X

ปกครองเมืองสระแก้ว เข้าตรวจสอบจับกุมเผาไร่อ้อยแก้ปัญหามลพิษ พร้อมเข้มงวดมาตรการลดปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่ จ.สระแก้ว

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง จ.สระแก้ว จัดชุดเข้าตรวจสอบและจับกุมเกษตรกรเผาไร่อ้อยพื้นที่ อ.เมืองสระแก้ว เพื่อแก้ปัญหามลพิษและลดฝุ่นละอองในพื้นที่ จ.สระแก้ว

เมื่อวันที่ 11 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว ภายใต้นโยบายป้องกันมลพิษและลดฝุ่นละอองของ นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบเขตพื้นที่อำเภอเมือง หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองสระแก้วว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มบุคคลและเกษตรกรได้จุดไฟเผาไร่อ้อย ริมถนนทางหลวงหมายเลข 33 สุวรรณศร พื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว นายราเยส ราย รักษาการในตำแหน่งนายอำเภอเมืองสระแก้ว จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสระแก้ว นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ทันที โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงจุดเกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากปกคลุมไปทั่วบริเวณและถนนทางหลวงสาย 33 เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้สัญจรไปมาในช่วงดังกล่าว

นายราเยส เปิดเผยว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงจุดเกิดดังกล่าว พบว่า เพลิงกำลังลุกไหม้แปลงไร่อ้อย และพบเห็น นายสมศรี ด่านลาเคน หรือ ขาว ซึ่งยืนอยู่ที่ไร่อ้อยจุดดังกล่าว โดยนายสมศรี ให้การยอมรับว่า ตนเองได้เป็นผู้จุดไฟเผาไร่อ้อย เพื่อจะนำรถตัดและเก็บเกี่ยวอ้อยเข้าทำการตัดเก็บเกี่ยวอ้อยในพื้นที่ เนื่องจากไร่อ้อยของตนมีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ มีลักษณะต้นอ้อยหักล้มและยากต่อการตัดเก็บเกี่ยวโดยใช้รถโดยตรง จึงได้ทำการจุดเผาไร่อ้อยก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการตัดเก็บเกี่ยว จึงเป็นผลทำให้เกิดมีควันและฝุ่นละอองปกคลุมพื้นที่โดยรอบดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเผาของทางจังหวัดและรัฐบาล พร้อมกับจัดทำบันทึกจับกุม พร้อมทั้งนำตัว นายสมศรี ผู้ต้องหา ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ สำหรับมาตรการลดปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษดังกล่าว ทางรัฐบาลได้สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการเพื่อลดปัญหาหมอกควัน โดยนายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ได้ออกประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว เรื่อง ห้ามเผา ไร่นา ขยะและสร้างฝุ่นละอองขนาดเล็ก เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา โดยหากมีการฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตาม พรบ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 25 ,26 ,28 ,และมาตรา 34 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 ฐานกระทำการให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใด ๆ แม้จะเป็นของตนเองจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น ๆ หรือทรัพย์สินผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุก 7 ปี และปรับไม่เกิน 150,000 บาท

นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จังหวัดสระแก้วเป็นจังหวัดชายแดนและทำการเกษตรเยอะ ปลูกข้าวและอ้อย ซึ่งอ้อยเป็นพืชที่ยังคงมีปัญหาเรื่องการเผาเพราะว่า รูปแบบในการปลูกที่ต้องใช้แรงงานในการตัด ส่งผลให้เกิดการเผาเพื่อสะดวกในการเข้าไปตัด ฉะนั้น อ้อยไฟไหม้ยังเป็นปัญหาอยู่ ซึ่งปีนี้รัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับลดสัดส่วนระหว่างอ้อยไฟไหม้กับอ้อยที่ไม่มีการเผาให้อยู่ในสัดส่วน 20:80 ซึ่งให้เผาไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ของอ้อย ซึ่งพื้นที่ปลูกอ้อยในจังหวัดไม่น่าเกิน 4 แสนไร่ ยังมีปัญหาทั้งสองส่วน จึงได้ประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานและชาวไร่อ้อยถึงมาตรการว่า ทำอย่างไรจะสามารถทำอย่างยั่งยืน อาจจะต้องมีมาตรการเสริมในการจัดหาเครื่องมือเครื่องจักรตัดอ้อยทดแทนแรงงาน เป็นหนึ่งนโยบายที่ทางจังหวัดต้องรวบรวมเสนอเพื่อให้เกิดการแก้ไขระยะกลาง ระยะยาว ให้เกิดความยั่งยืนเพื่อลดการเผา เพื่อให้สามารถดำเนินการได้คือ 1.การไม่เผา และ 2.การขนส่ง ปัญหาจากรถบรรทุกและโรงงานเพื่อไม่ให้เกิดควันมลพิษ

“สำหรับการเผาถือว่าไม่ถูกกฎหมาย เราออกกฎและประกาศแจ้งทุกพื้นที่ โดยเฉพาะฤดูเก็บเกี่ยว ทำอย่างไรกฎหมายจะนำไปสู่การปฏิบัติ ทำอย่างไรจะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และการใช้เครื่องมือเครื่องจักรอาจจะมีความจำเป็น ตัดไปแล้ว ใบเอาไปทำอะไร ลดขยะทำเป็นแท่งเชื้อเพลิง อยากให้มีการแก้ไขแบบยั่งยืน ไม่สร้างปัญหาต่อเนื่อง เพราะตอนนี้เราแก้เป็นรายปี ตราบใดเรายังไม่มีเครื่องจักร ยากมาก ปัญหาการเผายังต้องแก้ไขอยู่ ส่วนปัญหาการเผาในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านนั้น หากเกิดปัญหาก็จะมีการยกเรื่องปัญหาเข้าหารือกันขอความร่วมมือเพื่อลดการเผา ฝั่งกัมพูชาก็มีกฎหมายเอง ฉะนั้นเพื่อประโยชน์ของสิ่งแวดล้อมของทั้งสองประเทศ คงต้องขอความร่วมมือไปหากเกิดปัญหา” ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการลดปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษจากการกระบวนการขนส่งอ้อยและอื่น ๆ นั้น ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมบูรณาการตั้งด่านตรวจ เพื่อลดปัญหามลพิษและฝุ่นละออง PM2.5 จากรถขนส่งด้วยเช่นกัน โดยนายยุทธศักดิ์ ประเสริฐ นักวิชาการขนส่งชำนาญการพิเศษ สำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า มาตรการป้องกันไม่ให้รถอ้อยมีอุปกรณ์ส่วนควบที่ไม่ถูกต้อง น้ำหนักเกิน เพื่อลดปัญหามลพิษ ได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายเพื่อความปลอดภัยทางถนน ตั้งด่านตรวจสอบเป็นมาตรการของจังหวัด มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะขนส่งสระแก้ว ออกมากำกับดูแลและเข้มงวดกวดขัน ซึ่งรถอ้อยก็เริ่มทำได้ดีขึ้นแล้ว โดยจะยังคงมาตรการนี้ไปจนกว่าจะมีการปิดหีบโรงงานอ้อยประมาณเดือน พ.ค.นี้

——————————

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"