X

ถูกแอบอ้าง!! สาวเมืองเลยเข้าพบตำรวจ ยืนยันไม่ใช่ผู้ติดเชื้อโควิดฯ หลบหนี ถูกแอบอ้างนำบัตรไปตรวจหาเชื้อหลังบัตรหายเมื่อปี 63

สระแก้ว – สาวเมืองเลย เดินทางเข้าพบตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว ยืนยันไม่ใช่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่หลบหนี ไม่ยอมเข้ารับการรักษาตัว เนื่องถูกแอบอ้างนำบัตรประชาชนไปตรวจหาเชื้อ หลังบัตรหายระหว่างมาทำงานที่ จ.สระแก้ว เมื่อปี 2563 เปิดใจไม่อยากให้สังคมเข้าใจผิด กล่าวหาว่า เธอเป็นผู้ติดเชื้อและไม่ยอมเข้ารับการรักษาตัว หลังตกเป็นข่าว ส่วนตำรวจเตรียมออกหมายจับ 2 ผู้ติดเชื้อฯที่หลบหนีจันทร์นี้

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสระแก้ว ร่วมกับ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้วและสาธารณสุขอำเภอ โดยมี นายบุรินทร์ ล่วงเขต ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง เป็นตัวแทนเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.(หญิง)เกศรินทร์ วีระพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว กรณีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยัน 2 ราย คือ น.ส.ฉันทนา บุญทา อายุ 38 ปี และนางกมลวรรณ สุ่มมณี อายุ 46 ปี หลบหนีไม่ยอมเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.สนาม อบจ.สระแก้วนั้น ล่าสุด วันนี้ น.ส.ฉันทนา บุญทา อายุ 38 ปี ได้เดินทางมาจาก จ.สระบุรี เพื่อเข้าพบ ร.ต.ท.(หญิง)เกศรินทร์ วีระพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันและยืนยันตัวตนว่า ไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อโควิดฯที่หลบหนีดังกล่าว เนื่องจากถูกแอบอ้างนำบัตรประชาชนไปตรวจหาเชื้อฯจนถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ติดเชื้อที่หลบหนีการเข้ารับการรักษาดังกล่าว จึงเดินทางมาจากที่ทำงาน มาแสดงตัวเพื่อความบริสุทธิ์ใจและให้สื่อมวลชนแก้ข่าวให้ เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างมาก

น.ส.ฉันทนา บุญทา อายุ 38 ปี เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า เดินทางมาเพื่อยืนยันตัวตนว่า ที่ถูกกล่าวหาว่า ฉันทนาไปตรวจแล้วผลออกมาติดโควิดฯ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ คือเราถูกใช้บัตรประชาชนแอบอ้างไปตรวจ จึงมาแจ้งกับตำรวจว่า เรากับคนที่ไปตรวจเป็นคนละคนกัน ซึ่งตอนนี้บุคคลรอบข้างได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ถูกระแวงไม่ให้เข้าใกล้ ไปซื้อของเค้าก็ไม่ค่อยอยากขายให้เรา เพราะสื่อออกไปแล้วว่า คน ๆ นี้ติดและหนีการรักษา จึงมายืนยันกับตำรวจว่า เราไม่ใช่คน ๆ นั้น สืบเนื่องจากเราทำบัตรประชาชนหายเมื่อปีที่แล้ว ช่วงที่เดินทางมา จ.สระแก้ว และไม่ได้แจ้งความว่าบัตรหาย ช่วงมาเป็นผู้จัดการที่โรงแรมโนโวเทล ประมาณ 1 เดือน ดูแลเรื่องแผนกสปา ช่วงปลายเดือน มี.ค.- เม.ย.63

“หลังมาทำงานที่สระแก้ว ก็กลับไปอยู่บ้านที่ จ.เลย ในช่วงโควิดฯ ก่อนจะไปทำงานที่สระบุรีช่วงต้นเดือนเมษายน กระทั่งเกิดเรื่องนี้ขึ้น จึงเดินทางมาให้การกับตำรวจและเป็นพยานยืนยันว่า ไม่ใช่คนติดเชื้อ อยากให้ทุกคนสบายใจ ญาติพี่น้องที่ จ.เลย ได้รับผลกระทบหมดเลย ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้อยู่ ณ จุดๆนั้น แต่สายตารอบข้างทุกคนที่เค้ามอง มันเป็นเหมือนฉันเป็นเชื้อโรคนะ อย่ามาเข้าใกล้ เราอยากจะให้ยอมรับว่า เราไม่ได้เป็น รวมทั้งไม่ติดใจข่าวหรือเจ้าหน้าที่ เพราะทุกอย่างสามารถผิดพลาดกันได้ เพราะมีหลายกรณีที่สามารถแอบอ้างได้ ” น.ส.ฉันทนา กล่าวและว่า

ตนออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.64 ถ้าจะติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 17 และ 18 เม.ย.64 ที่ผลออกมา ถ้าเป็นโรคจริง ๆ น่าจะตายไปนานแล้ว ก็ให้ญาติยืนยันกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.เลย เช่นนั้น เพราะตอนนั้นอยู่ที่ จ.สระบุรี มาจากบ้านที่ จ.เลย ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. สงกรานต์ก็ไม่ได้ไปไหน ก็ยืนยันไปกับเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่า เป็นคนละคนกัน ฉันทนาไม่ได้ติดโควิด เป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน เราจึงเงียบไป กระทั่งมีการออกข่าวทุกช่อง วันนี้เราจึงต้องเดินทางมายืนยันเรื่องนี้ รวมทั้งมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไปด้วยเลย เพื่อความชัดเจนและสบายใจ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสอบสวน น.ส.ฉันทนา เสร็จสิ้น ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เพื่อให้เดินทางมาเก็บตัวอย่าง Swap ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของ น.ส.ฉันทนา ที่ สภ.เมืองสระแก้วด้วย เพื่อความมั่นใจและเกิดความเชื่อมั่น ซึ่ง น.ส.ฉันทนาก็ยินดี ซึ่งผลตรวจโควิดฯจะออกในวันพรุ่งนี้(25 เม.ย.) นอกจากนั้น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว แจ้งว่า สำหรับคดีที่มีการแจ้งความสำหรับผู้ติดเชื้อที่หลบหนี 2 รายนั้น คาดว่า วันจันทร์ที่ 26 เม.ย.นี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ นางกมลวรรณ สุ่มมณี อายุ 46 ปี และ น.ส.กมลชนก วิชาฉิม อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่แอบอ้างนำบัตรประชาชนของ น.ส.ฉันทนา บุญทา อายุ 38 ปี ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต่อศาลจังหวัดสระแก้ว เพื่อดำเนินการติดตามจับกุมต่อไป

————————–

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"