X

เปิดเล่ห์ !! แก๊งลักลอบขนข้าวเปลือกเขมรเข้าไทย

สระแก้ว – เปิดเล่ห์แก๊งลักลอบขนข้าวเปลือกนำเข้าจากกัมพูชา โดยแจ้งรายชื่อเกษตรกรเพื่อขนย้ายข้าวเปลือกเข้าตลาดส่วนกลางเป็นเท็จ หลังตรวจสอบย้อนกลับพบว่า บางรายไม่ได้ทำนา ไม่มีที่อยู่ในหมู่บ้าน ส่วนเกษตรกรชาวนาวอนหน่วยงานรัฐดูแลเข้มงวดไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าช่วงที่ผลผลิตข้าวของคนไทยออกสู่ตลาด หวั่นราคาตก

เมื่อวันที่ 9 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว ร่วมกันจับกุม รถบรรทุกข้าวเปลือก 3 คัน พร้อมของกลางข้าวเปลือกอีก 5 กอง น้ำหนักรวมกว่า 80 ตัน ขณะวิ่งเข้าไปในลานรับซื้อข้าวตามแนวชายแดน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และตรวจสอบพบว่า เป็นการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกจากประเทศเพื่อนบ้านจริงและมีการขนข้าวจำนวนมากเข้าสู่ตลาดส่วนกลางของประเทศ ซึ่งในทางปฏิบัติกฎระเบียบการขนข้าวจากพื้นที่ชายแดนไปยังปลายทาง ต้องระบุที่มาของข้าวอย่างชัดเจนว่า ซื้อมาจากเกษตรกรรายใด จำนวนเท่าไหร่ เหตุใดข้าวเหล่านี้จึงไปสู่ปลายทางยังจุดรวมข้าวและท่าข้าวขนาดใหญ่ในภาคกลาง เพื่อรอการส่งออกได้ ได้โดยไม่ถูกจับกุมในช่วงที่่ผ่านมา

ทั้งนี้ การตรวจสอบจึงเริ่มจาก ขั้นตอนที่ลานข้าว โรงสีหรือแหล่งรับซื้อข้าวเปลือกดำเนินการก่อนขนข้าวเปลือก จนพบว่า ทุกรายต้องยื่นเอกสาร ที่ระบุผู้ประกอบการ ใบคำขอขนข้าว ใบรายชื่อเกษตรกร ที่อยู่และจำนวนข้าวที่รับซื้อมา พร้อมรับรองท้ายหนังสือด้วยว่า “ขอยืนยันว่า ได้รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรตามที่แจ้งจริง หากไม่เป็นจริงตามแจ้ง ยินยอมรับผิดชอบทางอาญา” เพื่อให้หน่วยงานราชการตรวจสอบทุกรายจึงจะสามารถขนข้าวเปลือกได้

แต่เมื่อมีการตรวจสอบย้อนกลับไปยังเกษตรกรที่ต้นทางจริง กลับไม่เป็นเช่นนั้น ลานรับซื้อข้าวกลับใช้วิธีทำรายชื่อเกษตรกรขึ้นเอง โดยหนึ่งในนั้นอ้างชื่อ ชาวตำบลทัพไทย อำเภอตาพระยา ซึ่งเป็นอำเภอติดกับชายแดนเป็นผู้จำหน่ายข้าวเปลือกให้ แต่เมื่อตรวจสอบกลับไม่พบว่ามีตัวตน

โดย น.ส.ศศิธร ไม่เปิดเผยนามสกุล ถูกระบุว่า อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.2 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นผู้ขายข้าวหอมมะลิใหม่ จำนวน 12,810 กก.ให้กับลานข้าวแห่งหนึ่ง และถูกนำรายชื่อไปประกอบการยื่นขอขนข้าว เช่นเดียวกับชื่อของชายอีก 1 ราย ถูกระบุว่า อยู่บ้านเลขที่ 220 ม.2 ต.ทัพไทย เช่นกัน แจ้งว่า เป็นผู้ขายข้าวหอมมะลิใหม่ จำนวน 8,410 กก. ด้วย

