X

คลิปครูสระแก้วตีเด็กนักเรียน ม.3 สุดโหด ถูกตั้งกรรมการสอบทัณฑ์บน

สระแก้ว – เปิดคลิปครูโรงเรียนมัธยมใน จ.สระแก้ว ลงโทษด้วยการตีเด็กนักเรียน ม.3 สุดโหด ถูกตั้งกรรมการสอบทัณฑ์บนหลังมีการเผยแพร่คลิปการลงโทษออกไป ครูผู้ก่อเหตุ ทำได้แค่ขอโทษนักเรียนและผู้ปกครอง ที่ไม่พอใจกับการลงโทษดังกล่าว

เมื่อวันที่ 20 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังมีการเผยแพร่คลิปครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทำโทษนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยการสั่งให้มายืนหน้าห้อง แล้วให้นอนคว่ำหน้าราบไปกับพื้นห้อง ก่อนจะใช้ไม้เรียวหวดลงไปที่ก้นเด็กนักเรียนอย่างเต็มแรง เสียงดังสนั่นห้องเรียน จนเด็กต้องพะยูงตัวพร้อมกับใช้มือกุมที่ก้นด้วยความเจ็บปวด เดินกลับไปที่นั่งของตนเอง ซึ่งเพื่อนนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์สามารถถ่ายคลิปไว้ได้ก่อนส่งให้ผู้ปกครอง ญาติ และผู้นำชุมชนในพื้นที่ กระทั่งมีการเผยแพร่ภาพคลิปดังกล่าวออกไปสู่สาธารณะ ส่งทำให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ต้องเดินทางลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบคลิปวีดีโอ ครูตีเด็กนักเรียนดังกล่าวในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จนกระทั่งพบว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายใน โรงเรียนทัพพระยาพิทยา อำเภอโคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เบื้องต้น ผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าว ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบพร้อมทำทัณฑ์บนครูที่ก่อเหตุแล้ว

กระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ นายสวัสดิ์ กันพุฒ อาจารย์ประจำชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนทัพพระยาพิทยา อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการลงโทษนักเรียน พร้อมทั้งกล่าวขอโทษกับ นายสมหมาย ศรีทองเบ้า และนางกาญจนี อารมณ์เพียร ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของน้องคลิ๊ก เด็กนักเรียนชั้น ม.3 ที่ถูกลงโทษสุดโหดตามคลิป โดยน้องคลิ๊กถูกครูเรียกไปนอนบนพื้นหน้าห้องเรียน ก่อนจะใช้ไม้เรียวตีอย่างแรงไป 1 ครั้ง ซึ่งผู้เป็นพ่อบอกว่า เห็นภาพคลิปแล้วถึงกับโมโหควันออกหูจนพูดไม่ออก แต่ก็ให้อภัย เพราะตนเองเคยเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังภาพคลิปตีเด็กนักเรียนดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงสื่อโซเชียลมีเดียช่วงค่ำวานนี้ ได้มีผู้ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นไปต่าง ๆ นานา ส่วนใหญ่เป็นการต่อว่าการกระทำของครูต่อเด็กนักเรียน โดยเฉพาะ ประเด็น การทำโทษของครูที่ถือว่า รุนแรงเกินกว่าเหตุ

ล่าสุด นายประสาน เลือดทหาร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว พร้อม นายจำเนียร พวงแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนทัพพระยาพิทยา ได้เรียกคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาของโรงเรียน พร้อมครูที่ก่อเหตุตีเด็กสุดโหด รวมทั้งพ่อแม่ และตัวเด็กนักเรียน มาร่วมพูดคุยและสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เบื้องต้น มติที่ประชุมของคณะกรรมการและผู้บริหารสถานศึกษา ได้ลงโทษทางวินัยกับครูที่ก่อเหตุ พร้อมทำทัณฑ์บนครูที่ใช้ไม้เรียวตีเด็กนักเรียน ส่วนผู้ปกครองเด็ก หลังจากพูดคุยกันแล้ว ก็ไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน นายสวัสดิ์ กันพุฒ ครูประจำชั้น ม.3 ครูที่ใช้ไม้เรียวตีเด็ก เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ ในชั่วโมงเรียนคาบสุดท้าย โดยเป็นการเรียกเด็กนักเรียนให้มาส่งงานกับครู ขณะนั้น เด็กนักเรียนที่ส่งงานแล้ว เมื่อกลับไปนั่งก็ได้พูดคุยส่งเสียงดัง จนทำให้ครูเสียสมาธิและเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว จนต้องใช้ไม้เรียวตีไปบนกระดานห้องเรียน เพื่อให้เด็กนักเรียนเงียบ จากนั้น จึงได้เรียก “น้องคลิ๊ก” ให้นำงานมาส่ง ซึ่งเป็นคนสุดท้ายของห้อง ก่อนจะเกิดเหตุไปตามคลิป โดยส่วนตัวก็ยอมรับว่า เป็นการทำรุนแรงเกินไปจริง ๆ แต่ที่ทำไปแบบนั้นเพราะตั้งใจให้เด็กส่งงานให้ครบทุกคน เพื่อจะได้จบการศึกษาไปพร้อม ๆ กับเพื่อนร่วมห้อง แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา คงต้องหักไม้เรียวทิ้ง และจะไม่ใช้ไม้เรียวตีเด็กอีกต่อไปแล้ว

ทางด้าน นายจำเนียร พวงแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนทัพพระยาพิทยา กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา ยอมรับว่า เพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อช่วงเช้าวันนี้ พอเห็นคลิปแล้ว รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ตนและคณะกรรมการสถานศึกษาเพิ่งได้ไปประชุมในกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการได้เน้นย้ำให้ผู้บริหารสถานศึกษาทั่วประเทศ ห้ามกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุกับเด็กนักเรียนทุกกรณี จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นในโรงเรียน

——————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"