X

ขับเคลื่อน”สระแก้วเมืองสมุนไพรเกษตรอินทรีย์” แบบมีส่วนร่วม

สระแก้ว – จังหวัดสระแก้ว มีการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองสมุนไพร ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสระแก้ว มีคณะทำงานแบบบูรณาการที่มีส่วนร่วม เข้ามาดูแลด้านการปลูกและแปรรูปสมุนไพร ด้านการผลิต ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และด้านการตลาดและการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการสร้างอาชีพอย่างเป็นรูปธรรม สร้างรายได้ สร้างชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวสระแก้วให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแก้ว ได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องการปลูกและแปรรูปสมุนไพรที่ผ่านมา ได้ขับเคลื่อนการให้ความรู้และฝึกอบรมด้านการปลูกและแปรรูปสมุนไพร ตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม หรือ SDGsPGS มีเกษตรกรที่ผ่านการรับรองแปลง จำนวน 241 ราย และกำลังดำเนินการรับรองแปลงเพิ่มเติม จำนวน 77 ราย มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์กว่า 2,545 ไร่ ที่จะรองรับการปลูกพืชสมุนไพร นอกเหนือจากจากปลูก ข้าว พืชผัก ผลไม้ โดยในการขับเคลื่อนปลูกพืชสมุนไพร จังหวัดสระแก้ว โดยวิสาหกิจชุมชนทั้ง 9 อำเภอ จำนวน 14 กลุ่ม มีสมาชิกจำนวน 298 ราย พื้นที่ปลูก 450 ไร่ พืชสมุนไพรที่สำคัญ ได้แก่ ขมิ้นชันพันธุ์แดงสยาม มะระขี้นก ฟ้าทะลายโจร ในปี 2563 สามารถสร้างมูลค่ากว่า 19 ล้านบาท โดยมีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับหลายบริษัท และหน่วยงานองค์กรภาครัฐ ที่มีความต้องการปริมาณมากและเพิ่มขึ้นทุกปี

ล่าสุด คณะผู้บริหารจังหวัดสระแก้ว นำโดยนายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นางขวัญเรือน เทียนทอง ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า การขับเคลื่อนส่งเสริมการผลิตสมุนไพรเกษตรอินทรีย์พร้อมรับฟังปัญหา ความต้องการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรจังหวัดสระแก้ว มีอะไรขาดเหลือที่จะให้ส่วนราชการสนับสนุนช่วยเหลือ

ทั้งนี้ นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้เราเดินทางมาในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว มีต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำมีกระบวนการผลิต การแปรรูป การจำหน่ายมีการพัฒนาครบทุกกระบวนการ เชื่อมั่นว่า จากนี้ไปจะมีการทำงานร่วมกัน มีการบริหารจัดการมั่นคงยิ่งขึ้น สิ่งที่ต้องทำต่อไป ต้องมีการแปรรูปที่มีคุณภาพ สร้างคู่ค้าที่ดีและขยายพื้นที่ให้มากขึ้น และทีมงานภาครัฐพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง

ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอรัญประเทศ กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจตนเองปลูกสมุนไพรฟ้าทลายโจร มีการรวมกลุ่มกันเมื่อปี 2561 ในปีที่ผ่านมาได้ส่งสมุนไรให้กับบริษัทอ้วยอันโอสถ จำกัด จำนวน 8 ตัน และมีอยู่ในมืออีก 5-6 ตัน และจะขยายพื้นที่ไปยังตำบลอื่น ๆอีก แต่มีปัญหามีโรงตากไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน จะตากสมุนไพรไม่ทัน จึงอยากได้โรงตากที่มีขนาดใหญ่เพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน นางขวัญเรือน เทียนทอง ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการส่งเสริมการผลิตพืชสมุนไพรเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรบ้านคลองสิบสาม ตำบลเขาสามสิบ อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ได้เห็นการขับเคลื่อน การให้ความรู้เรื่องการจัดระบบการผลิต ตลอดจนการแปรรูปผลผลิตเพื่อการต่อยอดสู่ตลาด มีข้อสังเกตที่น่าสนใจจากโครงการนี้ เนื่องจากจำนวนพืชสมุนไพรที่ทางกลุ่มวิสาหกิจ มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ “ขมิ้น” ซึ่งให้ผลผลิตได้เป็นจำนวนมากแก่จังหวัดสระแก้ว นอกจากนี้ ยังมีมะระและพืชสมุนไพรอื่น ๆ ตามลำดับ แต่ทางกลุ่มวิสาหกิจยังใช้เงินทุนในการจัดซื้อเครื่องจักรที่ใช้ในการแปรรูปเพราะมีราคาค่อนข้างสูง เบื้องต้น ได้ประสานให้วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว เข้ามาช่วยเหลือด้านเครื่องจักรที่ใช้ในการแปรรูปการตากแห้ง เพื่อสนับสนุนทางกลุ่มฯ ในการลดต้นทุน และยังติดต่อทางหน่วยงานด้านพลังงานเข้ามาให้ความรู้เรื่องโรงตากแห้งด้วย

อย่างไรก็ตาม ความต้องการสมุนไพรจังหวัดสระแก้ว ขณะนี้มีทิศทางที่แจ่มใส มีออเดอร์สั่งเพิ่มมากขึ้น เช่น ฟ้าทะลายโจรแห้ง และขมิ้นชันพันธุ์แดงสยาม จำนวนกว่า 40 ตัน หากความร่วมมือหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมที่จะส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาสระแก้วเป็นเมืองปลูกพืชสมุนไพร เพื่อพัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้ต่อเนื่องและเข้มแข็ง สนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ สามารถนำความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ไปประกอบอาชีพ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถอยู่ในชุมชนและสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป

—————————
ขอบคุณข้อมูล-ภาพ/ดุลยศักดิ์ ไชยรัตน์

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"