สระแก้ว – โครงการโคบาลบูรพา จ.สระแก้ว เปิดจำหน่ายผลผลิตลูกโค รอบที่ 9 เงินสะพัดส่งท้ายปี 2563 สามารถขยายผลไปยังเกษตรกรผู้สนใจเข้าร่วมโครงการในระยะที่ 2 ไปแล้วมากกว่า 200 ราย ให้ยืมโคเนื้อเพศเมียราว 1,000 ตัว
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินโครงการโคบาลบูรพา ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2560 เป็นต้นมา เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่สำคัญของภาคตะวันออก แต่มีพื้นที่ที่อยู่ในเขตชลประทานเพียง ร้อยละ 10.4 ของพื้นที่ในการทำการเกษตรเท่านั้น ทำให้การเพาะปลูกข้าวและพืชไร่ต่าง ๆ ได้ผลผลิตค่อนข้างต่ำ รัฐบาลจึงมีนโยบายสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่นอกเขตชลประทานไปประกอบอาชีพอื่นที่เหมาะสมกว่า เช่น การเลี้ยงโคเนื้อ และเลี้ยงแพะ เป็นต้น ซึ่งมีศักยภาพสูงในด้านการเลี้ยงสัตว์ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาให้จังหวัดสระแก้วเป็นเมืองปศุสัตว์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งทางด้านตะวันออกของประเทศ หรือโคบาลบูรพา
สำหรับโครงการโคบาลบูรพา ทางรัฐบาลจะสนับสนุนให้เกษตรกรเลี้ยงแม่โคเนื้อ รายละ 5 ตัว แพะเนื้อ รายละ 32 ตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง ในลักษณะยืมเพื่อการผลิต พร้อมอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการปลูกสร้างสถานที่ ปรับปรุงแปลงพืชอาหารสัตว์ฟรี และให้ยืมเงินทุนไม่มีดอกเบี้ยเพื่อสร้างปรับปรุงโรงเรือน และขุดเจาะ ปรับปรุงบ่อบาดาล ซึ่งเมื่อเกษตรกรส่งคืนโคเพศเมีย อายุ 12 เดือน 5 ตัวแรก ลูกแพะเพศเมีย อายุ 6 เดือน 32 ตัวแรก ตามเงื่อนไขแล้ว แม่โค หรือแพะที่ได้รับการสนับสนุนไปนั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรทันที ส่วนลูกโค ลูกแพะที่โครงการได้รับคืนมาก็จะนำไปขยายผลช่วยเหลือเกษตรกรรายใหม่ที่สนใจอีกต่อไป
ทั้งนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ก็ได้มอบหมายให้ นายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ พร้อมด้วย นายกิตติ กุบแก้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมและพัฒนาโคเนื้อ และนายประสิทธิ์ ต้อยติ่ง ปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว ร่วมกันลงพื้นที่อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว เพื่อเยี่ยมชมสภาพการซื้อขายลูกโคของเกษตรกร ซึ่งเป็นผลผลิตจากโครงการฯ ครั้งที่ 9 ที่บริเวณที่ทำการสหกรณ์ปศุสัตว์โคบาลบูรพาวัฒนานคร จำกัด ซึ่งปัจจุบัน สมาชิกของโครงการสามารถจำหน่ายลูกโคเนื้อเพศผู้ไปแล้วมากกว่า 1,000 ตัว สร้างรายได้แก่เกษตรกรมากกว่า 30 ล้านบาท โดยมี “สุรสิงห์ฟาร์ม” และสหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อ จำกัด เป็นผู้รับซื้อแบบชั่งน้ำหนัก ในราคาประกัน ซึ่งสร้างความพึงพอใจและความมั่นใจให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้โครงการฯ ยังสามารถขยายผลไปยังเกษตรกรผู้สนใจเข้าร่วมโครงการในระยะที่ 2 ไปแล้วมากกว่า 200 ราย ให้ยืมโคเนื้อเพศเมียราว 1,000 ตัว โดยนายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้งแล้ว ยังช่วยเหลือ ส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ แก่เกษตรกรและประชาชนผู้สนใจ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด-19 เป็นการสร้างอาชีพ และสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวจากการเลี้ยงโคเนื้ออีกด้วย
——————————-
ข่าวโดย/อารียา สำราญ ทีมข่าวสระแก้ว