นายผลัด พะไลรัมย์ อายุ 54 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.ทัพไทย เปิดเผยว่า เลขที่บ้าน 220 ไม่มีในหมู่บ้านนี้และยืนยันว่า คนที่ใช้ชื่อตามเอกสารก็ไม่มีในหมู่บ้านนี้ ส่วนบ้านเลขที่ 48 ม.2 มีบ้านเลขที่ แต่ตัวคนไม่มี และบ้านนี้ก็ไม่ได้ทำนามาหลายปีแล้ว อาชีพรับจ้าง ส่วนใหญ่จะให้เขาเช่า ซึ่งปกติการนำข้าวไปขายของชาวบ้านส่วนใหญ่จะมีการจดชื่อ บ้านเลขที่และข้าวเราก็ตัน เพื่อตรวจสอบว่า เราขายจริง เวลาขนส่งก็จะได้เอาชื่อไปยืนยัน แต่กรณีนี้ไม่มีจริง ซึ่งเขาเรียกว่า สวมสิทธิ์

นายธีรชัย ไชยฤทธิ์ อายุ 44 ปี ชาวนา ม.3 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว กล่าวว่า การลักลอบนำเข้าข้าวในพื้นที่มีประมาณ 70-80 หลังคาเรือน แต่เป็นแบบรถเข็น รถอีแต๊ก เป็นลักษณะวิถีชุมชน ไม่เหมือนรายใหญ่ที่นำเข้ามาจำนวนมากเป็นรถบรรทุก ซึ่งตนขายข้าวไปเมื่อสามวันที่แล้ว ได้ราคา กก.ละ 13.10 บาท แต่ตอนนี้ราคาขึ้นแล้ว สำหรับตนเองไม่เห็นด้วยกับการลักลอบนำเข้า ต้องรอให้ข้าวเกษตรกรไทยออกหมดก่อนหรือไม่มีข้าวจริง ๆ อยากให้ชายแดนเข้มงวด

ส่วน นางยุพิน ภักดีนอก อายุ 52 ปี เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จำนวน 10 ไร่ บ้านเลขที่ 299 ม.5 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว กล่าวว่า การลักลอบนำเข้าข้าวจากกัมพูชา มีผลต่อเกษตรกรไทยเหมือนกัน ข้าวเราขายไม่ได้เลย ตกต่ำมาก ก็เรียกร้องกัน อีกอย่างปีนี้ข้าวหลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมในภาคอีสาน ซึ่งที่ประกาศออกมารับซื้อ 13 บาทต่อ กก.ข้าวเปียกที่เพิ่งเกี่ยวเสร็จก็ถือว่าได้ราคา จึงอยากให้ควบคุมให้ได้อย่างนี้ เกษตรกรจะได้ไม่เดือดร้อน

ทางด้าน นายประจักษ์ ประสงค์สุข หัวหน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า เนื้อที่ปลูกข้าวในจังหวัดสระแก้วมีประมาณ 800,000 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 300 กว่ากิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งปัญหาการลักลอบนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงที่ผลผลิตข้าวของเกษตรกรกำลังออกสู่ตลาดในช่วงนี้ เชื่อว่าจะมีผลต่อราคาซื้อขายอย่างแน่นอน

ล่าสุด พ.ต.ต.จิรเดช พุฒินาทพัฒน์ สว.ตม.จว.สระแก้ว ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เพื่อกำชับการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และตรวจสอบความเรียบร้อย​บริเวณพื้นที่ชายแดน ณ จุดผ่อนปรนบ้านตาพระยา ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พร้อมทั้งกำชับการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจบุคคลและยานพาหนะ โดยปฏิบัติตามข้อตกลงในประกาศร่วมของการเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า ระเบียบ ข้อบังคับ แนวนโยบายของจังหวัดโดยเคร่งครัด พร้อมทั้งให้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานข้างเคียงทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา อย่างต่อเนื่อง โดยห้ามเรียกรับผลประโยชน์ใด ๆ โดยเด็จขาด

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเป็นห่วงว่า ผลของการลักลอบนำเข้าข้าวจากกัมพูชา จะส่งผลให้ราคาข้าวของเกษตรกรชาวนาไทย ที่ราคากำลังดีในขณะนี้ มีราคาตกได้ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากที่ผ่านมา จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบผู้ค้าข้าว ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่คนหนึ่ง มีบทบาทสำคัญในการลักลอบนำเข้าจากกัมพูชาเข้าไทย โดยมีแหล่งรับซื้อข้าวเปลือกหลายสิบแห่งในจังหวัดสระแก้วอยู่ในเครือข่าย จากจำนวนลานที่มีอยู่กว่า 100 แห่งตามแนวชายแดน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เตรียมดำเนินคดีในเร็ว ๆ นี้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"