X

อนุญาตนำแรงงานกัมพูชา 1 หมื่นคน เข้ามาตัดอ้อยวันละ 300 คน เริ่มได้ปลายเดือน ธ.ค.นี้

สระแก้ว – ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.สระแก้ว พิจารณาอนุญาตนำแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา 1 หมื่นคน เข้ามาตัดอ้อยวันละ 300 คน โดยต้องเป็นไปตามแนวทางของมาตรการควบคุมโรคของสาธารณสุขทุกขั้นตอน คาดว่า จะเริ่มได้อีกประมาณ 1 สัปดาห์ข้างหน้า

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 9 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสระแก้วและวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ร่วมกับนายอำเภอทุกอำเภอ เพื่อรับมือและตรวจสอบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยมี นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด, นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, ทหาร ตรวจคนเข้าเมือง แรงงานจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาการอนุญาตให้ผู้ประกอบการชาวไร่อ้อยในจังหวัด สามารถนำเข้าแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 10,000 คน เพื่อมาตัดอ้อยในฤดูกาลหีบอ้อยในช่วงต้นเดือน ม.ค.64 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ สั่งการให้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการตามคำสั่งของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ที่ 30/2563 เรื่อง แนวทางการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ด้วย

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงแนวทางการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยพื้นที่ชายแดน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการลาดตระเวนโดยเฉพาะช่องทางที่มีการลักลอบเข้าเมืองบ่อยครั้ง วางเครื่องกีดขวางร่วมกับเครื่องกีดขวางทางธรรมชาติ เฝ้าตรวจโดยการจัดชุดตรวจ โดยใช้เครื่องมือ เช่น กล้องซีซีทีวี โดรน และเครื่องมือพิเศษต่าง ๆ รวมทั้งใช้กลไกความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหารือปัญหา และสร้างความตระหนักรู้กับชุมชน โดยมีกองทัพ กอ.รมน. มหาดไทย ร่วมมือชุมชนให้คอยเป็นหูเป็นตา และฝากให้ทุกอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน นำข่าวสารแจ้งทุกพื้นที่ช่วยกันเฝ้าระวัง หากมีการหลุดรอดจะเกิดความเสี่ยง พร้อมทั้งใช้การข่าวเชิงลึก ตรวจสอบการลักลอบเข้าเมืองและการประสานการปฏิบัติร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการพิจารณามาตรการขอนำเข้าแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อใช้ในการตัดอ้อยใน จ.สระแก้ว ประจำปี 63 จำนวนประมาณ 10,000 คน ซึ่งที่ประชุมพูดคุยขอความเห็นอย่างกว้างขวางและพิจารณาอนุญาตให้นำเข้าได้ แต่ต้องมีมาตรการและรายละเอียดก่อนเดินทางเข้ามา นายจ้าง การตรวจวัดหาเชื้อโควิดและสถานที่กักตัวชัดเจน โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่สามารถรองรับให้เข้ามาได้ ไม่เกิน 300 คน/วัน ภายหลังเข้าชี้แจงกับ สบค.ส่วนกลาง เห็นชอบในหลักการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้มีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 จำนวน 3 ครั้ง ก่อนเข้ามาในประเทศไทย 1 ครั้ง หลังเข้ามาได้ 1 สัปดาห์ระหว่างกักตัว 14 วัน 1 ครั้ง โดยตรวจแบบกลุ่ม 4 คน 1 ตัวอย่าง และช่วงก่อนครบระยะกักตัวอีก 1 ครั้ง รวม 3 ครั้ง ค่าตรวจ 4,200 บาท โดยเป็นการกักตัวแบบกลุ่ม ๆ ละ 10 คน พร้อมทั้งพิจารณาให้เข้ามาอยู่ในคราวเดียว จากระยะ 30 วันเป็น 90 วัน เพื่อไม่ให้ต้องเดินทางไปต่ออายุหลายครั้ง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งคัด

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะประธานที่ประชุม ได้มอบหมายให้นายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา ร่วมกับแรงงานจังหัด สาธารณสุขจังหวัด จัดทำข้อสรุปมาตรการอย่างละเอียดนำเสนอคณะกรรมการฯในช่วงกลางสัปดาห์หน้า เพื่อให้เกิดความชัดเจนและทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องพิจารณาร่วมกัน ก่อนจะนัดพูดคุยแนวทางปฏิบัติกับกระทรวงต่างประเทศและมหาดไทย และพูดคุยกับฝั่งประเทศกัมพูชาภายในสัปดาห์เดียวกัน ซึ่งเบื้องต้นทางกัมพูชาเห็นชอบแล้ว คาดว่า ช่วงสัปดาห์ปลายเดือน ธ.ค.นี้ จะสามารถนำเข้าแรงงานตัดอ้อยชาวกัมพูชาเพื่อมากักตัวตามมาตรการและรูปแบบที่กำหนดไว้ได้ทันที ฉะนั้น จำเป็นต้องสรุปกระบวนการเพื่อนำเสนอ ก.ต่างประเทศ และนำข้อสรุปไปคุยกับทางกัมพูชาเพื่อนำเข้าแรงงานตามระบบ เพื่อให้ทันการเปิดฤดูกาลหีบอ้อยในวันที่ 5 ม.ค.นี้

ในวันเดียวกัน แม่ทัพภาคที่ 1 ได้เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อตรวจสอบปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และแนวทางรับมือแรงงานชาวกัมพูชา ของกองกำลังบูรพาในพื้นที่ อ.ตาพระยา อรัญประเทศ และคลองหาด ด้วย ส่วนสถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่ จ.สระแก้ว ประชาชนเริ่มหันมาสวมใส่หน้าหากอนามัยและพกเจลล้างมือกันมากขึ้น เนื่องจากมีข่าวลือว่าฝั่งประเทศกัมพูชามีการระบาดของโควิด19 และตำรวจในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงสูงที่ จ.เชียงรายและป่วย ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วานนี้เป็นต้นมา สำนักงานสาธารณสุขแต่ละอำเภอใน จ.สระแก้ว ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ อสม.และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือการระบาดรอบใหม่ โดยที่หอประชุมอำเภอวังสมบูรณ์ นายพจน์ เอมบัณฑิตย์ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอวังสมบูรณ์ นายบุญยืน ทิศพรม สาธารณสุขอำเภอวังสมบูรณ์ และ พ.ต.ท.สุนทร หมื่นอนันต์ สว.สส.สภ.วังสมบูรณ์ ได้ร่วมประชุมชี้แจงซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติ กรณีพบผู้สงสัยป่วยด้วยโควิด 19 ในชุมชนและกรณีพบแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่อำเภอวังสมบูรณ์ ให้แก่ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จำนวน 100 คน

—————————–

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"