการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งจังหวัด เพื่อกำหนดมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 ซึ่งมีการหารือในที่ประชุมและมีมติเตรียมออกประกาศคำสั่งจังหวัดเพิ่มเติม โดยจะประกาศห้ามออกจากบ้านหรือเคหะสถานในช่วงเวลา 24.00-04.00 น. หรือประกาศเคอร์ฟิวฯ ยกเว้นผู้ที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ทำงานประกอบอาชีพ การเดินทาง ขนส่งหรือกรณีที่มีเหตุผลสำคัญเท่านั้น เพื่อให้เกิดผลดีกับชุมชนและง่ายต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ควบคุมโรค ไม่ให้มีการระบาดของโรคลุกลามไปมากในกว่าปัจจุบัน

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยังระบุด้วยว่า ขอยืนยันว่า ไม่มีการปกปิดข้อมูลตัวเลขผู้ติดเชื้อ โดยให้มีการรายงานข้อเท็จจริงอย่างเดียวทุกวัน และสั่งการให้ทุกอำเภอไปเร่งทำความเข้าใจและถือปฏิบัติ เนื่องจากคำสั่งจังหวัดก่อนหน้านี้ ห้ามมีการดื่มสุรา ยกเว้นให้เฉพาะบุคคลในครอบครัวเท่านั้น หากเป็นบุคคลอื่นมารวมตัวกันดื่มสุราในบ้านถือว่าเป็นความผิด เพราะห้ามรวมกลุ่มดื่มโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ กรณีที่มีชาวกัมพูชาพบผู้ติดเชื้อรวมจำนวนมากถึง 13 ราย โดยเฉพาะโรงเกลือรีสอร์ทนั้น ได้สั่งการให้มีการเข้าไปตรวจเชิงรุกเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะมีการปิดตลาดโรงเกลือหรือไม่

นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ (3 พฤษภาคม 64) จังหวัดสระแก้วมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11 รายมาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาลและการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน เป็นชาย 4 ราย หญิง 7 ราย อายุระหว่าง 3 เดือนถึง 53 ปี สัญชาติไทย 3 ราย สัญชาติกัมพูชา 8 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่เมษายน 2564 ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน-2 พฤษภาคม 2564 จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 357 ราย เข้ารักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลของรัฐ เอกชน และโรงพยาบาลสนามรวมทั้งสิ้น 163 ราย รักษาหายแล้ว 194 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ร้อยละ 82.8 มีอาการเล็กน้อยร้อยละ 5.5 ปอดอักเสบ 15 ราย (ร้อยละ 9.2) และปอดอักเสบรุนแรง 4 ราย (ร้อยละ 2.4)

เมื่อจำแนกตามสถานที่และการติดเชื้อพบว่าส่วนใหญ่ได้รับเชื้อมาจากสถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้อยละ 45.94 รองลงมาเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน ร้อยละ 25.49 ติดเชื้อจากไปร่วมงานบวช งานแต่ง ร้อยละ 11.76 จากการรวมกลุ่มสังสรรค์ ดื่มสุรา ร้อยละ 8.68 และอื่นๆร้อยละ 8.12 สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้อยู่ที่อำเภออรัญประเทศ 9 ราย อำเภอวัฒนานคร 1 ราย และอำเภอวังน้ำเย็น 1 ราย อายุต่ำสุดเพียง 3 เดือน เป็นหลานของผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ที่ตำบลคลองหินปูน อำเภอวังน้ำเย็น เป็นการติดเชื้อภายในครอบครัว จากผู้ป่วยที่มีประวัติไปเที่ยวโบว์ลิ่งผับและไปทำงานพัทยาแล้วกลับมาดื่มสังสรรค์กันในบ้าน ทำให้กลุ่มนี้ติดเชื้อไปรวม 4 ราย

ในส่วนของอำเภอวัฒนานคร ทำงานอยู่โรงงานผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งเขตพญาไท กรุงเทพฯ สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันจึงเดินทางกลับบ้านมาตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลวัฒนานคร โดยได้ประสานทางบ้านให้เตรียมเครื่องใช้แล้วแยกไปกักตัวเองที่กระท่อมปลายนา ก่อนตรวจพบเชื้อในเวลาต่อมา

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว สำหรับผู้ติดเชื้อชาวกัมพูชาทั้ง 8 ราย ที่พบว่าในวันนี้ เป็นผู้สัมผัสจากการค้นหากลุ่มเสี่ยงหลังจากก่อนหน้านี้ออกหน่วยตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุก (Active Case Finding) บริเวณที่พักอาศัยแถวตลาดโรงเกลือ จำนวน 207 ราย พบเชื้อ 4 ราย วานนี้ (2 พค.)พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย สำหรับวันนี้พบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 8 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและไทม์ไลน์ เพื่อจะได้ติดตามผู้สัมผัสมาตรวจให้ได้มากที่สุด รวมทั้งกำหนดมาตรการต่างๆ ต่อไป

—————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"