X

ประกาศล็อคดาวน์หมู่บ้านเพื่อสังคม หลังติดเชื้อมากถึง 25 คน

สระแก้ว – ชาวบ้านคลองไผ่ ม.3 ต.ไทรทอง อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ประกาศล็อคดาวน์หมู่บ้านเพื่อสังคม หลังมีติดเชื้อในหมู่บ้านมากถึง 25 คน ร้องขอความช่วยเหลือด้านอาหารและเครื่องดื่ม โดย อบจ.สระแก้วจัดถุงยังชีพส่งมอบให้ทันที ส่วนยอดติดเชื้อทั้งจังหวัดเพิ่มอีก 8 ราย ทะลุ 306 ราย โดย จ.สระแก้ว จะมีผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วเกือบ 5,000 คน

เมื่อวันที่ 28 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมาน หลอดทอง ผู้ใหญ่บ้านคลองไผ่ ม.3 ต.ไทรทอง อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ได้ส่งหนังสือด่วน เพื่อขอความอนุเคราะห์อาหารและเครื่องดื่ม กับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ภายหลังคนในหมู่บ้าน จำนวน 98 ครัวเรือน ประมาณ 400 คน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้คนในชุมชนติดเชื้อโควิดจำนวนมากถึง 25 คน และมีกลุ่มบุคคลเสี่ยงสูงจำนวนมาก จำเป็นต้องปิดหมู่บ้าน เพื่อกักกันตัวคนในหมู่บ้านไม่ให้ออกไปด้านนอก เพื่อป้องกันโรคติดต่อและความรับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับครอบครัวและประชากรในหมู่บ้าน ซึ่งได้รับผลกระทบในการกักกันตัวเอง จึงขอความอนุเคราะห์มายัง อบจ.เพื่อพิจารณาสนับสนุนอาหารแห้งและเครื่องดื่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน มีระยะเวลากักกันตัว 14 วันนับจากนี้นั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางขวัญเรือน เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อบจ.และทีมเลขานุการฯ โดยมี นายธวัชชัย โตจีน ร่วมกัน ร.อ.ทองทศ มากสาคร รองประธานสภา อบจ.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่นำสิ่งของและถุงยังชีพจำนวนมาก นำส่งในพื้นที่บ้านคลองไผ่ ม.3 ต.ไทรทอง อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ทันที ในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับโรงพยาบาลอรัญประเทศ เริ่มให้บริการฉีดวัคซีน sinovac เข็มที่ 2 แก่ประชาชนคนสระแก้ว ตั้งแต่วันนี้ 28-30 เมษายน 2564 ณ อาคารเอนกประสงค์ เทศบาลเมืองอรัญประเทศ ตั้งแต่ เวลา 8.30 น.เป็นต้นไป โดยทั้งหมดเป็นผู้ที่ผ่านการฉีดวัคซีนเข็มแรก ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดน จำนวน 10,000 โด๊ส หรือประมาณ 5,000 คน ที่มีการฉีดเข็มแรก เมื่อวันที่ 7-9 เม.ย.64 ที่อาคารเอนกประสงค์เทศบาลเมืองอรัญประเทศ นอกจากนั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เตรียมเปิดให้มีการลงทะเบียน หมอพร้อม วันที่ 1 พ.ค.64 เพื่อลงทะเบียนเตรียมตัวฉีด วัคซีนกลุ่มแรก สำหรับผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มโรคเรื้อรัง 7 โรค รวม 16 ล้านคน โดยฉีดระหว่างเดือน มิ.ย.-ก.ค.64 ,ส่วนประชาชนทั่วไป อายุ 18-59 ปี ลงทะเบียน ก.ค. เริ่มฉีด ส.ค.64 นี้

ทางด้าน นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ (28 เมษายน 64) จังหวัดสระแก้วมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 รายมาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาลและการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน เป็นชาย 5 ราย หญิง 3 ราย อายุระหว่าง 21-40 ปี สัญชาติไทย ทำให้การระบาดระลอกใหม่เมษายน 2564 ตั้งแต่วันที่ 4–27 เมษายน 2564 จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 306 ราย เข้ารักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลของรัฐ เอกชน และโรงพยาบาลสนามรวมทั้งสิ้น 164 ราย รักษาหายแล้ว 142 ราย ส่งไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลสองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี 1 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 88 ไม่มีอาการ ที่เหลือมีอาการเล็กน้อย มีปอดอักเสบ 5 รายและปอดอักเสบรุนแรง 2 ราย ภาพรวมตอนนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ของจังหวัดสระแก้ว เป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงโบว์ลิ่งผับ 60 ราย รองลงมาเป็น REV UP ผับ 40 ราย , งานบวชบ้านสันติสุขตำบลผ่านศึก อ.อรัญประเทศ 50 ราย ร้านเกอิชา คาราโอเกะ อรัญประเทศ 17 ราย ,ร้านโรงพักอรัญ 13 ราย , ผับที่พัทยา 10 ราย เที่ยวอ่างเก็บน้ำพระปรง อ.วัฒนานคร 6 ราย งานแต่งที่บริเวณหน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอรัญประเทศ จำนวน 3 ราย จากพื้นที่เสี่ยงใน กทม. 8 ราย ส่งตัวกลับจากกัมพูชามารักษาที่ประเทศไทย 2 ราย และอื่นๆ จำนวน 60 ราย

นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ถึงรายละเอียดของผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสระแก้ว 2 ราย รายแรกเป็นเด็กหญิงอายุ 2 ขวบ 8 เดือน สัมผัสเชื้อจากพ่อแม่ที่เป็นผู้ป่วยยืนยันซึ่งมีความจำเป็นต้องนำลูกไปเลี้ยงที่โรงพยาบาลสนามวังสมบูรณ์ด้วย ผลทำให้ลูกติดเชื้อด้วย รายต่อเป็นแฟนผู้ป่วยยืนยันรายที่ 196 ซึ่งเป็นพนักงานร้านขายโทรศัพท์ ช่วงวันหยุดสงกรานต์พบแฟนป่วยเป็นโควิด-19 ตนเองจึงเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงจึงไปตรวจหาเชื้อครั้งแรกไม่พบเชื้อ ก่อนเข้ารับการกักตัวที่ศูนย์ Local quarantine (LQ) จนกระทั่งตรวจครั้งที่ 2 พบเชื้อ

ส่วนที่อำเภอวัฒนานคร พบผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย ทำงานขับรถอยู่ที่พัทยาจนกระทั่งเดินทางกลับบ้านและไปตรวจโควิดในวันต่อมาผลตรวจพบเชื้อ สำหรับอำเภอเขาฉกรรจ์ จำนวน 2 ราย รายแรกเดินทางมาจาก กทม. ตรวจตั้งแรกไม่พบเชื้อแต่ก็กักตัวอยู่ที่บ้านที่ กทม.มาตลอด จนกระทั่งเดินทางมาบ้านแฟนที่อำเภอเขาฉกรรจ์แล้วมาตรวจอีกครั้งที่หน่วยตรวจโควิดเชิงรุก โรงเรียนอนุบาลเขาฉกรรจ์ ผลพบเชื้อโควิด อีกรายเป็นหญิงประกอบอาชีพค้าขายอยู่ที่บ้าน ได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อที่หน่วยคัดกรองเช่นกันผลพบเชื้อโควิด ทีมสอบสวนโรคกำลังหาสาเหตุและความเชื่อมโยงของการเกิดโรค อีกรายเดินทางจาก กทม.มาตรวจที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ส่วน 2 รายสุดท้ายเป็นผู้ป่วยคนไทยที่ส่งตัวมาจากกัมพูชาเพื่อมารักษาต่อที่ประเทศไทย

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า ตอนนี้ในกลุ่มคลัสเตอร์เก่าที่มีการระบาดพบว่าสถานการณ์ดีขึ้น ทั้งสถานบันเทิง งานบวช ที่ออกค้นหากลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อให้เร็ว ตรวจแล้วนำเข้าสถานที่กักตัวทำให้สกัดเชื้อไม่ให้แพร่ระบาดออกไปมาก ในส่วนของการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในกลุ่มต่างๆ ที่ไม่ป่วย หรือ Active Case Finding ก็จำเป็นต้องทำเพื่อตรวจจับสะเก็ดไฟตามสถานที่ต่างๆ ไม่ให้ลุกลามหรือระบาดขึ้นมาเป็นวงกว้าง ในสัปดาห์นี้ได้ออกหน่วยตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุกไปในสถานที่ต่างๆ 5 อำเภอ คือ อำเภออรัญประเทศ อำเภอเขาฉกรรจ์ อำเภอคลองหาด อำเภอวังน้ำเย็น และอำเภอวังสมบูรณ์ กลุ่มเป้าหมาย สถานประกอบการ หน่วยราชการ สถานประกอบพิธีทางศาสนา ตลาดและประชาชนกลุ่มเสี่ยง ผลการตรวจ ณ วันที่ 27 เมษายน 2564 ส่งตรวจไป 7,406 ตัวอย่าง พบเชื้อ 35 ตัวอย่าง อัตราการพบเชื้อเท่ากับ 0.47 และรอผล 265 ตัวอย่าง โดยมีแผนการออกตรวจวันที่ 29 เมษายน 64 อำเภอวังน้ำเย็น เช้าที่ อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนวังหลังวิทยาคม และบ่ายอาคารเอนกประสงค์ อบต.ตาหลังใน และอำเภออรัญประเทศ 29-30 เมษายน 64 บริเวณหอประชุมเทศบาลตำบลบ้านใหม่หนองไทร และที่อำเภอวังสมบูรณ์ 30 เมษายน เวลา 10.00-12.00 น. ที่ศาลเจ้าวังใหม่ , 13.00-14.30 น.ศาลเจ้าวังสมบูรณ์ และ14.30-16.30 น. ที่เทศบาลตำบลวังทอง

—————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"