X

ผู้ค้าควายนำรถและควายของกลางคดียาเสพติดที่ถูกปล้นส่งคืนที่ สภ.เขาฉกรรจ์ 4 ตัวแรก

สระแก้ว – ผู้ค้าควายพร้อมด้วยทนายความนำรถยนต์และควายของกลางในคดียาเสพติด ที่ถูกปล้นไปจำนวน 10 ตัว มาส่งคืนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว จำนวน 4 ตัวแรก

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 3 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีปล้นควายของกลางในคดียาเสพติด จำนวน 10 ตัว ในพื้นที่ ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 เม.ย.64 กระทั่งศาลจังหวัดสระแก้วอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย คือ นางนฤมล หรือ เจ๊มล นุราช อายุ 44 ปี ภรรยาผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคดียาเสพติด ,นายอำพล พานทอง หรือ บัง นครนายก อายุ 43 ปี และนายวันชัย บุญโอบ อายุ 33 ปี กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้ง 3 ราย เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด นายอรุณ โสภา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 ม.2 ต.สร้อยละคร อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ พ่อค้ารับซื้อวัวควาย ได้เดินทางมาที่ สภ.เขาฉกรรจ์ ด้วยรถยนต์กระบะอีซูซุ สีขาวดำ หมายเลขทะเบียน ผค-7004 นครสวรรค์ บรรทุกควายของกลาง จำนวน 4 ตัว มาส่งคืนให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ พร้อมกับรถยนต์อีก 2 คัน อีซูซุ ป้ายแดง ทะเบียน ก-0501 อุทัยธานี และอีซูซุ สีขาว ทะเบียน บท-3680 นครสวรรค์ ซึ่งใช้เป็นพาหนะในการขนย้ายควายของกลางทั้ง 10 ตัว ไปจากสถานที่เก็บรักษาของกลาง ธนยศฟาร์มควายสวยงาม ของนายธนยศ ศรีราชัย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเขาจันทร์ พื้นที่หมู่ 3 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว

ทั้งนี้ พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ ได้ลงมาตรวจสอบควายของกลางและรับมอบควายของกลางทั้ง 4 ตัว พร้อมกับระบุว่า จะต้องมีการตรวจยึดรถยนต์ทั้ง 3 คันไว้ก่อนตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนปากคำ นายอรุณ โสภา ผู้ค้าวัวควายและผู้ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ที่กระทำความผิดดังกล่าวไว้ก่อน ว่ามีส่วนรู้เห็นกับการปล้นควายของกลางครั้งนี้หรือไม่ เบื้องต้น ผู้ค้าวัวควายดังกล่าว แจ้งว่า ควายที่นำมาคืนครั้งนี้ได้ไปขอซื้อคืนจากผู้ที่รับซื้อควายไปแล้ว แบ่งเป็น ควาย 2 แม่ลูกซื้อคืนมาในราคา 65,000 บาท ,ควายตัวเมียตัวใหญ่ 56,000 บาทและความตัวเมียอีกตัว ราคา 44,000 บาท หลังจากนี้จะต้องนำควายของกลางไปส่งเก็บรักษาไว้ที่ ธนยศฟาร์มควายสวยงาม สถานที่เก็บรักษาควายของกลางเช่นเดิมก่อน

นายอรุณ โสภา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 ม.2 ต.สร้อยละคร อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ พ่อค้ารับซื้อวัวควายดังกล่าว เปิดเผยว่า รับซื้อควายทั้งหมด 10 ตัว จาก นายอำพล พานทอง หรือ บัง นครนายก มาในราคา 330,000 บาท ซึ่งนายอำพล ขอซื้อคืนแม่ควาย ลูกควายเผือกไว้ 2 ตัว ในราคา 100,000 บาท เอาไปส่งให้ที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ตนจึงชำระเงินให้นายอำพล จำนวน 230,000 บาท โดยให้เงินสดในวันนั้นเลย 100,000 บาท และโอนไปให้อีก 130,000 บาท ก่อนจะขนควายทั้งหมดไปขายที่ตลาดค้าวัวควายใน จ.นครสวรรค์ ซึ่งสามารถติดตามไถ่คืนควายที่มีคนซื้อไปและยังคงอยู่ใน จ.นครสวรรค์ คืนมาได้เพียง 4 ตัว ส่วนอีก 4 ตัว ทราบว่า มีผู้ซื้อไปพื้นที่ จ.ลำปาง ยังไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร

นายอรุณ กล่าวอีกว่า เคยเดินทางมาซื้อควายกับนายอำพล จำนวน 3 ครั้ง ที่คอกของนายอำพลและซื้อควายแบบยกฝูงในพื้นที่นครนายก ไม่เคยมาที่ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว หลังนายอำพลโทรไปแจ้งว่า จะขายควาย 7 โมงกว่า จึงนัดหมายกันที่เขาฉกรรจ์ สระแก้ว จึงจ้างรถ 2 คัน คันละ 8,000 และ 5,000 บาท มาช่วยขนควาย พร้อมกับรถตนเอง 1 คัน รวม 3 คัน ตกลงราคาแล้วก็เข้าไปขนควายออกมา คันแรกรถตนเองขนออกมา 4 ตัว คันที่ 2 และ 3 คันละ 3 ตัว รวม 10 ตัว ข้อมูลทั้งหมดให้การด้วยความจริง ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการยักยอกของกลาง จึงนำควายมาส่งคืนเพื่อความบริสุทธิ์ใจ

อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าคดีนี้ หลังตำรวจจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือนางนฤมล หรือ เจ๊มล นุราช อายุ 44 ปี ภรรยาผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคดียาเสพติด นายอำพล พานทอง หรือ บัง นครนายก อายุ 43 ปี และนายวันชัย บุญโอบ อายุ 33 ปี ในวันนี้ (3 พ.ค.) ร.ต.อ.นิติพัฒน์ ศรีหาบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขาฉกรรจ์ ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้นำตัวนางนฤมลไปยื่นขอฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดสระแก้ว ส่วนนายอำพล พานทอง หรือ บัง นครนายก ล่าสุด ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นศาลและได้รับการประกันตัวแล้ว

—————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"